ด้านการถ่ายภาพ
กล้องหน้าคู่แบบฝังบนจอ (Dual-Lens Front Camera)

กล้องหน้าของ OPPO Reno4 Z 5G เป็นกล้องคู่แบบฝังบนจอ ประกอบด้วย
– กล้องหลักความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสง f/2.0, ทางยาวโฟกัส 26 มม., เทคโนโลยี AI Beautification ที่สามารถปรับโครงหน้าได้อย่างอิสระ และ Selfie Night Mode
– กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล สำหรับถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ พร้อมรูรับแสง f/2.4

โดยมีหน้าตาอินเทอร์เฟสที่ใช้งานง่าย พร้อมทั้งแสดงไอคอนเอาไว้ให้ใช้งานได้ทันที ได้แก่ เปิดปิดไฟแฟลช, ฟังก์ชัน HDR, การเพิ่มฟีลเตอร์แบบต่างๆ
ตัวอย่างภาพถ่ายโหมดปกติ
ภาพแรกถ่ายด้วยโหมดรูปถ่ายปกติ ภาพที่สองถ่ายด้วยโหมดรูปถ่ายปกติ พร้อมตั้งค่าเลือก AI Beauty 60% และภาพที่สามถ่ายด้วยโหมดรูปถ่ายปกติ พร้อมตั้งค่าเลือก AI Beauty 100%
ตัวอย่างภาพถ่ายโหมดปกติ + ฟิลเตอร์ต่างๆ
ภาพถ่ายด้วยโหมดรูปถ่ายปกติ พร้อมตั้งค่าเลือก AI Beauty 60% และเลือกฟิลเตอร์ที่มีให้เลือกถึง 15 แบบ
ตัวอย่างภาพถ่ายโหมดสติ๊กเกอร์
ภาพถ่ายด้วยโหมดสติ๊กเกอร์ที่มีให้เลือกหลายแบบตามใจชอบ
ตัวอย่างภาพถ่ายโหมด Portrait
ภาพแรกถ่ายด้วยโหมดรูปคน (Portrait) และเปิดโบเก้ 60% ภาพที่สองถ่ายด้วยโหมดรูปคน พร้อมตั้งค่าเลือก AI Beauty 60% และเปิดโบเก้ 60% และภาพที่สามถ่ายด้วยโหมดรูปคน พร้อมตั้งค่าเลือก AI Beauty 100% และเปิดโบเก้ 60%
ตัวอย่างภาพถ่ายโหมด Portrait + ฟิลเตอร์ต่างๆ
ภาพถ่ายด้วยโหมดรูปคน ตั้งค่าเปิดโบเก้ 60% พร้อมตั้งค่าเลือก AI Beauty 60% และเลือกฟิลเตอร์ที่มีให้เลือกถึง 5 แบบ
ตัวอย่างภาพถ่าย Night Mode
OPPO Reno4 Z 5G สามารถใช้ Night Mode และ face beautification พร้อมกันได้ โดยเมื่อต้องการเซลฟี่ ในที่แสงน้อย คุณก็สามารถได้ภาพที่มีรายละเอียดสูงและคมชัด และใบหน้าที่สว่างสวยเป็นธรรมชาติ ด้วย face beautification
กล้องหลัง 4 เลนส์ AI Quad Camera

OPPO Reno4 Z 5G มาพร้อมกล้องหลัง 4 ตัว ประกอบด้วย
- กล้องหลักแบบ Ultra Clear ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์
OV48B รูรับแสง f/1.7 - กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Ultra Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
- กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Vintage Portrait Monochrome ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
- กล้องตัวที่ 4 เลนส์ B&W Portrait Monochrome ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4

