ได้เวลาของ Redmi Note ฤดูกาลใหม่! ล่าสุด Xiaomi ได้เปิดตัว Redmi Note 15 Series เวอร์ชัน Global อย่างเป็นทางการถึง 5 รุ่นรวด โดยในข่าวนี้เราจะเจาะลึกไปที่ 2 รุ่นท็อปอย่าง Redmi Note 15 Pro และ Redmi Note 15 Pro 5G ที่แม้ดูภายนอกจะเป็นการอัปเกรดเล็กน้อย (Minor Change) แต่ภายในอัดแน่นด้วยการปรับปรุงที่น่าสนใจ
ไฮไลต์เด็ด: แบตเตอรี่ใหญ่ขึ้น ชาร์จย้อนกลับได้แรงกว่าเดิม
![]() | ![]() |
จุดเปลี่ยนสำคัญของรุ่นนี้คือขนาดแบตเตอรี่ที่ใหญ่ขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้า:
- Redmi Note 15 Pro: มาพร้อมแบตเตอรี่ 6,500 mAh รองรับชาร์จไว 45W
- Redmi Note 15 Pro 5G: อัปเกรดใช้แบตเตอรี่เทคโนโลยี Silicon–Carbon ความจุ 6,580 mAh
![]() | ![]() |
แม้ทั้งคู่จะรองรับการชาร์จผ่านสายที่ 45W เท่ากัน แต่ฟีเจอร์เด็ดคือการแบ่งปันแบตเตอรี่ (Reverse Charging) โดยรุ่น Pro 5G จ่ายไฟให้อุปกรณ์อื่นผ่านสายได้แรงถึง 22.5W ส่วนรุ่น Pro ธรรมดาทำได้ที่ 18W
หน้าจอ AMOLED แบบแบน สว่างสู้แสง

ทั้งสองรุ่นมาพร้อมดีไซน์หน้าจอขอบแบน (Flat Display) ตามเทรนด์นิยม:
- Redmi Note 15 Pro 5G: หน้าจอใหญ่ 6.83 นิ้ว AMOLED ความละเอียด 1.5K (2,772 x 1,280px) รีเฟรชเรท 120Hz พร้อม Touch Sampling Rate สูงถึง 480Hz
- Redmi Note 15 Pro: หน้าจอ 6.77 นิ้ว AMOLED ความละเอียด FHD+ (2,392 x 1,080px) รีเฟรชเรท 120Hz (Touch Sampling Rate 240Hz)
ทั้งคู่รองรับการแสดงผลสี 12-bit และดันความสว่างเฉพาะจุด (Peak Local Brightness) ได้สูงสุดถึง 3,200 nits
ดีไซน์แกร่ง กันน้ำกันฝุ่นขั้นสุด
นอกจากลำโพงคู่ Dolby Atmos แล้ว เรื่องความทนทานก็ได้รับการอัปเกรด:

- Redmi Note 15 Pro: มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP65 (ดีกว่ารุ่นก่อนที่เป็น IP64)

- Redmi Note 15 Pro 5G: จัดเต็มมาตรฐานเรือธง IP68 และ IP69K รองรับการฉีดน้ำแรงดันสูง อึดกว่ารุ่นปีที่แล้วชัดเจน
ขุมพลัง MediaTek รุ่นใหม่ พร้อม AI
ชิปเซ็ตได้รับการรีเฟรชใหม่ โดยมีการเพิ่มความเร็ว CPU และปรับปรุง NPU สำหรับประมวลผล AI:
- Redmi Note 15 Pro: ใช้ชิป Helio G200-Ultra
- Redmi Note 15 Pro 5G: ใช้ชิป Dimensity 7400-Ultra
- ความจุ: RAM 8/12GB และพื้นที่จัดเก็บ 256/512GB
ซอฟต์แวร์รันบน HyperOS 2.0 (Android 15) ตั้งแต่แกะกล่อง มาพร้อมชุดเครื่องมือ Xiaomi AI ครบครัน เช่น AI Erase Pro (ลบคน/วัตถุ), AI Remove Reflection (ลบเงาสะท้อน), และ AI Image Enhancement
กล้องหลัก 200MP คมชัดทุกช็อต

- กล้องหลัง: ทั้งคู่ใช้เซนเซอร์หลัก 200MP (ISOCELL S5KHPE) + เลนส์ Ultrawide 8MP
- กล้องหน้า: รุ่น Pro ให้มา 32MP (OV32D40) ในขณะที่รุ่น Pro 5G ให้มา 20MP (OV20B)
ราคาและการวางจำหน่าย (Global)

- Redmi Note 15 Pro: มีสี Titanium, Glacier Blue, Black
- รุ่น 8/256GB เริ่มต้นที่ €349 (ประมาณ 12,800 บาท)

- Redmi Note 15 Pro 5G: มีสี Titanium, Glacier Blue, Mist Purple, Black
- รุ่น 8/256GB เริ่มต้นที่ €399 (ประมาณ 14,600 บาท)
- รุ่น 8/512GB ราคา €429 (ประมาณ 15,700 บาท)
หมายเหตุ: ราคาไทยอาจแตกต่างจากราคาโซนยุโรป โดยจะเริ่มเปิดพรีออเดอร์ในต่างประเทศตั้งแต่วันที่ 5 มกราคมนี้
ที่มา : Gsmarena













