· เอไอเอส เผยยอดชมวิดีโอบนแอปฯ AIS PLAY และกล่อง AIS PLAYBOX โตอย่างก้าวกระโดด คนนิยมชมเอ็กซ์คลูซีฟฟรีคอนเทนต์ อย่างไลฟ์คอนเสิร์ตมากที่สุด จึงเร่งต่อยอดความสำเร็จ ควง 3 ค่าย จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่, ซีเนริโอ และวอท เดอะ ดัก เชื่อมความสนุกจากออฟไลน์สู่ออนไลน์ ยกขบวนไลฟ์คอนเสิร์ตจากศิลปินดัง และมิวสิคัลโชว์แห่งปีที่ทุกคนรอคอย รวมถึงคลังคอนเสิร์ตย้อนหลังให้คนไทยชมฟรี! ตลอดทั้งปี พร้อมปักธง ปั้น AIS PLAY เป็นวิดีโอแพลตฟอร์มบันเทิงเพื่อ คนไทย พร้อมสนับสนุนโอกาสใหม่ๆ ทางธุรกิจให้กับพันธมิตร
· ฟ้าใหม่ ย้ำ คอนเสิร์ตแกรมมี่ ยิ่งไลฟ์ยอดขายบัตร ยิ่งพุ่ง มองเป็นโอกาสโตของวงการเพลง ตีโจทย์ขยายความบันเทิงทุกรูปแบบสู่แพลตฟอร์มออนไลน์ เผยฟีดแบ็กปีที่แล้วเปรี้ยงมาก แฟนๆ ติดใจ ภาพคมชัด และมีหลายจอให้เลือก แง้มปีนี้ เสริมทัพ ขนคลังคอนเสิร์ตดังแกรมมี่ที่ทุกคนคิดถึง รวม 120 คอนเสิร์ต ในรอบ 20 ปี มาให้เลือกดูย้อนหลังอย่างเต็มอิ่ม
· บอย ถกลเกียรติ ร่วมกับ เอไอเอส ปลุกกระแส การแสดงสดรูปแบบใหม่แห่งปี 2018 ด้วยการเปิดประสบการณ์ การชมผ่านหน้าจอแบบเรียลไทม์ ตั้งเป้าขยายฐานผู้ชมการแสดงสดให้บูมในวงกว้าง คาดช่วยกระตุ้นให้อยากมาสัมผัสบรรยากาศจริง เชื่อมั่น ทำออนไลน์ดี ช่วยสร้างการรับรู้ หนุนออฟไลน์
นายปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าทั่วไป เอไอเอส กล่าวว่า “วันนี้ เอไอเอส มี AIS PLAY เป็นวิดีโอแพลตฟอร์ม ที่อัดแน่นไปด้วยคอนเทนต์จากทุกมุมโลก ตอบไลฟ์สไตล์ของลูกค้าทุกกลุ่ม โดยคอนเทนต์ที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือ เอ็กซ์คลูซีฟฟรีคอนเทนต์ อย่างไลฟ์คอนเสิร์ต, รายการวาไรตี้ต่างๆ ที่เอไอเอสได้ร่วมกับพันธมิตรคัดสรรมาให้ชมบน AIS PLAY และกล่อง AIS PLAYBOX โดยเฉพาะ
เป็นสิทธิพิเศษด้านความบันเทิงที่เราตั้งใจมอบให้กับลูกค้าเอไอเอสเท่านั้นที่จะได้ชม ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดีเกินคาด ปีนี้เราจึงต่อยอดความสำเร็จ จับมือกับพันธมิตรธุรกิจบันเทิง ได้แก่ จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่, ซีเนริโอ และวอท เดอะ ดัก นำคอนเสิร์ตและมิวสิคัลโชว์ มาให้ชมสดผ่านเครือข่ายมือถือ เพื่อมอบประสบการณ์ความสนุกครั้งใหญ่ให้กับลูกค้าได้ชมแบบเต็มอิ่มตลอดปี 61 นี้ และเตรียมเปิดตัวความร่วมมือกับค่ายเพลงและค่ายบันเทิงชั้นนำอีกมากมายในเร็วๆ นี้
