คลังเก็บ

โนเกียสมาร์ทโฟนประกาศเปิดตัวใหม่ถึง 4 รุ่น นำเสนอประสบการณ์การใช้งานและนวัตกรรมการถ่ายภาพเหนือระดับ

 

บริษัท เอชเอ็มดี โกลบอล เจ้าของลิขสิทธิ์การจัดจำหน่ายสมาร์ทโฟนแบรนด์โนเกียทั่วโลกแต่เพียงผู้เดียว ประกาศเปิดตัวแอนดรอยด์สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุด 4 รุ่น นำโดย Nokia 9 PureView สมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกับกล้องหลัง 5 ตัวรุ่นแรกของโลก

ด้วยวิสัยทัศน์ในการเป็นผู้นำในการจัดจำหน่ายสินค้าเทคโนโลยีคุณภาพสูงแก่ผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนโนเกียจึงออกแบบให้มีความหลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคทุกรูปแบบ

โดยโทรศัพท์ที่เปิดตัวในวันนี้มีตั้งแต่สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Nokia 9 PureView ไปจนถึง Nokia 210 ฟีเจอร์โฟนราคาเข้าถึงได้ของ โนเกียที่มาพร้อมความสามารถในการใช้งานอินเทอร์เน็ต

นับเป็นเครื่องยืนยันและสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภคได้ว่าสมาร์ทโฟนของโนเกียจะสามารถตอบโจทย์ความต้องการอันหลากหลายของผู้บริโภคได้อย่างครอบคลุมทุกความต้องการ

Nokia

นวัตกรรมการถ่ายภาพเหนือระดับ

Nokia 9 PureView มาพร้อมกับกล้องหลังเลนส์ ZEISS Optics 5 ตัว ที่มายกระดับประสบการณ์การถ่ายภาพด้วยเทคโนโลยี Computational Imaging สำหรับผู้ที่หลงใหลในการถ่ายภาพโดยเฉพาะ

ภาพทุกภาพที่ถูกถ่ายด้วย Nokia 9 PureView จะอยู่ในโหมด HDR กล้องอันทรงประสิทธิภาพทั้ง 5 ตัว จะทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเก็บรายละเอียดอย่างแม่นยำทั้งความกว้างและลึกของภาพเพื่อนำมารวมกันเป็นภาพถ่ายที่มีความละเอียดสูงถึง 12 MP

Nokia 9 PureView สรรค์สร้างมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพโดยเฉพาะ ด้วยความสามารถในการถ่ายภาพแบบ RAW “DNG” ทั้งยังออกแบบมาให้ผู้ใช้งานสามารถตกแต่งภาพจากโทรศัพท์ได้ด้วยตนเอง ผ่านโปรแกรมแต่งภาพ Adobe Lightroom ซึ่งเป็นหนึ่งในพันธมิตรทางธุรกิจของโนเกีย ว่ากันว่า 50% ของศิลปะจากการถ่ายภาพนั้นขึ้นอยู่กับการตกแต่งภาพ แต่คุณสามารถมั่นใจได้ว่า Nokia 9 PureView จะช่วยให้การถ่ายภาพของคุณกลายเป็นเรื่องง่ายยิ่งขึ้น

สัมผัสประสบการณ์การใช้งานด้วยการกดปุ่ม Google Assistant  

ระบบการสั่งงานด้วยเสียงทำให้พฤติกรรมการใช้งานสมาร์ทโฟนในปัจจุบันเปลี่ยนไป ด้วยวิสัยทัศน์ที่ต้องการนำเสนอเทคโนโลยีคุณภาพแก่ลูกค้าทุกท่าน โนเกียจึงติดตั้งปุ่มกดสำหรับเรียกใช้งาน Google Assistant ที่จะทำให้การเรียกใช้งานมีประสิทธิภาพและฉับไวมากขึ้น โดยระบบนี้จะมีในสมาร์ทโฟนของโนเกียรุ่น Nokia 4.2 และ Nokia 3.2 เป็นต้นไป

