คลังเก็บ

ผู้บริหาร Xiaomi เทียบชั้น “Xiaomi 17 Pro Max” กับ “iPhone 17 Pro Max” พร้อมเผยข้อมูลเพิ่มเติม

ก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ Xiaomi 17 Series ที่จะมีขึ้นภายในสิ้นเดือนกันยายนนี้ ลู่ เว่ยปิง (Lu Weibing) ประธานบริษัท Xiaomi ได้สร้างกระแสฮือฮาบนโซเชียลมีเดีย Weibo ด้วยการนำเครื่องจริงของ Xiaomi 17 Pro Max มาเปรียบเทียบกับคู่แข่งโดยตรงอย่าง iPhone 17 Pro Max แบบตัวต่อตัว

วิดีโอสั้น ๆ ที่ถูกเผยแพร่ออกมา แสดงให้เห็นตัวเครื่องทั้งสองรุ่นในมือของผู้บริหาร โดยมีจุดประสงค์หลักเพื่อสยบความกังวลและกระแสวิจารณ์ที่ว่า Xiaomi ลอกเลียนแบบดีไซน์โมดูลกล้องหลังจาก Apple ซึ่งลู่ เว่ยปิง ยืนยันว่าดีไซน์ของทั้งสองรุ่นมีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด

อย่างไรก็ตาม Xiaomi อ้างว่าดีไซน์ดังกล่าวได้รับแรงบันดาลใจมาจากรุ่นเรือธงในอดีตอย่าง Mi 11 Ultra ที่เปิดตัวในปี 2021 นอกจากนี้ บริษัทยังยืนยันว่าการข้ามชื่อรุ่น “16” ไปเป็น “17” ไม่ใช่การจงใจตั้งชื่อให้ตรงกับ Apple ซึ่งเป็นเหตุผลที่หลายฝ่ายมองว่าฟังไม่ขึ้น โดยเฉพาะเมื่อ Xiaomi ได้เปิดตัวรุ่น “Pro Max” ของตัวเองเป็นครั้งแรก

ขุมพลัง Snapdragon 8 Elite Gen 5 รุ่นแรกของโลก

ลู่ เว่ยปิง ยืนยันว่า Xiaomi 17 Series จะเป็นสมาร์ตโฟนซีรีส์แรกของโลกที่ได้ใช้ชิปเซ็ตประมวลผลเรือธงรุ่นล่าสุด Qualcomm Snapdragon 8 Elite Gen 5 ซึ่งมีกำหนดเปิดตัวในวันที่ 23 กันยายนนี้ ที่สำคัญ Xiaomi ยังได้สิทธิ์ในการใช้ชิปเซ็ตรุ่นนี้แบบเอ็กซ์คลูซีฟยาวนานกว่าปกติ ทำให้คาดว่าจะยังไม่มีสมาร์ทโฟนแบรนด์คู่แข่งที่ใช้ชิปเดียวกันเปิดตัวก่อนเดือนตุลาคม

ฟีเจอร์จอด้านหลังสุดอัจฉริยะ

หนึ่งในฟีเจอร์เด็ดของรุ่นท็อปคือหน้าจอด้านหลัง (Rear Screen) ซึ่งมีความสามารถหลากหลาย คล้ายกับหน้าจอด้านนอกของมือถือฝาพับ โดยสามารถใช้:

  • จัดการสายเรียกเข้า
  • ควบคุมเพลง
  • แสดงข้อมูลการเดินทาง หรือการนับถอยหลัง
  • เป็นช่องมองภาพ (Viewfinder) เต็มรูปแบบ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพเซลฟี่ด้วยกล้องหลังที่มีคุณภาพสูงกว่าได้

ราคาและการวางจำหน่าย Xiaomi 17 Series

Xiaomi 17 Series จะเริ่มวางจำหน่ายในประเทศจีนก่อนวันที่ 1 ตุลาคม 2568 โดยมีราคาเปิดตัวดังนี้:

  • Xiaomi 17 Pro: ราคาอยู่ระหว่าง 5,000 – 6,000 หยวน (ประมาณ 25,500 – 30,600 บาท)
  • Xiaomi 17 Pro Max: ราคาอยู่ระหว่าง 6,000 – 7,000 หยวน (ประมาณ 30,600 – 35,700 บาท)

ทั้งนี้ ราคาดังกล่าวเป็นราคาสำหรับตลาดประเทศจีนเท่านั้น หากมีการนำเข้ามาวางจำหน่ายในตลาดต่างประเทศ รวมถึงประเทศไทย คาดว่าจะมีราคาสูงขึ้นอีกพอสมควร

ที่มา : Gsmarena