โดยเอไอเอสถือเป็นรายแรกที่ลงมาบุกเบิกตลาดคอนเทนต์ ไลฟ์คอนเสิร์ต แบบเต็มตัว เพราะเราเชื่อว่า เครือข่ายดิจิทัลจะเป็นตัวกลางในการเชื่อมต่อโลกของออฟไลน์หรือออนกราวด์อีเวนท์มาอยู่บนออนไลน์ เพื่อให้คนได้สัมผัสและเข้าถึงความสนุกได้อย่างไร้ข้อจำกัด ในแง่พันธมิตร ก็จะเป็นการช่วยสนับสนุนและสร้างโอกาสใหม่ๆ ทางการตลาดและการเข้าถึงฐานผู้ชมในวงกว้างมากขึ้น โดยเราใช้เทคโนโลยีการถ่ายทอดสดที่ทันสมัย ให้ภาพคมชัด และเลือกชมได้แบบ Multi-Screen สูงสุด 3 มุมกล้อง”
ในปีที่ผ่านมา AIS PLAY จัดถ่ายทอดสดคอนเสิร์ตใหญ่ๆ ไปแล้ว จำนวน 23 คอนเสิร์ต มียอดผู้ชมรวม 5 ล้านวิว โดยคอนเสิร์ตที่มียอดผู้ชมสดสูงสุด อันดับ 1 คือ Big Mountain Music Festival 2018อันดับ 2 คือ Urban Music Festival และ อันดับ 3 คือ Whitehaus2 โดยคอนเทนต์ที่ได้รับความนิยมสูงสุด ได้แก่ ไลฟ์คอนเสิร์ต, รายการวาไรตี้ อาทิ Take Me Out Thailand และคอนเสิร์ตย้อนหลัง (VOD) ตามลำดับ
นายฟ้าใหม่ ดำรงธรรม กรรมการผู้จัดการ สายงานการตลาดและการขาย จีเอ็มเอ็ม มิวสิค บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “แนวทางของจีเอ็มเอ็มฯ คือ เราพยายามที่จะสร้าง Total Experience ให้กับผู้ชมอย่างต่อเนื่อง โดยขยายสู่ช่องทางของดิจิทัลแพลตฟอร์มมากขึ้นเรื่อยๆ จากเดิมที่เราเคยนำเพลง หรือวิดีโอ มาลงบนออนไลน์
แต่วันนี้ แม้กระทั่ง ออนกราวด์อีเวนท์อย่างคอนเสิร์ต ก็ต้องปรับตัวมาสู่ดิจิทัลได้เช่นเดียวกัน โดยจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ได้ร่วมกับเอไอเอส ตั้งแต่ปีที่แล้ว ถ่ายทอดสดคอนเสิร์ตดังๆ ทั้งที่จัดในฮอลล์ หรือระดับมิวสิกเฟสติวัล ซึ่งกระแสตอบรับถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก แฟนๆ ประทับใจที่สามารถชมพร้อมกันได้หลายจอ ทั้งศิลปินบนเวที และบรรยากาศ ทำให้อยากมีโอกาสสัมผัสด้วยตนเอง ส่งผลดีกับยอดการขายบัตรคอนเสิร์ตอื่นๆ ในค่าย ก็ขายหมดในระยะเวลาอันสั้น
ในปีนี้ เราจับมือเอไอเอสแน่นกว่าเดิม ยกขบวนไลฟ์คอนเสิร์ตจากศิลปินในค่ายมาให้ชมแบบจุใจ พร้อม Behind the Scene สุดเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะลูกค้าเอไอเอส ประเดิมด้วย ไลฟ์คอนเสิร์ตเป๊ก ผลิตโชค วันที่ 22 เม.ย. 2561 นี้ ต่อด้วยเอ็กซ์คลูซีฟคอนเทนต์ของเป๊ก ในชื่อ Palit’s World จำนวน 10 ตอน และเซอร์ไพรส์สุดๆ เราเตรียมขน คลังคอนเสิร์ตดังที่ทุกคนคิดถึงจากศิลปินระดับตำนาน รวม 120 คอนเสิร์ต ในรอบ 20 ปีที่ผ่านมา มาให้ดูกันแบบเต็มอิ่มในรูปแบบวิดีโอออนดีมานซ์ บนแอป AIS PLAY และกล่อง AIS PLAYBOX ที่แรกที่เดียว เร็วๆ นี้แน่นอน”