สามารถเลือกถ่ายได้ทั้งโหมดปกติ, โหมด Portrait พร้อมเอฟเฟค Bokeh, โหมดวิดีโอ, โหมดกลางคืน, โหมด Slomotion, โหมด Panorama, โหมดถ่ายภาพ Pro, โหมด Time-Lapse และโหมดสติ๊กเกอร์
โดยภาพนิ่งถ่ายได้ที่ความละเอียดสูงสุด 4000 x 3000 พิกเซล ส่วนวิดีโอบันทึกได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ 4K
และด้านบนมีแถบเมนูเปิดปิดไฟแฟลชอัตโนมัติ, เปิดปิดโหมด HDR, เปิดปิดโหมด Dazzle Color Mode มีการติดตั้งอัลกออริทึมในระดับพิกเซลซึ่งสามารถสร้างสีสันในภาพให้สดใสและเป็นธรรมชาติมากขึ้น, เลือกฟิลเตอร์ได้ 10 แบบ และตั้งค่าการใช้งานกล้องต่างๆ
ทดสอบภาพจากกล้องหลัง OPPO Reno4 Z 5G
ตัวอย่างภาพถ่ายโหมดปกติ
ภาพแรกถ่ายด้วยโหมดรูปถ่ายปกติ ภาพที่สองถ่ายด้วยโหมดรูปถ่ายปกติ พร้อมตั้งค่าเลือก AI Beauty 60% และภาพที่สามถ่ายด้วยโหมดรูปถ่ายปกติ พร้อมตั้งค่าเลือก AI Beauty 100%
ตัวอย่างภาพถ่ายโหมดปกติ + ฟิลเตอร์ต่างๆ
ภาพถ่ายด้วยโหมดรูปถ่ายปกติ พร้อมตั้งค่าเลือก AI Beauty 60% และเลือกฟิลเตอร์ที่มีให้เลือกถึง 10 แบบ
สามารถเพิ่มสติกเกอร์ที่ให้เลือกในแบบต่างๆ ได้ตามใจชอบ
ตัวอย่างภาพถ่ายโหมด Portrait
ภาพแรกถ่ายด้วยโหมดรูปคน (Portrait) และเปิดโบเก้ 60% ภาพที่สองถ่ายด้วยโหมดรูปคน พร้อมตั้งค่าเลือก AI Beauty 60% และเปิดโบเก้ 60% และภาพที่สามถ่ายด้วยโหมดรูปคน พร้อมตั้งค่าเลือก AI Beauty 100% และเปิดโบเก้ 60%
ตัวอย่างภาพถ่ายโหมด Portrait + ฟิลเตอร์ต่างๆ
ภาพถ่ายด้วยโหมดรูปคน ตั้งค่าเปิดโบเก้ 60% พร้อมตั้งค่าเลือก AI Beauty 60% และเลือกฟิลเตอร์ที่มีให้เลือกถึง 7 แบบ โดยฟิลเตอร์ลำดับที่ O6 และ O7 จะเป็นฟิลเตอร์ในแนววินเทจ ให้ความรู้สึกถึงวันวานที่น่าจดจำ ฟิลเตอร์แนววินเทจ ออกแบบมาเพื่อความสนุกในการถ่ายภาพบุคคลที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งยังมีตัวเลือกสำหรับการปรับแต่งภาพให้เป็นสไตล์ของตนเองอีกด้วย
กล้องหลัง 4 ตัวของ OPPO Reno4 Z 5G ยังมาพร้อมเลนส์ Ultra Wide Angle ที่ถ่ายมุมกว้างได้ 119 องศาเก็บรายละเอียดได้มากขึ้น รวมถึงการจัดองค์ประกอบภาพถ่ายที่สามารถรองรับระยะการถ่ายภาพที่ไกลขึ้น ช่วยให้ผู้ใช้มีมุมมองในการถ่ายภาพที่กว้างมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีการแก้ไขความโค้งของภาพถ่ายในโหมดนี้ โดยมุมมองของภาพจะอยู่ที่ 109 องศา
Dazzle Color Mode โหมดสีที่ใช้ AI รองรับเทคโนโลยีการจดจำฉากหลังขั้นสูง สร้างสีใหม่ที่สดใสในระดับพิกเซล
OPPO Reno4 Z 5G มีโหมดถ่ายภาพกลางคืนแบบ Ultra Dark Mode ทั้งในมุมปกติ และแบบมุมกว้าง (Ultra Wide-Angle) ด้วยเทคโนโลยี Multi-Frame Noise Reduction กับเทคโนโลยี HDR พร้อม Noise Reduction ที่ช่วยลดการเกิด noise บนภาพ รวมถึง Anti-Shake Effects กับ High-Light Suppression ที่ช่วยเพิ่มไดนามิกให้กับภาพ
โหมดวิดีโอปกติ
โหมดวิดีโอ เปิดโหมด Ultra Steady
ในส่วนของการถ่ายวิดีโอ มาพร้อมฟีเจอร์ Ultra Steady ด้วยเทคโนโลยีกันสั่นแบบ EIS ทำให้ได้วิดีโอที่มีความเสถียร ราบรื่น และคมชัดเป็นพิเศษในสภาพแวดล้อมที่มีการสั่นไหว

และสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายวิดีโอในระยะเวลาส้ันๆ OPPO Reno4 Z 5G ยังมาพร้อมกับ Soloop แอพพลิเคชันที่จะช่วยให้คุณตัดต่อวิดีโอได้อย่างมืออาชีพ และได้วิดีโอที่มีคุณภาพในขั้นตอนที่ง่าย และสะดวกสบาย
ทดสอบภาพจากกล้องหลัง OPPO Reno4 5G


































