เคยไหมนึกอยากซื้อหูฟังสักชิ้นไว้พกติดตัวแล้วใช้ได้ทุกสถานการณ์ ไม่ต้องพกตัวเลือกอื่นสำรองหรือซื้อมาแล้วเสียดายว่า “รู้งี้น่าจะซื้ออันอื่น” แต่อ่านรีวิวมาเยอะแล้วก็ยังสับสน ไม่รู้ว่าจะเลือกเป็นหูฟังมีสายธรรมดาหรือจะเลือกเป็นแบบไร้สายไปเลยดี ถ้าเลือกไร้สายแล้วต้องดูสเปคอะไรบ้าง วันนี้เราจะลองเล่าวิธีเลือกหูฟังแบบเปรียบเทียบกับปัญหาที่หลายคนอาจเคยเจอมา ไว้อ่านแล้วลองพิจารณากันดูนะ
เสียเวลาชีวิตไปกับการแก้สายหูฟังที่พันกันวุ่นไหม?
ทั้งที่ตอนหย่อนลงกระเป๋าก็มั่นใจว่าม้วนเก็บแล้วดิบดี แต่พอจะใช้ดึงออกมาก็คือแก้สายวนไปอีก 5 นาที… เอาจริงๆ หูฟังไร้สายหรือ TWS เดี๋ยวนี้ก็ไม่ได้ราคาสูงเวอร์ขนาดนั้นแล้ว และหลายเสียงก็บอกตรงกันว่ามันคุ้มที่จะลงทุน เพราะถ้าลองเอาเวลาชีวิตที่หายไปกับการแก้สายหูฟังมารวมๆ กันแล้วมันก็เยอะน่าดู อย่างไม่นานมานี้ก็เห็นทางหัวเว่ยมีออกหูฟังไร้สายตัวใหม่ที่เป็น TWS รุ่นโปรเลยแต่ราคาสตาร์ทแค่ 5,499 บาท และถูกไปกว่านั้นก็มีตัวโปรอีกแบบที่มีสายคล้องคอหน่อยๆ เหมาะกับสายสปอร์ตใส่วิ่ง ก็เริ่มที่ 2,999 บาทเอง ถ้าลองได้ใช้แบบไร้สายดูแล้วก็จะงงว่าเมื่อก่อนใช้แบบมีสายไปทำไมตั้งนาน
ชอบฟังเพลงระหว่างเดินทาง แต่เจอเสียงแตรรถ เสียงเรือ เสียงประกาศอะไรไม่รู้รบกวนอารมณ์ตลอด
ใจอยากจะเร่งเสียงให้ดังจนกลบเสียงอื่น แต่ก็กลัวเสียงจะเล็ดลอดออกมากวนคนรอบข้าง เดี๋ยวเขารู้หมดว่าช่วงนี้เราอินเพลงอะไร ใครมีปัญหานี้จะแนะนำให้ลองหูฟังที่มี “เทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนรอบข้าง” ที่เขาเรียกว่า Active Noise Cancellation หรือ ANC ไปดูได้เลยตามสเปคหูฟังทุกยี่ห้อ เขาจะมีบอกไว้ว่ามีฟังก์ชันนี้หรือเปล่า เทคโนโลยีนี้จะทำงานร่วมกับไมโครโฟนในหูฟังเพื่อตรวจจับคลื่นเสียงที่ไม่จำเป็นจากรอบด้านแล้วตัดเสียงทิ้งไป หรือลดเสียงเหล่านั้นลงให้น้อยที่สุด หูฟัง TWS ที่ตัดเสียงรบกวนได้มากที่สุดตอนนี้น่าจะอยู่ที่ 40 เดซิเบล ซึ่งก็คือ หูฟังรุ่นโปรของหัวเว่ยนั่นเอง

นั่งเหงาอยู่ทั้งวันไม่มีใครคุยด้วย พอใส่หูฟังจะกดฟังเพลงเท่านั้นแหละ เพื่อนชวนคุยเฉย