นายถกลเกียรติ วีรวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเนริโอ จำกัด กล่าวว่า “ความร่วมมือกับเอไอเอสครั้งนี้ เป็นการสร้างปรากฏการณ์การชม การแสดงสดรูปแบบใหม่ ที่จะทำให้ผู้ชมสามารถได้รับชมโชว์สุดพิเศษผ่านหน้าจอแบบเรียลไทม์ได้ทุกที่ที่ต้องการ ซึ่งเราเองในฐานะผู้ผลิต ยินดีอย่างยิ่งที่ วันนี้ดิจิทัลแพลตฟอร์มทำให้เราสามารถขยายช่องทางการนำเสนอได้มากกว่าเดิม และมั่นใจว่าการทำออฟไลน์ควบคู่ไปกับออนไลน์นั้น จะสามารถส่งเสริมกัน และยิ่งทำให้ขยายฐานผู้ชมได้ทั่วถึงมากยิ่งขึ้น รวมทั้งสร้าง การรับรู้ให้กับคนที่ไม่เคยดูมาก่อน ซึ่งเราเชื่อเหลือเกินว่า เมื่อทุกคนได้เห็นบรรยากาศ ความสนุก ความตื่นตาตื่นใจ ความสดของโชว์ จะทำให้ผู้ชมอยากมาสัมผัสกับบรรยากาศจริงๆ แน่นอนครับ”
นายสามขวัญ ตันสมพงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอท เดอะ ดัก จำกัด กล่าวว่า “โลกดิจิทัลทำให้ทุกคนต้องตื่นตัว และปรับตัวอยู่ตลอดเวลา เรามองว่าเทคโนโลยีที่เข้ามาคือโอกาสของทุกๆ คน สำหรับค่ายเพลงเองก็มีช่องทางในการนำเสนอคอนเทนต์ที่หลากหลายยิ่งขึ้น
ที่ผ่านมาเราเน้นเพลง และ มิวสิกวิดีโอ ปล่อยตามวิทยุ หรือทีวี วันนี้ได้ขยายสู่การทำวิดีโอคอนเทนต์อื่นๆ และนำเสนอผ่านโลกออนไลน์อย่างเต็มรูปแบบ เราร่วมทำไลฟ์คอนเสิร์ตกับทางเอไอเอสมาหลายครั้ง ด้วยการนำเสนอคอนเทนต์ผ่านวิดีโอแพลตฟอร์มขนาดใหญ่อย่าง AIS PLAY ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญที่จะทำให้แฟนๆ ได้เข้าถึง และใกล้ชิดศิลปินได้ทุกที่ทุกเวลาในรูปแบบที่ต่างไปจากเดิม
ไม่ว่าจะเป็น ไลฟ์คอนเสิร์ต สิงโต นำโชค และ 10 Years Musketeers รวมถึง กิจกรรม Fan Meeting ของ The TOYS ก็มีให้ชมย้อนหลังได้ทาง AIS PLAY เช่นกัน ซึ่งในทุกๆ ครั้งได้รับกระแสตอบรับที่ดีมาก และทำให้การันตีได้ว่า ดิจิทัลสามารถเบลนเข้ากับดนตรีได้อย่างลงตัว ปีนี้ วอท เดอะ ดัก จัดเต็มไลฟ์คอนเสิร์ตและ Fan Meeting ตลอดปีอีกเช่นเคย ปีนี้เรามุ่งเน้นผลิตคอนเทนต์ เพื่อตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ แน่นอนว่าการจับมือกับเอไอเอส จะยิ่งทำให้ความตั้งใจของเราเกิดขึ้นได้อย่างสมบูรณ์แบบ”