ซื้อกองทุนรวม Thai ESG ลดหย่อนภาษีดีไหม หรือซื้อประกันดี 

การวางแผนภาษีเป็นเรื่องที่คนทำงานทุกคนควรให้ความสำคัญ เพราะการลดหย่อนภาษีที่ถูกต้องไม่เพียงช่วยประหยัดเงินเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว หนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจคือการลงทุนในกองทุนรวม Thai ESG เพื่อลดหย่อนภาษี ซึ่งได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา 

Thai ESG เป็นกองทุนที่ลงทุนในหุ้นบริษัทไทยที่มีการดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล ไม่เพียงแต่ช่วยลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 300,000 บาทต่อปี แต่ยังเป็นการสนับสนุนบริษัทที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมอีกด้วย แต่คำถามที่หลายคนสงสัยคือ การลงทุนใน Thai ESG เพื่อลดหย่อนภาษีดีกว่าการซื้อประกันหรือไม่

เปรียบเทียบ Thai ESG กับประกันชีวิต

• ความยืดหยุ่นในการใช้เงิน 

จุดเด่นของ Thai ESG ที่แตกต่างจากประกันชีวิตคือความสามารถในการขายเพื่อเอาเงินคืนได้ตลอดเวลา แม้จะต้องเสียภาษีชดเชยหากขายก่อน 5 ปี แต่ก็ยังมีความยืดหยุ่นมากกว่าประกันที่ต้องผูกมัดระยะยาว การมีสภาพคล่องที่ดีกว่านี้ทำให้เหมาะกับคนที่ไม่แน่ใจว่าจะมีเงินส่วนเกินต่อเนื่องทุกปี

• โอกาสในการสร้างผลตอบแทน 

ถึงแม้ Thai ESG จะมีความเสี่ยงเหมือนการลงทุนในตลาดหุ้น แต่ในระยะยาวมีโอกาสให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าประกันแบบออมทรัพย์ที่มักให้ผลตอบแทนประมาณ 3-4% ต่อปี การลงทุนใน Thai ESG จึงเหมาะกับคนที่ยอมรับความเสี่ยงเพื่อแลกกับโอกาสได้ผลตอบแทนที่ดีกว่า

• การสนับสนุนธุรกิจที่ยั่งยืน 

การลงทุนใน Thai ESG ไม่ใช่แค่การลดหย่อนภาษี แต่ยังเป็นการสนับสนุนบริษัทที่มีแนวคิดการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ซึ่งในระยะยาวบริษัทเหล่านี้มักจะมีการเติบโตที่มั่นคงกว่า เพราะมีการบริหารความเสี่ยงที่ดีและสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน

• ข้อจำกัดด้านการคุ้มครอง 

สิ่งที่ต้องพิจารณาคือ Thai ESG ไม่มีการคุ้มครองชีวิตเหมือนประกันชีวิต หากต้องการความคุ้มครองด้านชีวิตและสุขภาพ อาจต้องซื้อประกันแยกต่างหาก ซึ่งจะเป็นต้นทุนเพิ่มเติม แต่ในทางกลับกัน การแยกการลงทุนและการประกันออกจากกันอาจให้ความยืดหยุ่นและผลตอบแทนที่ดีกว่า

• กลยุทธ์การกระจายความเสี่ยง 

การผสมผสานระหว่าง Thai ESG และประกันอาจเป็นทางเลือกที่สมดุล โดยใช้ Thai ESG เป็นเครื่องมือลดหย่อนภาษีและสร้างผลตอบแทน ขณะที่ใช้ประกันคุ้มครองชีวิตแบบเทอมในราคาถูกเพื่อคุ้มครองความเสี่ยง การแบ่งงบประมาณเช่นนี้อาจให้ประโยชน์รวมที่มากกว่า

• ปัจจัยที่ควรพิจารณา

การเลือกระหว่าง Thai ESG และประกันขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น อายุ สถานภาพครอบครัว ความสามารถในการรับความเสี่ยง และเป้าหมายทางการเงิน คนหนุ่มสาวที่ยังไม่มีภาระครอบครัวมากอาจเหมาะกับ Thai ESG มากกว่า ขณะที่คนที่มีครอบครัวแล้วอาจต้องการความคุ้มครองจากประกันมากกว่า

การลงทุนใน Thai ESG เพื่อลดหย่อนภาษีมีข้อดีด้านความยืดหยุ่นและโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่าประกันแบบออมทรัพย์ แต่ขาดการคุ้มครองชีวิต การตัดสินใจควรพิจารณาจากความต้องการส่วนบุคคลและสถานการณ์ทางการเงิน การปรึกษาที่ปรึกษาการเงินเพื่อหาสัดส่วนที่เหมาะสมระหว่างการลงทุนและการประกันจึงเป็นสิ่งที่ควรทำ