คลังเก็บ

AIS ประกาศผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 2 ปี 64 สะท้อนถึงสภาวะเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด

AIS ประกาศผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 2 ของปี 2564 สะท้อนถึงสภาวะเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิดต่อภาคส่วนต่างๆ ท่ามกลางความท้าทาย 

AIS ตระหนักถึงความสำคัญในบทบาทผู้ให้บริการโทรคมนาคมและดิจิทัลเทคโนโลยี เพื่อสนับสนุนให้คนไทย ครอบครัว ชุมชน ภาคธุรกิจ และหน่วยงานสาธารณสุขสามารถเชื่อมต่อถึงกันอย่างราบรื่น

โดยพร้อมที่จะใช้ศักยภาพขององค์กรทั้งเทคโนโลยี องค์ความรู้ และบุคลากร ในการสนับสนุนทุกภาคส่วนเพื่อร่วมกันฟื้นฟู แก้ปัญหาในระยะยาว และร่วมก้าวผ่านความท้าทายไปด้วยกัน

AIS

นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS กล่าวว่า “จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่ไทยยังคงเผชิญกับความท้าทายในการรับมืออย่างต่อเนื่อง ซึ่งครั้งนี้มีความรุนแรงและขยายวงกว้างด้วยความรวดเร็ว ส่งผลกระทบโดยตรงต่อทั้งลูกค้า คู่ค้า พันธมิตร และพนักงาน

โดยในไตรมาสที่ 2/2564 เรายังคงรักษาระดับของผลประกอบการ แม้ต้องรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาด AIS มุ่งมั่นที่จะดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพทั้งการขยายโครงข่าย 5G อย่างต่อเนื่องเพื่อให้มั่นใจว่าคุณภาพโครงข่ายด้วยเทคโนโลยีใหม่จะช่วยสนับสนุนการใช้งานที่เพิ่มสูงขึ้นโดยเฉพาะการทำงานและเรียนจากที่บ้าน

รวมถึงเสริมการขายและบริการผ่าน Remote agent และช่องทางออนไลน์ต่างๆ เพื่อให้ลูกค้ายังได้รับบริการในขณะล็อกดาวน์ สิ่งสำคัญขององค์กรในการดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่องในภาวะวิกฤติและเกิดความยั่งยืน คือ การบริหารความเสี่ยงอย่างเป็นระบบและรักษาสถานะทางการเงินให้มีความมั่นคงรองรับวิกฤติและความท้าทาย”

สำหรับผลประกอบการในไตรมาสที่ 2 ของปี 2564  มีรายได้รวม อยู่ที่ 42,757  ล้านบาท ใกล้เคียงเมื่อเทียบกับปีก่อน ในส่วนกำไรสุทธิสำหรับไตรมาส 2 ของปีนี้ อยู่ที่ 7,041 ล้านบาท

·      ธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ลดลง 1.5% เทียบกับปีก่อน และ 0.9% เทียบกับไตรมาสก่อน เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจที่กระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค AIS จึงได้นำเสนอแพ็กเกจมือถือในระดับราคาต่ำลงเพื่อให้กลุ่มคนต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อน้อยเข้าถึงได้ง่ายมากขึ้น สำหรับการเติบโตของผู้ใช้บริการ 5G หลังจากที่ AIS ได้ขยายเครือข่าย 5G ครบ 77 จังหวัด  ปัจจุบัน AIS มีผู้ใช้บริการ 5G แล้วกว่า 1 ล้านราย โดยปรับเป้าหมายฐานลูกค้า 5G ใหม่สู่ 2 ล้านรายภายในปีนี้

·      ธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง เติบโต 21% เทียบกับปีก่อน และ 6.2%เทียบกับไตรมาสก่อน ด้วยความต้องการของผู้บริโภคเพิ่มขึ้นในช่วงล็อกดาวน์ ทั้งการทำงานที่บ้านและการเรียน ซึ่งในไตรมาสที่ผ่านมา เอไอเอสไฟเบอร์มีจำนวนลูกค้าที่เพิ่มขึ้นสุทธิ 104,000 ราย โดยปัจจุบันเอไอเอส ไฟเบอร์มีลูกค้ารวม 1,535,900 ราย

·      ธุรกิจบริการลูกค้าองค์กร ยังคงเติบโตได้ดีต่อเนื่อง คิดเป็น 13% เทียบกับปีก่อน จากความต้องการของภาคธุรกิจอุตสาหกรรมที่ปรับการดำเนินธุรกิจโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพิ่มขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และสร้างการเข้าถึงลูกค้าในรูปแบบใหม่ๆ โดยมีความต้องการใช้บริการโซลูชั่นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Cloud, Cybersecurity และ ICT solution เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

นายสมชัย กล่าวเสริมว่า “ในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา AIS ยังคงเดินหน้ามุ่งสร้างความเป็นผู้นำด้านบริการดิจิทัล เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน  โดยประกาศความร่วมมือกับ Microsoft ในฐานะ Exclusive Strategic Partner ในประเทศไทย ซึ่งถือเป็นหนึ่งในการให้บริการ Cloud ด้วยนวัตกรรมที่ดีที่สุดเพื่อธุรกิจ

พร้อมยกระดับความเชี่ยวชาญด้านคลาวด์ของ AIS ในเชิงลึก และล่าสุด Disney+ Hotstar ที่ AIS เป็นพันธมิตรรายเดียวในประเทศไทยที่นำเสนอแพ็กเกจรายเดือนในการรับชม ช่วยให้คนไทยเข้าถึงบริการได้ง่ายมากขึ้น โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับลูกค้าของ AIS”

“สำหรับ AIS เรายังคงมีความเชื่อว่า ดิจิทัลเทคโนโลยีคือสิ่งสำคัญที่จะช่วยฟื้นฟูประเทศได้ไม่ว่าจะอยู่ในเงื่อนไขใดก็ตาม เพราะฉะนั้นภายใต้สถานการณ์ที่มีข้อจำกัดมากมายและแม้ผลประกอบการของปี 2564 จะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาด แต่ AIS ยังคงไม่หยุดที่จะลงทุนเพื่อทำให้โครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล เข้าถึง และครอบคลุมภาคส่วนต่างๆ พร้อมที่จะเชื่อมต่อภาคส่วนต่างๆ ให้สามารถทรานฟอร์มตัวเองสู่โลกใหม่ได้ตลอดเวลา

แนวคิดการทำงานที่มุ่ง เชื่อมต่อ ช่วยเหลือ เพื่อคนไทย ยังถูกส่งมอบให้กับภาคส่วนต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งมาตรการพารอด ที่ช่วยร้านค้ารายย่อยให้มีช่องทางและโอกาสเข้าถึงลูกค้า AIS การให้ลูกค้าโทรฟรีเลขหมายฉุกเฉิน แพ็คเกจหนุน SMEs ในด้านต่างๆ

และที่สำคัญกับการสอดประสานร่วมกับภาคสาธารณสุขอย่างต่อเนื่องเต็มกำลัง เพื่อใช้ศักยภาพรวมถึงดิจิทัลแพลตฟอร์มต่างๆ ของเรานำพาบุคลากร องค์กร ลูกค้า พันธมิตร สังคม และประเทศ ก้าวผ่านความท้าทายนี้ไปพร้อมกัน” นายสมชัย กล่าวทิ้งท้าย