ตามมาติด ๆ กับรุ่นพี่ Pro ล่าสุด Redmi Note 15 Series รุ่นมาตรฐาน (Base Model) เวอร์ชัน Global ก็เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว โดยมาด้วยกัน 2 รุ่นย่อยคือ Redmi Note 15 5G และรุ่นประหยัด Redmi Note 15 (4G)

ความน่าสนใจคือ ทั้งสองรุ่นมีดีไซน์ภายนอกที่เหมือนกันจนแยกไม่ออก ทั้งโมดูลกล้องและหน้าจอ แต่มีความแตกต่างกันที่สเปคภายในอย่างชัดเจน
หน้าจอคู่แฝด: จอโค้ง AMOLED สว่างสู้แดด

จุดเด่นที่ทำให้รุ่นนี้น่าสนใจเกินราคาคือหน้าจอ ทั้งรุ่น 4G และ 5G ใช้สเปคเดียวกัน:
- หน้าจอ: ขอบโค้ง 6.77 นิ้ว แบบ AMOLED1
- ความละเอียด: FHD+ พร้อม Refresh Rate 120Hz2
- ความสว่าง: ดันความสว่างเฉพาะจุด (Peak Brightness) ได้สูงสุด 3,200 nits3
- ฟีเจอร์: ฝังเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ (Optical)
ขุมพลังที่แตกต่าง: Snapdragon vs MediaTek

นี่คือจุดตัดสินใจสำคัญระหว่างสองรุ่นนี้:
- Redmi Note 15 5G: ขับเคลื่อนด้วยชิป Qualcomm Snapdragon 6 Gen 3 (RAM 6/8/12GB, ความจุสูงสุด 512GB)4
- Redmi Note 15 (4G): ใช้ชิป MediaTek Helio G100-Ultra (RAM 6/8GB)5
กล้อง 108MP พร้อมกันสั่น OIS

ทั้งคู่มาพร้อมกล้องหลักความละเอียดสูง 108MP ใช้เซนเซอร์ Samsung ISOCELL HM9 พร้อมระบบกันสั่น OIS เหมือนกัน แต่เลนส์รองต่างกัน:6
- รุ่น 5G: ได้เลนส์ Ultrawide 8MP
- รุ่น 4G: ได้เลนส์ Depth 2MP (ไม่มีเลนส์มุมกว้าง)
- กล้องหน้า: ทั้งคู่ให้มาที่ 20MP
แบตเตอรี่: รุ่น 4G จุเยอะกว่า แต่รุ่น 5G ชาร์จไวกว่า
- Redmi Note 15 (4G): ชนะเรื่องความจุที่ 6,000 mAh รองรับชาร์จไว 33W และกันน้ำระดับ IP647
- Redmi Note 15 5G: ใช้แบตเตอรี่เทคโนโลยีใหม่ Silicon-Carbon ความจุ 5,520 mAh รองรับชาร์จไว 45W และกันน้ำดีกว่าที่ระดับ IP66
ทั้งสองรุ่นมาพร้อมระบบปฏิบัติการ HyperOS 2.0 บนพื้นฐาน Android 15 ตั้งแต่แกะกล่อง8
ราคาและการวางจำหน่าย (Global)
Redmi Note 15 (4G)

- มีสีให้เลือก: Glacier Blue, Purple, Forest Green, Black
- ราคาเริ่มต้นรุ่น 6/128GB: €229 (ประมาณ 8,400 บาท)
Redmi Note 15 5G

- มีสีให้เลือก: Glacier Blue, Mist Purple, Black
- ราคาเริ่มต้นรุ่น 6/128GB: €279 (ประมาณ 10,200 บาท)
กำหนดการเปิดพรีออเดอร์ในต่างประเทศเริ่มวันที่ 5 มกราคมนี้
ที่มา : Gsmarena