ปุ่ม Google Assistant จะเปลี่ยนแปลงวิธีที่คุณใช้งานสมาร์ทโฟนไปตลอดกาล คุณสามารถเข้าถึง Google Assistant ได้เพียงปลายนิ้วสัมผัสด้วยการ กดหนึ่งครั้ง เพื่อให้ Google Assistant ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยอัจฉริยะของคุณในทุก ๆ วัน ไม่ว่าจะเป็นการหาข้อมูลการเดินทาง สั่งการโทรออก ฟังเพลง หรือไขข้อสงสัยในชีวิตประจำวันของคุณได้อย่างง่ายดาย

กดปุ่ม Google Assistant สองครั้งเพื่อเรียกดูประวัติการใช้งาน พร้อมระบบแนะนำอัจฉริยะที่เปลี่ยนแปลงไปตามการใช้งานจริงของ ข้อมูลการเดินทาง และคำเตือนที่ตั้งไว้ในปฏิทินที่จะช่วยเตือนความจำไม่ให้คุณพลาดนัดสำคัญอีกต่อไป หรือกดปุ่ม Google Assistant ค้างไว้ เพื่อเปิดระบบ Walkie-Talkie ให้ผู้ใช้สามารถพูดคุยและถามคำถามยาว ๆ กับ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ประสบการณ์การใช้งานเหนือระดับกับ โนเกีย สมาร์ทโฟนที่ยิ่งใช้ยิ่งดีขึ้นทุกวัน

โทรศัพท์ของโนเกียได้รับการเชื่อมต่อกับ Android One นับเป็นเครื่องการันตีว่าสมาร์ทโฟนทุกรุ่นของโนเกียจะได้รับการอัปเดตระบบความปลอดภัยรุ่นล่าสุดทุก ๆ เดือนเป็นเวลาอย่างน้อย 3 ปี และอัปเดตระบบ OS เป็น Android รุ่นใหม่ถึง 2 version ภายในระยะเวลาสองปี ทำให้สมาร์ทโฟนของโนเกียทุกรุ่นเป็นสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ที่ “ยิ่งใช้ยิ่งดีขึ้นทุกวัน” และยังคงความทันสมัยด้วยนวัตกรรมสั่งการด้วยระบบ AI

นอกจากนั้นยังมีระบบความปลอดภัยรุ่นล่าสุดจาก Google Play Protect ที่ติดตั้งมาพร้อมกับตัวเครื่อง และระบบปฏิบัติการแบบเพียวแอนดรอยด์ ทำให้สมาร์ทโฟนของโนเกียปราศจากการอัปเดตระบบ UI ที่ไม่จำเป็น และไม่มีระบบปฏิบัติการอื่น ๆ ที่จะทำให้การประมวลผลของโทรศัพท์ช้าลงหรือทำให้แบตเตอรี่ต้องใช้งานหนักซ่อนอยู่

นอกจากนี้สมาร์ทโฟนของโนเกียยังได้รับการติดตั้งแอปพลิเคชันที่ดีที่สุดจาก Google เพื่อไม่ให้กินพื้นที่ความจำของเครื่องมากเกินไป แต่ยังคงสภาพความทันสมัยของเทคโนโลยีให้ผู้ใช้อยู่สม่ำเสมอ

Android Enterprise Recommended

สมาร์ทโฟนของโนเกียอยู่ในโครงการ Android Enterprise Recommended นับได้ว่าโนเกียเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่มีสมาร์ทโฟนหลายหลายรุ่นซึ่งมีความสามารถในการรองรับ Android Enterprise Recommended เช่น รุ่น Nokia 9 PureView จนถึง Nokia 3.2

โครงการ Android Enterprise Recommended นับเป็นเครื่องยืนยันและสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ใช้งานว่าสมาร์ทโฟนที่ได้รับการรับรองจาก Google จะมีความสามารถในการใช้งานที่ตอบโจทย์ในการดำเนินธุรกิจ ทั้งยังมาพร้อมกับสเปกเครื่องที่สูง ด้วย ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานองค์กร และการอัพเดตระบบความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลก

ฟลอเรียน ซีช (Florian Seiche) ซีอีโอของ เอชเอ็มดี โกลบอล กล่าวว่า  “ผู้บริโภคได้ให้การตอบรับต่อการพัฒนาของโทรศัพท์มือถือโนเกียเป็นอย่างดี ต้องขอขอบคุณความสามารถในการพัฒนาระบบแอนดรอยด์อย่างอัจริยะของทีมนักพัฒนา ที่สามารถนำเสนอประสบการณ์เพียวแอนดรอยด์ ที่ ปลอดภัย และทันสมัยอยู่เสมอแก่ผู้บริโภคทุกท่าน

พวกเราได้เปลี่ยนแปลงระยะเวลาในการใช้งานสมาร์ทโฟน โดยนำเสนอประสบการณ์การใช้งานที่ยิ่งใช้ ยิ่งดีขึ้นทุกวันให้แก่ผู้บริโภค วันนี้พวกเราและโทรศัพท์รุ่นใหม่ล่าสุดจากโนเกียพร้อมแล้วที่จะก้าวไปข้างหน้าด้วยการส่งมอบนวัตกรรมใหม่ลาสุดจาก Google ผ่านสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์คุณภาพชั้นนำหลากหลายรุ่นของเรา”

จูโฮ ซาร์วีกาส ผู้บริหารฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ เอชเอ็มดี โกลบอล เผยว่า วันนี้พวกเราเลือกที่จะเดินไปข้างหน้าด้วยการใช้นวัตกรรมอันเป็นมรดกของโนเกียในการเป็นผู้บุกเบิกเทคโนโลยีการถ่ายภาพ ด้วยการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธง Nokia 9 PureView

พวกเรามีความเชื่อว่าทุกคนควรที่จะครอบครองสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัย จึงตัดสินใจที่จะเปิดตัว Nokia 9 PureView สมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกับดีไซน์ที่เรียบหรูทันสมัย และเทคโนโลยีการประมวลผลหน้าจอชั้นนำในราคาที่ทุกคนสามารถจับต้องได้

และแน่นอนว่านอกจากดีไซน์อันโดดเด่นแล้ว Nokia 9 PureView ยังมาพร้อมกับความทนทานและความประณีตในการผลิตตามแบบฉบับของโนเกีย พร้อมทั้งความสามารถในการมอบประสบการณ์การใช้งาน    เพียวแอนดรอยด์ ปลอดภัย และทันสมัยอยู่เสมอ เพื่อให้สมาร์ทโฟนโนเกียเป็นผลิตภัณฑ์ที่ยิ่งใช้ยิ่งดีขึ้นทุกวัน

เป็กกา รันทาลา ประธานเจ้าหน้าที่สูงสุดฝ่ายการตลาด บริษัท เอชเอ็มดี โกลบอล กล่าวว่า “ด้วยพันธกิจอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์โนเกีย พวกเราตัดสินใจที่จะยกระดับความคาดหวังต่อสมาร์ทโฟนของผู้บริโภคทุกท่าน นอกจากความสามารถในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีความน่าเชื่อถือและทนทานในแบบฉบับของโนเกียแล้ว พวกเรายังสามารถที่จะมอบประสบการณ์แอนดรอยด์อันน่าประทับใจให้แก่ผู้บริโภคทุกท่านอีกด้วย

โดยสมาร์ทโฟนของโนเกียจะได้รับการอัปเดตระบบ OS เป็นเวลาสองปี และการันตีการอัปเดตระบบความปลอดภัยทุก ๆ เดือนเป็นระยะเวลาสามปี ด้วยเหตุนี้ สมาร์ทโฟนของโนเกียจึงทันสมัยอยู่เสมอและให้ประสบการณ์การใช้งานที่ตอกย้ำถึงภาพลักษณ์การเป็นสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ที่ยิ่งใช้ยิ่งดีขึ้นทุกวัน”

