OPPO พร้อมแล้วที่จะเปิดตัว OPPO Reno 11 Series พร้อม OPPO Pad Air2 แท็บเล็ตรุ่นใหม่อย่างเป็นทางการที่ประเทศจีนในวันที่ 23 พฤศจิกายนนี้
ล่าสุดมีข้อมูลสเปกของ OPPO Reno 11 และ Reno 11 Pro ปรากฎบนเว็บ China Telecom พร้อมเผยราคาออกมาแล้ว
สำหรับสเปกของ OPPO Reno 11 ตามข้อมูลบนเว็บ China Telecom ระบุว่าจะมาพร้อมหน้าจอแสดงผลขอบโค้งแบบ AMOLED ความละเอียด FHD+ 1080 x 2412 พิกเซล ขนาด 6.7 นิ้ว และมีอัตรารีเฟรชเรท 120Hz
ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ท Dimensity 8200 จับคู่กับ RAM 8GB/12GB และหน่วยความจำภายใน 256GB/512GB และรันบนระบบปฎิบัติการ Android 14 ครอบทับด้วย ColorOS 14
ติดตั้งกล้องหลัง 3 ตัวประกอบด้วยกล้องหลัก เซ็นเซอร์ Sony LYT-600 ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รองรับระบบกันสั่น OIS, กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และกล้องตัวที่ 3 เลนส์ Telephoto ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล
และตัวเครื่องมีชนาด 162.36 x 73.98 x 7.62 มม. และน้ำหนัก 184 กรัม
OPPO Reno 11 จะมีให้เลือกสามรูปแบบคือ RAM 8GB+256GB ราคา 2,799 หยวนหรือประมาณ 13,680 บาท, RAM 12GB+256GB ราคา 2,999 หยวนหรือประมาณ 14,650 บาท และ RAM 12GB+512GB ราคา 3,199 หยวนหรือประมาณ 15,630บาท และมีให้เลือก 3 สีคือ Obsidian Black, Moonlight White และ Fluorite Blue
ส่วนสเปกของ OPPO Reno 11 Pro จะมาพร้อมหน้าจอแสดงผลขอบโค้งแบบ AMOLED ความละเอียด 1.5K 1240 x 2772 พิกเซล ขนาด 6.74 นิ้ว และมีอัตรารีเฟรชเรท 120Hz
ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ท Snapdragon 8+ Gen 1 จับคู่กับ RAM 12GB และหน่วยความจำภายใน 256GB/512GB และรันบนระบบปฎิบัติการ Android 14 ครอบทับด้วย ColorOS 14
ติดตั้งกล้องหลัง 3 ตัวประกอบด้วยกล้องหลัก เซ็นเซอร์ Sony LYT-700 ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รองรับระบบกันสั่น OIS, กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และกล้องตัวที่ 3 เลนส์ Telephoto ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล
และตัวเครื่องมีชนาด 161.73 x 73.34 x 8.26 มม. และน้ำหนัก 190 กรัม
OPPO Reno 11 Pro จะมีให้เลือกสามรูปแบบคือ RAM 12GB+256GB ราคา 3,799 หยวนหรือประมาณ 18,560 บาท และ RAM 12GB+512GB ราคา 4,199 หยวนหรือประมาณ 20,520 บาท และมีให้เลือก 3 สีคือ Obsidian Black, Moonlight White และ Turquoise
ทั้งนี้ OPPO Reno 11 series จะวางจำหน่ายในประเทศจีนตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคมเป็นต้นไป
ที่มา : Gizmochina