อันนี้ต้องขอให้ลองหูฟังที่นอกจากจะมีโหมดตัดเสียงแล้วยังมี “โหมดการรับรู้” หรือ Awareness ที่เราสามารถสลับกลับมารับฟังเสียงรอบข้างได้โดยไม่ต้องถอดหูฟังออก เพราะมันเป็นเทคโนโลยีที่สะดวกมาก สะดวกจนสามารถใส่หูฟังไว้ได้ตลอด เพื่อนจะคุยเมื่อไหร่ก็กดเปลี่ยนโหมด ทีนี้ได้ยินเสียงเพื่อนชัดกว่าถอดหูฟังอีก เท่าที่รู้รุ่นที่ทำได้ก็มี กับ ซึ่งสองอันนี้ต่างกันตรงที่อันแรกเป็นแบบ Earbuds อันเล็กๆ เหมาะกับคนที่ชอบพกหูฟังออกนอกบ้าน ส่วนอันหลังจะเป็น headset ครอบศีรษะ เหมาะกับการใช้ในบ้านหรือในออฟฟิศ ซึ่งแบบ headset หลายคนก็จะมีปัญหาที่ว่าพอใส่ไปนานๆ แล้วปวดหูบ้าง ปวดศีรษะบ้างเพราะหูฟังกดเป็นเวลานาน ที่ควรเช็คคือวัสดุที่ใช้ทำส่วนที่ครอบหู HUAWEI FreeBuds Studio ใช้หนังที่บุนวมซึ่งหนาหลายชั้นให้สัมผัสที่นุ่มและเป็นมิตรต่อผิวหนัง ไม่ระคายเคืองแม้ใส่ติดต่อกันเป็นเวลานาน และยังช่วยเก็บเสียงไม่ให้รั่วไหลออกจากหูฟัง ตัวโครงยืดหยุ่น ปรับความโค้งได้มากถึง 150 องศา และปรับความกว้างตามขนาดศีรษะได้ถึง 40 มม.


เป็นคนแก็ดเจ็ตเยอะ พกมากกว่าหนึ่ง แต่ต่อหูฟังได้แค่เครื่องเดียว
ล่าสุดมันมีเทคโนโลยีที่เรียกว่า “เสารับสัญญาณคู่” หรือ Dual Antennas หมายความว่าหนึ่งหูฟังสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์สมาร์ทดีไวซ์ต่างๆ ผ่านบลูทูธได้ถึง 2 เครื่องพร้อมๆ กัน แถมยังช่วยให้การเชื่อมต่อเสถียรยิ่งขึ้น จะเป็นการต่อกับสมาร์ทโฟน 2 เครื่อง หรือต่อกับสมาร์ทโฟน 1 เครื่องและแท็บเล็ตอีก 1 เครื่องก็ย่อมได้ เวลาประชุมผ่านแท็บเล็ต หรือดูซีรีส์ในแท็บเล็ตเพลินๆ แล้วมีคนโทรเข้าสมาร์ทโฟน ก็กดรับได้เลยโดยไม่ต้องถอดหูฟังออกให้เสียเวลา เพราะอุปกรณ์พวกนี้ฉลาด และสลับมารับเสียงจากสมาร์มโฟนให้เราโดยอัตโนมัติ หูฟังรุ่นโปรตัวล่าสุดของหัวเว่ย ได้รับการยกย่องว่าเป็นหูฟัง TWS ตัวแรกของโลกที่ใช้เทคโนโลยีนี้ และแน่นอนว่าหัวเว่ยก็ไม่พลาดที่จะใส่ความสามารถนี้เข้ามาในหูฟังไร้สายรุ่นอื่นๆ ที่เปิดตัวในเวลาไล่เลี่ยกันอย่างส่วนรุ่นเล็กที่จิ๋วแต่แจ๋วอย่างก็มีเทคโนโลยี HUAWEI HiPair และฟังก์ชัน Quick Switch เข้ามารองรับการใช้งานเชื่อมต่อ 2 อุปกรณ์พร้อมๆ กันด้วย*
(*หมายเหตุ: เทคโนโลยี HUAWEI HiPair และฟังก์ชัน Quick Switch ใน HUAWEI FreeLace Pro สามารถใช้กับสมาร์ทโฟนและสมาร์ทดีไวซ์ในระบบปฏิบัติการ EMUI 10.0 ขึ้นไปเท่านั้น)