Nokia 9 Pureview

Nokia 9 PureView

สมาร์ทโฟนรุ่นแรกของโลกที่มาพร้อมกับกล้องหลังเลนส์ ZEISS Optics 5 ตัว ซึ่งแบ่งเป็นเลนส์ที่มีเซนเซอร์สำหรับเก็บภาพสี 2 ตัว และเซนเซอร์สำหรับเก็บภาพแบบ Monochromatic 3 ตัว เพื่อการประมวลผลภาพที่คมชัดยิ่งกว่า เมื่อเลนส์อันทรงพลังทั้ง 5 ทำงานร่วมกันจะสามารถเก็บแสงได้มากกว่าเซนเซอร์รับแสงแบบตัวเดียวถึง 10 เท่า

ภาพทุกภาพที่ถ่ายด้วย Nokia 9 PureView จะเป็นภาพแบบ HDR พร้อมรูรับแสงที่กว้างถึง 12.4 และความกว้างในการเก็บภาพที่ลึกถึง 12 MP ซึ่งรูปความละเอียด 12 MP แต่ละรูปจะมีความละเอียดของภาพสูงทั้งในแสงสว่างจ้าหรือแม้แต่ในแสงเงา

นอกจากนั้นแต่ละภาพจะมีความคมชัดสวยงามอย่างน่าอัศจรรย์อีกด้วย โหมด Depth Map ช่วยให้คุณสามารถสร้างภาพแบบ Bokeh ได้อย่างสวยงาม และให้คุณสามารถแต่งภาพหรือเลือกจุดโฟกัสได้ในภายหลังด้วย Google Photos

นอกจากนั้น Nokia 9 PureView ยังมาพร้อมสถาปัตยกรรมอันชาญฉลาดจาก Qualcomm Snapdragon ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้การประมวลผลภาพถ่ายดีขึ้นกว่าเคย Nokia 9 PureView ช่วยให้คุณสามารถถ่ายภาพแบบ RAW “DNG” ทั้งยังออกแบบมาให้ผู้ใช้งานสามารถตกแต่งภาพจากโทรศัพท์ได้ด้วยตนเอง ผ่านโปรแกรมตกแต่งภาพ Adobe Photoshop Lightroom ซึ่งเป็นหนึ่งในพันธมิตรทางธุรกิจของโนเกีย

Nokia 9 PureView นำเสนอประสบการณ์สมาร์ทโฟนเรือธงอันโดดเด่น ด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัยจากชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon และระบบประมวลผลหน้าจอแบบ 2K pOLED PureDisplay มาพร้อมกับ Qi แท่นชาร์จ  แบตแบบไร้สายและระบบสแกนลายนิ้วมือที่ติดตั้งอยู่ใต้หน้าจอ

นอกจากนี้ Nokia 9 PureView ยังถูกออกแบบและผลิตออกมาอย่างประณีต ปราศจากรอยต่อของเลนส์กล้อง สะท้อนให้เห็นถึงดีไซน์และมาตรฐานในการผลิตอันโดดเด่นตามแบบฉบับของโนเกีย ทั้งยังมีความทนทานต่อการกระแทกและการตกหล่นที่อาจเกิดขึ้นได้ในชีวิตประจำวัน ด้วยตัวเครื่องที่ผลิตจากวัตถุดิบ Corning Gorilla Glass 5 ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง

Nokia 4.2

Nokia 4.2 เป็นสมาร์ทโฟนของโนเกียที่ได้รับการออกแบบให้มีนวัตกรรมล้ำสมัย ในราคาที่จับต้องได้ มีดีไซน์คลาสสิค ด้วย Sculpted-Glass ที่ไม่เพียงแต่ดูหรูหราเท่านั้น แต่มาพร้อมกับนวัตกรรม AI ชั้นเลิศ กล้องหลังเลนส์คู่ ขับเคลื่อนด้วยระบบชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon และทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 9 Pie ตัวใหม่ล่าสุด

นอกจากนี้ Nokia 4.2 ยังมาพร้อมกับปุ่มเรียกใช้งาน Google Assistant ที่จะเปลี่ยนแปลงการใช้งานสมาร์ทโฟนของคุณไปตลอดการ เพียงกดปุ่ม Google Assistant หนึ่งครั้งเพื่อเข้าถึงระบบการช่วยเหลือจาก Google ในทันที

