เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา HMD Global เจ้าของลิขสิทธิ์การจัดจำหน่ายสมาร์ทโฟนแบรนด์โนเกียทั่วโลกแต่เพียงผู้เดียวได้เปิดตัว Nokia 2 สมาร์ทโฟนรุ่นเล็กที่มาพร้อมจุดเด่นด้านการใช้งานได้อย่างต่อเนื่องยาวนานด้วยแบตเตอรี่ความจุสูงถึง 4100 mAh สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องถึง 2 วัน โดยไม่ต้องชาร์จ และอัดแน่นด้วยฟังก์ชันการใช้งานครบครัน ในราคาเบาๆ เพื่อไม่ให้เสียเวลาเรามาดูรีวิว Nokia 2 กันเลยดีกว่า
อุปกรณ์ในกล่อง
กล่องแพ็คเกจจิ้งของ Nokia 2 เป็นกล่องกระดาษแข็งขนาดพอดีเครื่องไม่ใหญ่มาก ด้านหน้ากล่องมาพร้อมด้านหน้าเครื่อง Nokia 2 อยู่บนรูปคนจับมือกันตามคอนเซ็ปต์ดั้งเดิมของแบรนด์ Nokia ในสโลแกน Connecting People และโลโก้ตัวอักษร Nokia
เมื่อเปิดกล่องออกมาจะเห็นตัวเครื่อง Nokia 2 พร้อมอุปกรณ์ต่างๆ ได้แก่ อะแดปเตอร์สำหรับชาร์จไฟ, สายดาต้าลิงค์ microUSB, ชุดหูฟังสเตอริโอ, คู่มือการใช้งาน และใบรับประกันสินค้า
รูปลักษณ์ดีไซน์
Nokia 2 มาพร้อมดีไซน์โค้งมน ตัวเครื่องใช้วัสดุที่ทำจากอลูมิเนียม ขึ้นรูปด้วยโพลีคาร์บอเนต ที่มีความแข็งแรงทนทาน และสามารถถอดฝาหลังได้ ด้วยขนาด 143.5 x 71.3 x 9.30 มม. และน้ำหนัก 161 กรัม เรียกว่าเป็นขนาดที่เหมาะมือกำลังดี
รูปลักษณ์ทั่วไปเริ่มจากด้านหน้าเครื่องเป็นกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 3 โดยด้านบนเริ่มจากซ้ายไปขวามีเลนส์กล้องดิจิทัลความละเอียด 5 ล้านพิกเซล, ช่องลำโพงสนทนา และเซ็นเซอร์ปรับแสง และเซ็นเซอร์ปรับหมุนหน้าจออัตโนมัติ ถัดลงมาเป็นหน้าจอแสดงผลแบบ LTPS IPS LCD ความละเอียด HD 720 x 1280 พิกเซล ขนาด 5 นิ้ว
พลิกมาด้านหลังเครื่องใช้วัสดุที่ทำจากโพลีคาร์บอเนต โดยตรงกลางด้านบนสุดมีเลนส์กล้องดิจิทัลความละเอียด 8 พิกเซล พร้อมไฟแฟลชคู่ LED ถัดลงมาตรงกลางมีตัวอักษรโลโก้ Nokia และมุมขวาด้านล่างมีช่องลำโพงเสียง
ด้านซ้ายข้างเครื่อง ออกแบบเรียบๆ ไม่มีปุ่มกดหรือช่องใดๆ
ด้านขวาข้างเครื่องมีปุ่มปรับเพิ่มลดระดับเสียง กับปุ่ม Power สำหรับเปิด/ปิดเครื่อง
ด้านบนเครื่องมีช่องเสียบชุดหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มม. กับช่องไมโครโฟนตัดเสียง และแถบเส้นเสาอากาศ 2 เส้น
ด้านท้ายเครื่องมีช่องไมโครโฟน, พอร์ต microUSB และแถบเส้นเสาอากาศ 2 เส้น
ส่วนช่องใส่ซิมการ์ดอยู่ด้านในต้องเปิดฝาหลังออกมาก่อน โดยช่องเปิดฝาหลังอยู่ตรงกลางด้านล่างเครื่อง เมื่อเปิดฝาออกจะเห็นช่องใส่ซิม 1 อยู่ด้านซ้าย ส่วนช่องใส่ซิม 2 อยู่ด้านขวาพร้อมช่องใส่การ์ดหน่วยความจำภายนอก microSD Card
สเปก Nokia 2
| ขนาด | 143.5 x 71.3 x 9.30 มิลลิเมตร |
| น้ำหนัก | 161 กรัม |
| หน้าจอ | LTPS IPS LCD 16 ล้านสี ความละเอียด HD 720 x 1280 พิกเซล ขนาด 5นิ้ว พร้อมกระจกกันรอย Gorilla Glass 3 |
| หน่วยประมวลผล | Quad-core 1.3 GHz Cortex-A7, ชิปเซ็ท Snapdragon 212, หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 304 |
| RAM | 1GB |
| หน่วยความจำภายในเครื่อง | 8GB |
| microSD Card | รองรับสูงสุด 128GB |
| กล้องถ่ายภาพ | กล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ออโต้โฟกัส พร้อมไฟแฟลช LED กล้องหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล |
| ระบบปฏิบัติการ | Android 7.1.1 Nougat รองรับการอัปเดต Android Oreo Go Edition |
| เชื่อมต่อ | Wi-Fi 802.11 b/g/n, hotspot, GPS, Bluetooth 4.2, microUSB |
| รองรับระบบ | 4G LTE band 1, 3, 5, 7, 8, 20, 28, 38, 40 และ 3G 850/900/1900/2100 MHz ( 4G และ 3G ทุกเครือข่ายในไทย) |
