realme เปิดตัวสมาชิกใหม่ในตระกูล Number Series กับ “realme 15 Series” สมาร์ตโฟนรุ่นล่าสุดที่ถูกวางตำแหน่งเป็น AI Party Phone ของวงการสมาร์ตโฟนรุ่นแรกในไทย พร้อมสโลแกน “ใช้ชีวิตให้เรียลทุกช็อต” ประกอบด้วย realme 15 Pro 5G และ realme 15 5G
โดยทั้ง 2 รุ่นโดดเด่นทั้งการถ่ายภาพด้วยกล้องหลังคู่ 50MP Dual 4K พร้อมความสามารถด้าน AI ที่เหนือชั้นอีกมากมาย, แบตเตอรี่ขนาดใหญ่และบางที่สุดในอุตสาหกรรม, ขุมพลังชิปเซ็ทที่เร็ว แรง, ดีไซน์สง่างามสุดหรู และเป็นสมาร์ตโฟนที่ทนทานที่สุดในกลุ่ม
ซึ่งทาง MobileOcta ก็ได้เครื่อง realme 15 Pro 5G และ realme 15 5G มาอยู่ในมือเป็นที่เรียบร้อย ไปติดตามรีวิวเต็มกันได้เลยครับ


สเปกเบื้องต้น realme 15 Pro 5G
ขนาด | 162.3 x 76.2×7.79 มม. (Flowing Silver) x 7.84 มม. (Velvet Green) |
น้ำหนัก | 187 กรัม |
หน้าจอ | 144Hz HyperGlow 4D Curve+ Display แบบ AMOLED ความละเอียด 1280 x 2800 พิกเซล ขนาด 6.8 นิ้ว (453PPPI) ในอัตราส่วน 19.8:9 และอัตราส่วนจอต่อเครื่อง 94% โดยมีอัตรารีเฟรชเรทสูงสุด 144Hz, อัตราการสุ่มตัวอย่างแบบสัมผัสสูงสุด240 Hz /เปลี่ยนแบบฉับพลัน 2500 Hz, ช่วงสี: 1.07 พันล้านสี 10 บิต, ความสว่างปกติ : 1000 nits (Typical) HBM: 1800 nits (Typical) สูงสุด 6500 nits, รองรับ HDR10+, คอนทราสต์: 5000000:1 และอัตราการหรี่แสง 4608 Hz PWM |
หน่วยประมวลผล | ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.8GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Qualcomm SM7750-AB Snapdragon 7 Gen 4 (4 nm), หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 722 |
RAM | 12GB รองรับเทคโนโลยี Dynamic RAM Expansion สำหรับเพิ่ม RAM เสมือนได้อีกสูงสุด 14GB |
หน่วยความจำภายในเครื่อง | 256GB |
microSD Card | ไม่รองรับ |
ระบบปฏิบัติการ | realmu UI 6.0 based on Android 15 |
เชื่อมต่อ | Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6, dual-band Bluetooth 5.4, A2DP, LE GPS, GLONASS, GALILEO, BDS, QZSS NFC พอร์ตอินฟราเรด พอร์ต USB Type-C 2.0 |
กล้องถ่ายภาพ | กล้องหลังคู่ AI Dual Camera พร้อมไฟแฟลช LED – กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX896 รูรับแสง f/1.8, 24mm (wide), ขนาดเซ็นเซอร์ 1/1.56″, 1.0µm, ระบบ multi-directional PDAF และระบบกันสั่น 2 axis OIS – กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Ultrawide เซ็นเซอร์ OV50D ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0, 16mm, ขนาดเซ็นเซอร์ 1/2.88″, 0.61µm, ถ่ายมุมกว้างได้ 115.6 องศา และรองรับ EIS พร้อมโหมด PHOTO, VIDEO, PORTRAIT, AI LANDSCAPE, NIGHT, HI-RES, PRO, PANO, STREET, FILM, SLO-MO, TIME-LAPSE, LONG EXPOSURE, DUAL-VIDEO, UNDERWATER, TEXT SCANNER, BREENO SCAN, STARRY MODE, TILT-SHIFT, Googlen Lens กล้องหน้าความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ OV50D รูรับแสง f/2.4, ขนาดเซ็นเซอร์ 1/2.88″, ถ่ายมุมกว้างได้ 87° รองรับ EIS แบบสองแกน พร้อมโหมด PHOTO, VIDEO, PORTRAIT, NIGHT,HI-RES, PANO, TIME-LAPSE, DUAL-VIDEO, UNDERWATER วิดีโอ 4K @ 60 FPS 4K @ 30 FPS 1080P @ 60 FPS 1080P @ 30 FPS (ค่าเริ่มต้น เปิดโหมดความงาม) 720P @ 30 FPS |
รองรับระบบ | Dual Slot แบบ 2 ซิม ชนิดนาโนซิม 5G + 5G Dual Mode (SA/NSA) GSM: 850/900/1800 MHz WCDMA: Band 1/5/8 LTE FDD: Band 1/3/5/8/28B LTE TDD: Band 40/41 5G NR: n1/n3/n5/n8/n28B/n40/n41/n77/n78 |
แบตเตอรี่ | 7,000mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว 80W Ultra Charge |
สี | Flowing Silver และ Velvet Green |
ราคา | RAM 12GB+512GB ราคา 16,999 บาท RAM 12GB+256GB) ราคา 14,999 บาท |