กดสองครั้งเพื่อรับข้อมูลเรื่องราวที่คุณสนใจจากระบบการช่วยเหลือและอัจฉริยะที่เรียนรู้และปรับเปลี่ยนไปตามการใช้งานจริงของผู้ใช้งาน หรือกดปุ่ม Google Assistant ค้างไว้ เพื่อใช้งานระบบ Walkie-Talkie ให้คุณสามารถบรรยายถึงปัญหาและถามคำถามในรูปแบบประโยคยาวแก่ Google ได้

Nokia 4.2 มาในขนาดที่พอดี เหมาะแก่การใช้งานมือเดียวด้วยความหนาเพียง 8.4 มม. และหน้าจอชนขอบขนาดกว้างที่มาพร้อมกับเลนส์กล้องหน้าสำหรับการถ่าย Selfie รวมถึงความสามารถในการถ่ายภาพของสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธง เช่น ระบบ multi-camera imaging และเซนเซอร์รับแสงคู่ของกล้องหลัง ให้คุณสามารถถ่ายภาพออกมาได้อย่างสวยงามโดดเด่นแบบสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธง ในราคาที่จับต้องได้

Nokia 3.2

Nokia 3.2 มาพร้อมหน้าจอ HD+ ขนาดใหญ่ที่สุดเมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นในช่วงราคาเดียวกัน และแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้ยาวนานถึงสองวันทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 9 Pie รุ่นล่าสุด หน้าจอขนาดใหญ่ที่มีความกว้างถึง 6.2 นิ้ว HD+ ทำให้ประสบการณ์การรับชมภาพยนตร์บนจอมือถือของคุณคมชัดและสะดวกสบาย

ให้คุณเพลิดเพลินกับความบันเทิงที่มาพร้อมกับความทนทานของแบตเตอรี่ ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 427 ที่ให้การใช้งานแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ บนสมาร์ทโฟนของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นไม่มีติดขัด

และระบบ Google Assistant ระบบ AI ล่าสุดที่จะช่วยอำนวยความสะดวกสบายในการใช้งานสมาร์ทโฟนในทุกๆ วัน เพียงกดปุ่ม Google Assistant หนึ่งครั้งเพื่อเข้าถึงระบบการช่วยเหลือจาก Google ในทันที

กดสองครั้งเพื่อรับข้อมูลภาพถ่ายของกิจกรรมทั้งวันของคุณ หรือ กดปุ่ม Google Assistant ค้างไว้ เพื่อใช้งานระบบ Walkie-Talkie

Nokia 1 Plus

อัพเกรดประสบการณ์การใช้งานสมาร์ทโฟนรุ่นเริ่มต้นของคุณด้วย Nokia 1 Plus สมาร์ทโฟนน้องใหม่ในตระกูล Android (Go edition) ที่ทำงานบนระบบ Android 9 Pie (Go edition) รุ่นแรกของโลกมาพร้อมกับความสามารถในการถ่ายภาพ หน้าจอขนาดกว้างและดีไซน์อันหรูหราคุณภาพสูงตามแบบฉบับของโนเกียในราคาที่จับต้องได้

ให้คุณได้เพลิดเพลินไปกับเกมและแอปพลิเคชันโปรดบนระบบปฏิบัติการรุ่นล่าสุด Android (Go edition) ที่มาพร้อมกับระบบช่วยเหลือ Google Assistant Go นอกจากนี้ Nokia 1 Plus ยังมาพร้อมกับดีไซน์ที่เรียบหรู ด้วยนวัตกรรมแบบ 3D tooling ที่สามารถเก็บรายละเอียดได้อย่างประณีตสวยงาม ด้วยนาโนแพทเทิร์นที่ครอบคลุมตัวเครื่องตั้งแต่ด้านหลังจนถึงด้านหน้าจอ

