ด้านการถ่ายภาพ
กล้องหน้าแบบ In-Display Selfie 20MP

Mi 11 ติดตั้งกล้องหน้าเซลฟี่แบบฝังใต้หน้าจอ In-Display Selfie ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f2.2, เม็ดพิกเซลขนาด 0.8 ไมครอน (1.6 ไมครอนแบบ 4-in-1 Super Pixel) และรองรับการถ่ายวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุดระดับ FHD 1080P ที่ความเร็ว 60fps โดยมีหน้าตา User Interface ที่สามารถใช้งานได้ง่าย พร้อมทั้งแสดงไอคอนเอาไว้ให้ใช้งานได้ทันที ได้แก่ เปิดปิดไฟแฟลช, ฟังก์ชัน HDR, เปิดปิด AI, สัดส่วนภาพถ่าย, การตั้งเวลาถ่ายภาพ และการตั้งค่าอื่นๆ
ภาพตัวอย่างจากกล้องหน้า






กล้อง AI หลัง 3 เลนส์ 108MP

Mi 11 มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัว AI Triple Camera ประกอบด้วย
- กล้องหลักความละเอียด 108 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Samsung ISOCELL Bright HMX รูรับแสง f/1.85, ขนาดเซ็นเซอร์ 1/1.33”, ขนาดพิกเซล 0.8μm, เทคโนโลยีซุปเปอร์พิกเซล 4-in-1 ถึง 1.6μmm และระบบกันสั่น OIS
- กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Ultra Wide Angle ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4, ขนาดเซ็นเซอร์ 1/3.06”, ขนาดพิกเซล 1,12μm, ถ่ายมุมกว้างได้ 123 องศา
- กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Macro ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4, ขนาดเซ็นเซอร์ 1/1.50”, ขนาดพิกเซล 1.12μm, ถ่ายระยะใกล้สุด 3-10 ซม

โดยหน้าตา UI ของกล้องใช้งานง่าย ด้านบนมีแถบเมนูเปิดปิดไฟแฟลชอัตโนมัติ, เปิดปิดโหมด HDR, เปิดปิดโหมด AI, เลือกปรับโหมดบิวตี้/ฟิลเตอร์, เปิดใข้งาน Google Lens และตั้งค่าการใช้งานกล้องต่างๆ
สามารถเลือกถ่ายได้ทั้งโหมดปกติ, โหมด Portrait, โหมดวิดีโอ, โหมดโปร, โหมดซุปเปอร์มาโคร, โหมดกลางคืน, โหมด 108MP, โหมดวิดีโอสั้น, โหมด Panorama, โหมดเอกสาร, โหมด Vlog, โหมดสโลโมชั่น, โหมดวิดีโอเคลื่อนไหว, โหมดวิดีโอคู่, โหมดเอฟเฟกต์ภาพยนตร์, โหมดการเปิดรับแสงนาน, โหมดซุปเปอร์มูน และโหมดโคลน
โดยภาพนิ่งถ่ายได้ที่ความละเอียดสูงสุด 9024×12032 (108MP) ส่วนวิดีโอบันทึกได้ที่ความละเอียดสูงสุด 8K 7680×4320 พิกเซล (24/30fps) พร้อมซูมแบบดิจิทัลได้ 6 เท่า
ภาพตัวอย่างจากกล้องหลัง












บทสรุป

Mi 11 ถือเป็นสมาร์ตโฟนเรือธง 5G รุ่นล่าสุดในตระกูล Mi Series ที่โดดเด่นทั้งเรื่องของดีไซน์ที่ดูสวยหรูสะดุดตา ด้วยดีไซน์ขอบโค้งทั้งด้านหน้าและด้านหลัง และน้ำหนักเบา ถือจับใช้งานได้ถนัดมือ และให้ความรู้สึกที่นุ่มนวล รวมถึงยังจัดเค็มด้วยสเปกระดับไฮเอนด์ ไม่ว่าจะเป็นชุมพลังชิปเซ็ท Snapdragon 888 รุ่นแรกของโลก จับคู่กับ RAM แบบ LPDDR5 และหน่วยความจำภายในแบบ UFS 3.1 รองรับการทั้งการใช้งาน และเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล ไม่มีสะดุด
นอกจากนี้ยังมาพร้อมหน้าจอแสดงผลคุณภาพสูงโดยได้คะแนนจาก DisplayMate ระดับ A+ สามารถแสดงสีสันได้อย่างแม่นยำ คมชัด และลื่นไหลด้วยอัตรารีเฟรช 120Hz พร้อมด้วยชุดกล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียด 108 ล้านพิกเซล ระบบบันทึกเสียงแบบภาพยนตร์ และระบบเสียงอันทรงพลังจาก Harman Kardon และการรองรับการชาร์จไร้สายสูงสุด 50W ในดีไซน์พรีเมียม ให้ Mi 11 เป็นเสมือนโรงถ่ายภาพยนตร์ในมือ ภายใต้แนวคิด Movie Magic

โดยรวมแล้วสรุปได้ว่า Mi 11 คือสมาร์ตโฟนเรือธงที่มีประสิทธิภาพสูง เหมาะสำหรับการใช้งานทุกระดับทุกประเภท โดยเฉพาะความบันเทิงเช่น การดูหนัง เล่นเกม และสามารถถ่ายรูปหรือวิดีโอได้ยอดเยี่ยม โดยมีเครื่องมือสร้างเอฟเฟกต์วิดีโอที่ใช้งานง่าย เหมาะกับคอนเทนต์ครีเอเตอร์ทั้งมือใหม่ และมือโปร ในราคาที่จับต้องได้

ทั้งนี้ Mi 11 มีให้เลือก 2 สี คือ สีน้ำเงิน Horizon Blue และสีเทาเข้ม Mignight Grey โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 21,990 บาทสำหรับรุ่น RAM 8GB+128GB และ 23,990 บาท สำหรับรุ่น RAM 8GB+256GB วางจำหน่ายแล้ววันนี้ที่ AIS, Dtac,True, Lazada, Shopee, JD Central, Thisshop, BaNANA, Jaymart, TG FONE, Mi Store และตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการทั่วประเทศ