ตามที่ AIS ได้ประกาศเดินหน้าดำเนินการเข้าซื้อหุ้นใน บริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ 3BB และซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน หรือ JASIF
แม้ว่าเงื่อนไขบังคับก่อนหน้านี้ ระบุว่าต้องได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหน่วยลงทุน JASIF ต่อกรณีการขอยกเลิกสัญญาประกันรายได้ (Rental Assurance Agreement) และการขอแก้ไขสัญญาเช่าหลัก (Main Lease Agreement)
แต่ล่าสุด คณะกรรมการบริษัท เห็นว่าการเข้าทำธุรกรรมยังมีความเหมาะสมต่อบริษัทในระยะยาว จึงมีมติอนุมัติให้ AIS ดำเนินการเข้าซื้อหุ้นใน 3BB และ JASIF ต่อไป
โดยยืนยันว่าดีลนี้จะสร้างประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมเน็ตบ้านในระยะยาว โดยช่วยทำให้คนไทยทุกพื้นที่ ทั้งในเมืองและนอกเมือง เข้าถึงบริการดิจิทัลและอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงจากเทคโนโลยีไฟเบอร์ พร้อมนวัตกรรมล่าสุดจากขีดความสามารถของทีม AIS และ 3BB ได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งลดปริมาณการลากสายไฟเบอร์ที่ทับซ้อนเกินความจำเป็น และเกิดการพัฒนาต่อโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลเทคโนโลยีที่ครอบคลุมการใช้งาน พร้อมยกระดับอุตสาหกรรมดิจิทัลของประเทศในทุกรูปแบบธุรกิจอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม
นายธีร์ สีอัมพรโรจน์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน AIS อธิบายว่า “AIS ยังคงมีความมุ่งมั่นพัฒนาโครงข่ายบรอดแบนด์ให้ครอบคลุมทั่วถึงคนไทย และตอบโจทย์การขยายโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลของประเทศให้รวดเร็วยิ่งขึ้น
โดยการประกาศยืนยันลงทุนขยายธุรกิจ AIS Fibre ในครั้งนี้ ยังคงเป็นไปตามเป้าหมายในธุรกิจอินเทอร์เน็ตบ้าน และมุ่งสู่การเป็นผู้ให้บริการเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างสมบูรณ์ แม้จะมีการปรับเปลี่ยนเงื่อนไข ตามมติจากที่ประชุมผู้ถือหน่วย JASIF ที่ไม่อนุมัติการแก้ไขสัญญาเช่าตาม AIS เสนอไปก็ตาม แต่ทางคณะกรรมการบริษัทฯ ก็ยังเห็นโอกาสและมองว่ายังสามารถเดินหน้าดีลนี้ได้ต่อไป
โดยในเรื่องของการลดค่าเช่าที่ไม่ได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหน่วยลงทุน JASIF ก่อนหน้านี้ แม้จะเป็นประเด็นสำคัญต่อการพิจารณา แต่ในท้ายที่สุด AIS มองเห็นถึงประโยชน์ในระยะยาว ที่จะทำให้การดำเนินธุรกิจส่งเสริมด้วยการใช้ศักยภาพร่วมกัน ทั้งในฝั่งของ 3BB ที่มีความแข็งแกร่งในธุรกิจเน็ตบ้านมาอย่างยาวนาน และ AIS ที่เป็นผู้นำในตลาดโทรคมนาคม และบริการดิจิทัลที่ตอบโจทย์
รวมถึงการมีธุรกิจอินเทอร์เน็ตบ้านอย่าง AIS Fibre ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ภายในระยะเวลาไม่กี่ปี พร้อมได้รับการยอมรับจากลูกค้าเรื่องคุณภาพการให้บริการ การผนึกกำลังร่วมกันก็จะยิ่งสร้างความแข็งแกร่ง เสริมขีดความสามารถในการให้บริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ผ่านสายไฟเบอร์ที่ครอบคลุมลูกค้าที่กว้างขวางมากขึ้น ได้รับบริการดิจิทัลและสิทธิพิเศษที่มีความคุ้มค่าและหลากหลายมากขึ้น”
“สำหรับโอกาสในการต่อสัญญาเช่าโครงข่าย JASIF ภายหลังจากหมดอายุสัญญาในเดือน มกราคม 2575 หลังจากที่ผู้ถือหน่วยลงทุน JASIF ไม่ได้มีการอนุมัติในการปรับแก้ไขและต่ออายุสัญญาเช่าตามที่ AIS ได้เสนอ การต่อสัญญาเช่าจึงต้องมาพิจารณาความคุ้มค่าด้านต้นทุนที่เหมาะสม กับความสามารถในการแข่งขันด้านธุรกิจของ AIS และ 3BB ซึ่งบริษัทจะพิจารณาร่วมกับทางเลือกอื่นๆ ที่มีความเหมาะสม เช่นการจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานของ AIS เอง เพื่อรองรับการขยายตัวในระยะยาว”
“นอกเหนือจากความแข็งแกร่งและการเติบโตจากการขยายธุรกิจครั้งนี้ของ AIS แล้ว เรายังมองถึงภาพรวมของอุตสาหกรรมอินเทอร์เน็ตบ้านที่ยังต้องอาศัยผู้เล่นที่มีความพร้อมในการพัฒนาโครงข่ายไฟเบอร์ในประเทศไทย เพื่อให้เกิดการขยายการลงทุนไปยังพื้นที่ใหม่ๆให้คนไทยได้รับบริการอินเทอร์เน็ตอย่างทั่วถึงโดยเฉพาะในพื้นที่ต่างจังหวัดและพื้นที่ห่างไกล ซึ่งจะเป็นผลเพื่อผลักดันให้ตลาดเกิดการแข่งขัน สร้างทางเลือกที่หลากหลายให้กับผู้บริโภค
รวมถึงช่วยให้ลูกค้าได้รับประโยชน์อย่างเท่าเทียมจากบริการที่รวดเร็วและมีคุณภาพดีที่สุด โดย AIS จะดำเนินการขออนุญาตในการเข้าทำธุรกรรมครั้งนี้จากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ก่อนตามขั้นตอน จึงจะลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นและหน่วยลงทุน โดยคาดว่าธุรกรรมจะเสร็จสมบูรณ์ภายในไตรมาส 1 ของปี 2566” นายธีร์ กล่าวทิ้งท้าย