นอกจากนี้ Nokia 1 Plus ยังมาพร้อมกับเลนส์คู่กล้องหลังที่ให้คุณเพลิดเพลินไปกับการถ่ายภาพที่คมชัด และการถ่ายรูป Selfie อันโดดเด่นด้วยกล้องหน้าที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ Beautify

Nokia 210

ฟีเจอร์โฟนน้องใหม่ล่าสุดจากโนเกีย ที่ให้คุณเพลิดเพลินไปกับการท่องเว็ปด้วยเบราเซอร์ Opera Mini และเกมงูได้อย่างไร้ขีดจำกัดโดยไม่ต้องกังวลว่าแบตเตอรี่จะหมด Nokia 210 เป็นฟีเจอร์โฟนรุ่นสำคัญของโนเกียที่สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ ผลิตด้วยวัตถุดิบที่คงทน และชุบสีด้วย Polycarbonate ที่จะสามารถกลบรอยกระแทกหรือรอยร้าวจากการใช้งานจริง

เพลิดเพลินไปกับการท่องเว็ปบนเบราเซอร์ Opera Mini หรือเชื่อมต่อกับเพื่อนฝูงบน Facebook ได้อย่างไร้ข้อกังวลว่าแบตเตอรี่จะหมด นอกจากนี้ผู้ใช้งานยังสามารถเพิ่มเอกลักษณ์ความเป็นตัวตนให้แก่สมาร์ทโฟนของคุณด้วยการดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นโปรด    ริงโทน หรือวอลเปเปอร์จาก Mobile Store

มาพร้อมกับอุปกรณ์เสริม

นอกจากนั้นยังมีอุปกรณ์เสริมใหม่อีก 2 รุ่น ได้แก่ แท่นชาร์จแบตไร้สาย (Nokia Wireless Charger) และแท่นชาร์จแบตไร้สายขนาดพกพา (Nokia Portable Wireless Charger)

ซึ่งทั้งสองอุปกรณ์สามารถรองรับสายชาร์จแบบ Qi จึงรองรับการชาร์จแบบไร้สายให้กับ Nokia 9 PureView และ Nokia 8 Sirocco

แท่นชาร์จแบตไร้สายรองรับการชาร์จแบบไร้สายอย่างรวดเร็วด้วยไฟ 10 วัตต์ ทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการชาร์จอย่างรวดเร็วไม่ว่าจะเป็นที่บ้านหรือที่ทำงาน แท่นชาร์จแบตไร้สายจากโนเกียสามารถทำหน้าที่เป็นแบตสำรองแบบพกพาให้คุณนำติดตัวไปได้ทุกที่โดยไม่ต้องกัลวลว่าจะลืมสายชาร์จไว้ที่บ้าน แท่นชาร์จแบตไร้สายจากโนเกียยังรองรับสายชาร์จแบบ USB จึงสามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณืที่ไม่รองรับการชาร์จแบบไร้สายได้อีกด้วย

การวางจำหน่าย

  • Nokia 9 PureView วางขายแล้วทั่วโลก มีราคาโดยประมาณอยู่ที่ 699 USD
  • Nokia 4.2 จะวางขายพร้อมกันทั่วโลกในเดือนเมษายนเป็นต้นไป โดยรุ่น 2/16 มีราคาอยู่ที่ 169 USD และรุ่น 3/32 จะมีราคาที่ 199 USD
  • Nokia 3.2 จะวางขายพร้อมกันทั่วโลกในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม โดยรุ่น 2/16 มีราคาอยู่ที่ 139 USD และรุ่น 3/32 จะมีราคาที่ 169 USD
  • Nokia 1 Plus จะวางขายพร้อมกันทั่วโลกตั้งกลางเดือนมีนาคมเป็นต้นไปในราคา 99 USD
  • Nokia 210 จะวางขายพร้อมกันทั่วโลกในเดือนมีนาคมในราคา 35 USD
  • แท่นชาร์จแบตไร้สาย (Nokia Wireless Charger) ราคา 49 USD
  • แท่นชาร์จแบตไร้สายขนาดพกพา (Nokia Portable Wireless Charger) ราคา 64 USD