Nintendo Switch ได้กลายเป็นเครื่องเกมที่รวบรวมเกมระดับตำนานจากหลากหลายแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็นเกมเก่าจากยุค Super Nintendo, PlayStation 2 หรือแม้แต่เกมที่เคยเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของคอนโซลอื่น ๆ การนำเกมระดับตำนานมาพอร์ตลง Switch ไม่ใช่แค่การปลุกชีวิตให้เกมเก่ากลับมาโลดแล่นอีกครั้ง แต่ยังเป็นโอกาสให้แฟนเกมรุ่นใหม่ได้สัมผัสประสบการณ์ที่หลายคนเคยหลงรัก วันนี้เราจะพาไปดู 5 เกมระดับตำนานที่คุณสามารถเล่นได้บน Nintendo Switch พร้อมเหตุผลว่าทำไมพวกมันถึงยังคงยอดเยี่ยมแม้เวลาจะผ่านไป
1. The Elder Scrolls V: Skyrim
ปีที่วางจำหน่ายดั้งเดิม: 2011 | ผู้พัฒนา: Bethesda Game Studios
จะเรียก Skyrim ว่า “เกมอมตะ” ก็คงไม่ผิดนัก เพราะนี่คือหนึ่งในเกม RPG ที่ถูกพอร์ตไปยังแทบทุกแพลตฟอร์มตั้งแต่ยุค PlayStation 3, Xbox 360 มาจนถึงยุคปัจจุบัน การที่ Skyrim สามารถเล่นได้บน Nintendo Switch ถือเป็นความฝันที่เป็นจริงสำหรับแฟน ๆ เกมแนว Open World เพราะคุณสามารถพกพาโลกอันกว้างใหญ่ของ Skyrim ไปเล่นได้ทุกที่ แม้ว่ากราฟิกจะถูกปรับลดลงเพื่อให้เหมาะกับ Switch แต่แก่นของเกมยังคงอยู่ครบถ้วน ตั้งแต่ระบบเควสต์ที่ลึกซึ้ง การสำรวจโลกที่เต็มไปด้วยความลับ และการอัปเกรดตัวละครที่มีความยืดหยุ่น
2. DOOM (1993) และ DOOM (2016)
ปีที่วางจำหน่ายดั้งเดิม: 1993 และ 2016 | ผู้พัฒนา: id Software
DOOM เป็นเกม FPS ระดับตำนานที่วางรากฐานให้กับเกมแนวยิงมุมมองบุคคลที่หนึ่งมาตั้งแต่ปี 1993 ซึ่งเวอร์ชันดั้งเดิมได้ถูกนำมาพอร์ตให้เล่นบน Switch แบบคลาสสิก แต่ที่น่าสนใจคือ DOOM (2016) ซึ่งเป็นการรีบูตซีรีส์ด้วยกราฟิกสุดโหดและเกมเพลย์สุดมันส์ก็ถูกพอร์ตลง Switch ได้เช่นกัน แม้ว่าจะมีการลดทอนรายละเอียดกราฟิกเพื่อให้รันได้ลื่นไหล แต่ยังคงไว้ซึ่งความเร็วในการเล่นและการเคลื่อนไหวอันเป็นเอกลักษณ์ของซีรีส์ DOOM นี่คือโอกาสที่แฟน FPS จะได้สัมผัสเกมยิงที่โหด มันส์ และเร้าใจไม่แพ้เวอร์ชันเครื่องอื่น
3. The Legend of Zelda: Link’s Awakening (Remake)
ปีที่วางจำหน่ายดั้งเดิม: 1993 | ผู้พัฒนา: Nintendo
ภาครีเมคของ The Legend of Zelda: Link’s Awakening เป็นหนึ่งในเกมที่ได้รับความรักจากแฟน ๆ Zelda มากที่สุด เกมต้นฉบับเปิดตัวครั้งแรกบน Game Boy และมีชื่อเสียงในฐานะหนึ่งในเกมแอ็กชันผจญภัยที่ดีที่สุดของยุคนั้น รีเมคบน Nintendo Switch ได้ยกระดับกราฟิกให้เป็นแบบ 3D ที่ดูน่ารักแต่ยังคงบรรยากาศของเกมต้นฉบับไว้ครบถ้วน เกมเพลย์คลาสสิกที่ยังคงเสน่ห์เดิมเอาไว้ผสมผสานกับการควบคุมที่ลื่นไหลยิ่งขึ้น ทำให้แฟน Zelda รุ่นเก่าและรุ่นใหม่ต่างก็สามารถสนุกไปกับการผจญภัยบนเกาะ Koholint ได้อย่างเต็มที่
4. Resident Evil 4
ปีที่วางจำหน่ายดั้งเดิม: 2005 | ผู้พัฒนา: Capcom
Resident Evil 4 ถือเป็นหนึ่งในเกมแนวแอ็กชัน-เอาชีวิตรอดที่ดีที่สุดตลอดกาลและได้รับการพอร์ตมาหลายแพลตฟอร์มแล้ว ซึ่งเวอร์ชันบน Nintendo Switch ก็นำเสนอประสบการณ์ที่ใกล้เคียงกับต้นฉบับมากที่สุด เกมนี้ยังคงความลื่นไหลของระบบยิงมุมมองบุคคลที่สามและการเล่าเรื่องสุดระทึกที่เป็นจุดแข็งของซีรีส์ Resident Evil การพกเกมสุดคลาสสิกอย่าง Resident Evil 4 ไปเล่นได้ทุกที่ถือเป็นข้อได้เปรียบของ Switch ที่ทำให้เกมเมอร์สามารถย้อนกลับไปสัมผัสความหลอนและแอ็กชันอันเข้มข้นได้ทุกเมื่อ
5. Metroid Prime Remastered
ปีที่วางจำหน่ายดั้งเดิม: 2002 | ผู้พัฒนา: Retro Studios
Metroid Prime ภาคต้นฉบับบน GameCube เป็นหนึ่งในเกมแนว FPS + Action-Adventure ที่ดีที่สุดของยุค 2000 และเมื่อมันถูกรีมาสเตอร์ให้เล่นบน Nintendo Switch ก็ทำให้แฟน ๆ ได้สัมผัสกับเกมที่มีภาพกราฟิกคมชัดขึ้นและการควบคุมที่ปรับให้เข้ากับยุคสมัยใหม่ Metroid Prime ยังคงความลึกลับและบรรยากาศไซไฟของซีรีส์ไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม รวมถึงการสำรวจและแก้ปริศนาแบบ Metroidvania ที่เป็นเอกลักษณ์ เป็นอีกหนึ่งเกมที่ไม่ควรพลาดสำหรับแฟน Nintendo และคนที่อยากสัมผัสเกมแนวสำรวจที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น
Nintendo Switch ได้กลายเป็นแหล่งรวมเกมระดับตำนานที่แฟนเกมสามารถพกติดตัวไปเล่นที่ไหนก็ได้ ไม่ว่าจะเป็น RPG สุดคลาสสิกอย่าง Skyrim, เกม FPS ในตำนานอย่าง DOOM, การผจญภัยที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ของ Zelda หรือความสยองขวัญของ Resident Evil 4 ทุกเกมในลิสต์นี้ต่างมีคุณค่าในประวัติศาสตร์เกม และการที่พวกมันสามารถเล่นได้บน Switch ถือเป็นโอกาสทองสำหรับทั้งเกมเมอร์รุ่นเก่าและรุ่นใหม่ที่จะได้สัมผัสสุดยอดประสบการณ์เหล่านี้