หูฟังที่ใช้อยู่ดูไม่นำแฟชั่นเลย แต่งตัวยาก
คนทำงานหรือนักเรียนนักศึกษาสมัยนี้มองฟังก์ชันของหูฟังไปไกลกว่าแค่มีไว้ฟังเพลงหรือคุยโทรศัพท์แล้ว แต่อยากได้หูฟังที่ใส่แล้วดูดี เข้ากับการแต่งตัวได้ด้วย อันนี้อาจจะต้องขอลองแนะนำเป็นแว่นตาอัจฉริยะที่เป็นหูฟังไปในตัวอย่างแต่อย่าเพิ่งสงสัยว่าฟังเพลงผ่านแว่นตาแล้วเสียงจะไม่รบกวนคนอื่นเหรอ เพราะโลกยุคนี้มีเทคโนโลยีที่เรียกว่าระบบเสียงแบบ Inverse Acoustic ลดการรั่วไหลของเสียง เพื่อนอยู่ห่างไปแค่ช่วงแขนเดียวก็ไม่ได้ยินเลยว่าเรากำลังฟังเพลงอะไรหรือคุยกับใคร หากใครต้องคุยโทรศัพท์บ่อยๆ จะบอกว่าลองแล้วติดใจแน่นอน รุ่นที่เพิ่งเปิดตัวปีนี้ทำมาให้เลือกทั้งแบบแว่นแดดและแว่นสายตา


ใช้ไม่ทันไรก็แบตหมด จะชาร์จระหว่างวันก็หาปลั๊กยาก
ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่าแบตเตอรี่จะหมดช้าหรือเร็วไม่ได้ขึ้นอยู่กับขนาดของแบตเตอรี่เท่านั้น แต่ยังขึ้นอยู่กับชิปเซ็ตหรือการใช้พลังงานของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์นั้นๆ ด้วย เช่น ใช้ชิปเซ็ต Kirin A1 ซึ่งใช้พลังงานต่ำเป็นพิเศษ ก็ยิ่งทำให้แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน ชาร์จ 1 ครั้งอยู่ได้นานสูงสุด 30 ชั่วโมงเมื่อใช้ร่วมกับเคสชาร์จ ทั้งยังรองรับการชาร์จไร้สายทุกรุปแบบ รวมถึงการชาร์จกับสมาร์ทโฟนที่มีฟังก์ชัน Reverse Charing ซึ่งหมายความว่าเราสามารถใช้สมาร์ทโฟนแทนแบตเตอรี่สำรองได้ ไม่ต้องหาปลั๊กให้วุ่นวาย
แนะนำกันมาละเอียดยิบขนาดนี้ ทุกคนคงพอจะเห็นภาพแล้วว่าหากเลือกซื้อหูฟังใหม่จะต้องเทียบสเปกด้านใดบ้าง ส่วนใครที่สนใจศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์กลุ่มออดิโอของหัวเว่ย ซึ่งล่าสุดมีทั้งหูฟัง TWS ตัวท็อปราคา 5,499 บาท, หูฟังไร้สายสไตล์แอคทีฟราคา 2,999 บาท, หูฟัง headset ตัวแรกของหัวเว่ยและแว่นตาอัจฉริยะรุ่นสอง ก็สามารถตามไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมและจับจองเป็นเจ้าของได้ทั้งทาง HUAWEI Online Store และหน้าร้าน HUAWEI Experience Store รวมถึงร้านค้าอื่นๆ ที่ร่วมรายการทั่วประเทศ