สเปกเบื้องต้น realme 15 5G
ขนาด | 162.3 x 76.2 x 7.66 มม. |
น้ำหนัก | 185 กรัม |
หน้าจอ | 144Hz AMOLED Display แบบ AMOLEd ความละเอียด FHD+ 1080 x 2392 พิกเซล ขนาด 6.77 นิ้ว ในอัตราส่วน 19.5:9 สัดส่วนจอต่อเครื่อง 94% โดยมีอัตรารีเฟรชเรทสูงสุด 144Hz, อัตราสุ่มตัวอย่างแบบสัมผัสสูงสุด 240Hz, อัตราการสุ่มตัวอย่างแบบสัมผัสทันที 2500Hz, ความสว่างสูงสุด 4500nits, ขอบเขตสี 1.07 พันล้านสี, 10bits, อัตราส่วนคอนทราสต์: 500000:1 และอัตราการหรี่แสง 3840Hz PWM |
หน่วยประมวลผล | ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.6GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Mediatek Dimensity 7300+ (4 nm), หน่วยประมวลผลกราฟิก Mali-G615 MC2 |
RAM | 12GB รองรับเทคโนโลยี Dynamic RAM Expansion สำหรับเพิ่ม RAM เสมือนได้อีกสูงสุด 14GB |
หน่วยความจำภายในเครื่อง | 256GB |
microSD Card | ไม่รองรับ |
ระบบปฏิบัติการ | realme UI 6.0 based on Android 15 |
เชื่อมต่อ | Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6, dual-band Bluetooth 5.4, A2DP, LE GPS, GLONASS, GALILEO, BDS, QZSS NFC พอร์ตอินฟราเรด พอร์ต USB Type-C 2.0 |
กล้องถ่ายภาพ | กล้องหลังคู่ AI Dual Camera พร้อมไฟแฟลช LED – กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX882, เลนส์ 5P, รูรับแสง f/1.8, 24mm (wide), เซ็นเซอร์ขนาด 1/1.95″, ระบบ PDAF และระบบกันสั่น 2 axis OIS – กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Ultrawide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ OV08D10, เลนส์ 5P, รูรับแสง f/2.2. 16mm, ถ่ายมุมกว้างได้ 112° และรองรับ EIS แบบสองแกน พร้อมโหมด Photo, Video, Portrait, Night, Pano, Movie, SLO-MO, Long Exposure, Dual-View Video, TIME-LAPSE, HI-RES, Google Lens, Underwater, PRO, Text Scanner, Breeno Scan, TILT-SHIFT, Starry mode, Street, AI Landscape กล้องหน้าความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ OV50D, รูรับแสง f/2.4, เลนส์ 5P, 23mm และรองรับ EIS แบบสองแกน พร้อมโหมด Photo, Video, Portrait, Night, HI-RES, Panorama, Dual-view video, TIME-LAPSE, Underwater |
รองรับระบบ | Dual Slot แบบ 2 ซิม ชนิดนาโนซิม 5G + 5G Dual Mode (SA/NSA) GSM: 850/900/1800/1900 MHz WCDMA: Band 1/2/4/5/6/8/19 LTE FDD: Band 1/2/3/4/5/7/8/12/13/17/18/19/20/26/28/66/71 LTE TDD: Band 38/40/41 5G NR: n1/n2/n3/n5/n7/n8/n20/n26/n28/n38/n40/n41/n66/n71/n77/n78 |
แบตเตอรี่ | 7,000mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว 80W Ultra Charge |
สี | Suit Titanium และ Silk Pink |
ราคา | 12,999 บาท |
บรรจุภัณฑ์ / อุปกรณ์ภายในกล่อง



