ก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศจีนวันที่ 13 ตุลาคมนี้ สเปคทั้งหมดของสมาร์ตโฟน vivo X300 Series ได้ปรากฏออกมาให้เห็นครบถ้วน ทั้งจากรายชื่อบนเว็บไซต์ China Telecom และภาพสไลด์นำเสนอที่หลุดออกมา สำหรับสเปคของรุ่นใหญ่อย่าง vivo X300 Pro สามารถติดตามได้จากอีกรายงาน แต่ในบทความนี้ เราจะมาเจาะลึกสเปคของรุ่นมาตรฐาน vivo X300 กันครับ
ดีไซน์และหน้าจอ
vivo X300 (หมายเลขโมเดล V2509A) มาในดีไซน์ตัวเครื่องที่กะทัดรัด ด้วยขนาด 150.57×71.92×7.95 มม. และน้ำหนัก 190 กรัม โดยจะมีตัวเลือกสีให้เลือกได้แก่ สีฟ้า (Freedom Blue), สีม่วง (Leisure Purple), สีมงคล (Lucky Colour) และสีดำ (Pure Black)
ในส่วนของหน้าจอ จะใช้จอแสดงผล BOE Q10+ OLED ขนาด 6.31 นิ้ว มอบความละเอียดสูงระดับ 1.5K (2640×1216 พิกเซล) และมีอัตรารีเฟรชเรทที่ลื่นไหลถึง 120Hz
ขุมพลังและแบตเตอรี่
หัวใจหลักของตัวเครื่องขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ตระดับเรือธง Dimensity 9500 พร้อมให้แบตเตอรี่ความจุสูงถึง 6,040mAh รองรับการใช้งานยาวนานตลอดวัน และเช่นเดียวกับรุ่น Pro ตัวเครื่องจะรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วแบบใช้สาย 90W และการชาร์จแบบไร้สาย 40W
ชุดกล้องจัดเต็มระดับเรือธง
vivo X300 ให้ความสำคัญกับเรื่องกล้องเป็นพิเศษ โดยมีรายละเอียดดังนี้:
- กล้องหน้า: ความละเอียด 50MP (เซ็นเซอร์ Samsung JN1) ให้มุมมองกว้าง (FOV) 92 องศา
- ชุดกล้องหลัง 3 ตัว:
- กล้องหลัก: ความละเอียด 200MP (เซ็นเซอร์ Samsung HPB) พร้อมระบบกันสั่น OIS
- กล้อง Ultra-wide: ความละเอียด 50MP (เซ็นเซอร์ Samsung JN1)
- กล้อง Periscope Telephoto: ความละเอียด 50MP (เซ็นเซอร์ Sony LYT-602) พร้อมระบบกันสั่น OIS
นอกจากนี้ยังรองรับทางยาวโฟกัส 23/50มม. และมาพร้อมชิปประมวลผลภาพ V3+ ที่ช่วยให้การประมวลผลภาพถ่ายมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น
ซอฟต์แวร์และฟีเจอร์อื่น ๆ
vivo X300 จะมาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 16 ที่ครอบทับด้วย OriginOS 6 ตั้งแต่แกะกล่อง และอัดแน่นด้วยฟีเจอร์ที่น่าสนใจอื่น ๆ เช่น:
- ตัวขยายสัญญาณ Universal Signal Amplifier 3.0
- ชิป Wi-Fi ทะลุทะลวงกำแพง 4 ตัว
- ลำโพงคู่สเตอริโอ
- มอเตอร์สั่นแบบ X-axis linear motor
- เซ็นเซอร์ลายนิ้วมือใต้จอแบบ Ultrasonic
- การเชื่อมต่อ Bluetooth 5.4, NFC, และ USB 3.2 Gen 1
- มาตรฐานกันน้ำและฝุ่นระดับ IP68
วันวางจำหน่ายและรุ่นความจุ
vivo X300 จะเริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 17 ตุลาคมนี้ โดยมีรุ่นความจุให้เลือกหลากหลายดังนี้:
- 12GB+256GB
- 12GB+512GB
- 16GB+256GB
- 16GB+512GB
- 16GB+1TB
ทาง vivo ยังได้ยืนยันแล้วว่าตัวเครื่องจะรองรับอุปกรณ์เสริม Zeiss 2.35× telephoto teleconverter อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลทั้งหมดนี้ยังคงเป็นเพียงข้อมูลที่หลุดออกมา ซึ่งรายละเอียดบางอย่างอาจมีการเปลี่ยนแปลงในวันเปิดตัวจริง จึงแนะนำให้รอการยืนยันจาก vivo อีกครั้ง
ที่มา : Gizmochina