| แบตเตอรี่ | 4,100 mAh |
| ราคา | 3,490 บาท |
คุณสมบัติการใช้งาน
Nokia 2 รันบนระบบปฎิบัติการ Android 7.1.1 Nougat แบบ Pure Android ไม่มี UI อะไรมาครอบทับ เมื่อปลดล็อกหน้าจอจะมีมาให้เพียงหน้าเดียว โดยด้านล่างมี APP Shortcut สำหรับใช้งานบ่อยๆ และเมื่อสไลด์หน้าจอขึ้นมาจะเข้าสู่หน้ารวมแอปพลิเคชั่นต่างๆ
แอป Google มีมาให้อย่างครบครัน และเข้าถึงได้ง่ายยิ่งขึ้นด้วยการเข้าไปที่หน้า Home screen แล้วปัดหน้าจอไปทางขวามือ
มาพร้อมฟีเจอร์ Motion เคาะหน้าจอ 2 ครั้งเพื่อเปิด หรือการพลิกเครื่องคว่ำลงเมื่อไม่อยากรับสาย หรือหยิบเครื่องขึ้นมาเสียง ringtone จะเบาลงได้
รองรับการใช้งาน 2 SIM สามารถตั้งค่าเลือกใช้งานเครือข่าย 3G/4G ได้ทั้ง 2 SIM และรองรับ 4G VoLTE
เครื่องเล่นเพลง MP3 และวิทยุ FM ในตัว
คุณสมบัติอื่นๆ ก็มีมาให้ครบ
ด้านการถ่ายภาพ
Nokia 2 มาพร้อมกล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED และระบบออโต้โฟกัส รวมทั้งมีโหมด HDR, ตั้งเวลาถ่ายอัตโนมัติ, โหมดพาโนรามา และรูรับแสง f/2.7 โดยภาพนิ่งถ่ายได้ที่ความละเอียดสูงสุด 3264 x 2448 ส่วนวิดีโอบันทึกได้ระดับ HD 720 x 1280 พิกเซล
ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสง f/2.7 โดยภาพนิ่งถ่ายได้ที่ความละเอียดสูงสุด 1920 x 2560 ส่วนวิดีโอบันทึกได้ระดับ HD 720 x 1280 พิกเซล
ตัวอย่างภาพจากกล้อง
ประสิทธิภาพ
Nokia 2 มาพร้อมหน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Quad Core ความเร็ว 1.3GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Qualcomm Snapdragon 212, หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 304. RAM 1GB LPPDDR3, หน่วยความจำภายใน 8GB เพิ่มได้ด้วย microSD Card สูงสุด 128GB
จากการลองทดสอบโดยเล่นเกมแบบ 3 มิติที่มีภาพกราฟิกสูงๆ อย่างเกม ROV ปรากฏว่าสามารถเล่นได้ แต่อาจจะมีสะดุดบ้าง และใช้เวลาในการโหลดเกมนาน เนื่องจากสเปกเครื่องที่มี RAM เพียงแค่ 1GB เท่านั้น ส่วนเกม Mario Run นั้นสามารถเล่นได้อย่างไหลลื่น ไม่มีสะดุด หรืออาการหน่วงให้เห็นเลย รวมถึงการใช้งานทั่วไปก็ทำได้ดี แม้ว่าจะใช้เวลาในการโหลดเกมนานไปนิดนึง
ผลการทดสอบประสิทธิภาพของ Nokia 2 ผ่านแอป Antutu
ผลการทดสอบประสิทธิภาพของ Nokia 2 ผ่านแอป Geekbench
แบตเตอรี่
แบตเตอรี่มีขนาดความจุ 4,100 mAh ตามสเปกระบุว่าสามารถเปิดเครื่องสแตนบายด์ได้นานสูงสุด 2 วัน ทดสอบโดยลองใช้งานเชื่อมต่อกับเครือข่าย 3G/4G และ Wi-Fi ใช้งานอินเทอร์เน็ต เล่นเกม และใช้งานทั่วไป ปรากฏว่าสามารถใช้งานได้ประมาณ 17-19 ชั่วโมง แต่ถ้าดูคลิปวิดีโอผ่าน YouTube หรือเล่นเกมก็อาจจะหมดไวขึ้น
นอกจากนี้ยังมีโหมดประหยัดพลังงานอย่าง Battery saver ที่ช่วยยืดระยะเวลาการใช้งานได้นานขึ้นประมาณ 15% และยังรองรับการชาร์จเร็ว Quick Charge อีกด้วย
บทสรุป
Nokia 2 ถือเป็นสมาร์ทโฟนน้องเล็กสุดของสมาร์ทโฟน Nokia ในตอนนี้ที่มาพร้อมจุดเด่นในเรื่องของแบตเตอรี่สุดอึด 4,100 mAh ที่สามารถใช้งานต่อเนื่องได้นานถึง 2 วันโดยไม่ต้องพกแบตเตอรี่สำรอง นอกจากนี้ยังใช้ระบบปฎิบัติการ Android 7.1.1 Nougat รองรับการอัปเดตเป็น Android Oreo (Go Edition) ได้
ส่วนสเปกอืนๆ ก็มีมาให้ครบครันทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง, แอป Google รวมถึงใช้วัสดุและงานประกอบที่มีความแข็งแรงตามแบบฉบับ Nokia ทั้งนี้ Nokia 2 มีให้เลือก 2 สีคือ สีเงิน–ดำ (Pewter/Black) และ สีเงิน–ขาว โดยมีราคาอยู่ที่ 3,490 บาท วางจำหน่ายแล้วที่ร้านค้าและตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