กล่องบรรจุภัณฑ์ของ realme 15 Pro 5G และ realme 15 5G เป็นกล่องกระดาษแข็งมาในโทนสีเหลืองสีประจำตัว realme ด้านหน้ากล่องมาพร้อมชื่อรุ่นขนาดใหญ่มองเห็นได้ชัดเจน มุมขวาบนมีโลโก้ Ai และตรงกลางด้านล่างมีโลโก้ realme ขณะที่ด้านข้างกล่องทั้ง 2 ด้านก็มีขื่อรุ่นระบุไว้ด้วย

ด้านหลังกล่องจะระบุสเปกเด่น 4 อย่างด้วยกัน เริ่มจาก realme 15 Pro 5G มาพร้อมชิปเซ็ท Snapdragon 7 Gen 4 5G, กล้องหลัก 50MP Sony OIS, กล้อง 50MP Ultra Wide-Angle,
กล้องเซลฟี่ 50MP, หน้าจอแสดงผล 144Hz 4D Curve+ AMOLED Display และแบตเตอรี่ 7000mAh รองรับชาร์จไว 80W Ultra Charge

ส่วน realme 15 5G มาพร้อมชิปเซ็ท Dimensity 7300+ 5G, กล้องหลัก 50MP Sony Camera, กล้องเซลฟี่ 50MP, หน้าจอแสดงผล 144Hz AMOLED Display,
แบตเเตอรี่ 7,000mAh Titan รองรับชาร์จไว 80W Ultra Charge และรองรับการกันน้ำ IP66/68/69
ส่วนอุปกรณ์ภายในกล่องมีดังนี้





- ตัวเครื่อง realme 15 Pro 5G และ realme 15 5G พร้อมติดฟิลม์กันรอยมาให้เรียบร้อย
- อุปกรณ์เปิดถาดซิมการ์ด
- อแดปเตอร์ชาร์จเร็ว 80W Ultra Charge
- สายดาต้าลิงค์แบบ USC Type-C
- เคสพลาสติก TPU
- คู่มือการใช้งานฉบับย่อ, เอกสารความปลอดภัย และบัตรรับประกัน

อแดปเตอร์ชาร์จเร็ว 80W Ultra Charge ที่มีมาให้ในกล่อง realme 15 Pro 5G

อแดปเตอร์ชาร์จเร็ว 80W Ultra Charge ที่มีมาให้ในกล่อง realme 15 5G
รูปลักษณ์ดีไซน์/การออกแบบ
![]() | ![]() |
![]() | ![]() |
realme 15 Pro 5G
realme 15 Pro 5G เป็นสมาร์ตโฟนแบตเตอรี่ 7,000mAh ที่บางที่สุดในกลุ่มด้วยความหนาแน่นของพลังงานแบตเตอรี่ที่สูงเป็นพิเศษ แม้แต่แบตเตอรี่ที่มีความจุขนาดใหญ่ก็ยังคงมีน้ำหนักเบาและเพรียวบาง ไม่เทอะทะ ให้พลังงานทั้งหมด
โดยมีความหนาเพียง 7.69 มม. และน้ำหนัก 187 กรัม ส่วนที่บางที่สุดของกรอบกลาง 4.05 มม. ซ้ายและขวา
ขอบสีดำ 1.48 มม. ขอบดำด้านบนและด้านล่าง Upper 1.64 มม. Lower 1.72 มม. และมีอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง 94%

ความหนาแน่นของแบตเตอรี่แตะจุดสูงสุดใหม่ในอุตสาหกรรม ช่วยให้เซลล์ที่มีความจุขนาดใหญ่ยังคงบางและเบา โดยไม่กระทบต่อพลังงานหรือความสะดวกในการพกพา
- ความหนาแน่นพลังงานสูงสุดในอุตสาหกรรม 813 วัตต์ชั่วโมง/ลิตร
- ความจุแบตเตอรี่ขนาดใหญ่พิเศษ 7,000 mAhmAhยังคงเป็นผู้น่าในช่วงราคาเดียวกัน

จอภาพรุ่นล่าสุดของอุตสาหกรรมปี 2025 มุมมองด้านข้างบางเฉียบเหมือนใบมีด
- จอแสดงผล Deep 4 D Curve+ รุ่นแรกในอุตสาหกรรม นิยามความเพรียวบางใหม่ด้วยดีไซน์ที่บางกว่าหน้าจอสี่โค้งแบบเดิมถึงสองเท่า
- หน้าจอและฝาหลังโค้งคู่ไร้รอยต่อ ขอบจอผสานเข้ากับส่วนโค้งเพื่อภาพที่ไร้ขอบและจับกระชับมืออย่างเบาสบาย
- ดีไซน์โค้งมน 44.8° ออกแบบอย่างแม่นยำ โค้งรับกับฝ่ามืออย่างเป็นธรรมชาติ ผสานขอบจอบางเฉียบเข้ากับการจับถือที่ง่ายดาย
การออกแบบวัสดุที่หรูหรา

ฝาหลังของ realme 15 Pro 5G ได้รับแรงบันดาลใจจากชุดปาร์ตี้และดินเนอร์อันเป็นเอกลักษณ์ รวมถึงเนื้อผ้าระดับพรีเมียมจากสตูดิโอออกแบบชั้นสูงของปารีส ผสมผสานศิลปะแห่งแฟชั่นอันลื่นไหลเข้ากับดีไซน์เทคโนโลยีได้อย่างลงตัว

โดยฝาหลังแต่ละชิ้นเปรียบเสมือนตัวอย่างผ้าชั้นสูงที่รังสรรค์ขึ้นอย่างประณีตบรรจง เลียนแบบความพลิ้วไหวของผ้าไหม ความลึกของกำมะหยี่จากสตูดิโอออกแบบหนัง และการเคลือบสีแบบไล่ระดับมุม ทำให้เกิดเฉดสีที่สดใส น้ำหนักเบา และสมบูรณ์แบบในแบบฉบับของแฟชั่นชั้นสูง และมีให้เลือก 2 สีคือ Flowing Silver และ Velvet Green
4D Curve+ Display
ปฏิวัติวงการปี 2025 ด้วยหน้าจอที่เพรียวบางกว่าหน้าจอโค้งคู่ และเพรียวบางกว่าหน้าจอโค้งสี่ด้าน นิยามความสง่างามใหม่ในทุกองศาโค้ง
จอแสดงผล 4D Curve+

หน้าจอสุดล้ำแห่งปี 2025 ด้วยดีไซน์โค้งมนด้านข้างที่ลึกล้ำ พร้อมส่วนโค้งด้านบน/ล่างที่บางเฉียบ สง่างามกว่าหน้าจอแบบโค้งคู่ และเพรียวบางกว่าหน้าจอแบบโค้ง 4 มุมแบบดั้งเดิม
ซึ่งดีไซน์โค้งมนซ้าย/ขวาที่ลึกล้ำ เพื่อการยึดเกาะที่เต็มอิ่ม รูปทรงนี้ผสานความลึกและความละเอียดอ่อน พิสูจน์ให้เห็นว่าความสง่างามนั้นวัดกันที่มิลลิเมตร ไม่ใช่การประนีประนอม
จอแสดงผลแสงแดดความสว่างสูง

ด้วยความสว่างสูงสุด 6500นิต จอแสดงผลจึงสามารถตัดแสงจ้าจากแสงแดดจ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ มอบความคมชัดและสีสันสดใสให้กับคอนเทนต์ และแม้ภายใต้แสงจ้ากลางแจ้ง ทุกพิกเซลก็คมชัด ไร้การหรี่ตา ไร้ภาพซีดจาง มอบรายละเอียดที่คมชัด สดใส และสมจริง
IP69 +Corning Gorilla Glass
กันน้ำ ทนรอยขีดข่วน และแข็งแกร่งที่สุดในช่วงราคาเดียวกัน ออกแบบมาเพื่อให้ทนทานต่อการใช้งานหนักทุกวัน
IP69 ทนฝุ่นและน้ำระดับสูงสุด

ด้วยระบบกันน้ำแบบสเปกตรัมเต็มรูปแบบชั้นยอด ซึ่งเป็นระดับ IP ที่สูงที่สุดในอุตสาหกรรม จึงสามารถรับมือกับการรั่วไหลในแต่ละวัน (ฝน อ่างล้างจาน) การว่ายน้ำ และการอยู่รอดใต้น้ำที่ความลึก 2 เมตร นาน 30 นาทีได้
กระจก Corning Gorilla Glass

ได้รับการปกป้องด้วยกระจก Corning Gorilla Glass ซึ่งแข็งแกร่งกว่าหน้าจอมาตรฐาน จึงทนทานต่อการสึกหรอและรอยขีดข่วนได้ดีเยี่ยม ช่วยยืดอายุการใช้งานของหน้าจอได้มากกว่าแผงธรรมดา
![]() | ![]() |
![]() | ![]() |

realme 15 5G
ส่วน realme 15 5G ก็เป็นสมาร์ตโฟนแบตเตอรี่ 7,000mAh ที่บางอีกรุ่นหนึ่ง ด้วยความหนาแน่นของพลังงานแบตเตอรี่ที่สูงเป็นพิเศษ แม้แบตเตอรี่ที่มีความจุขนาดใหญ่ก็ยังมีน้้าหนักเบาและเพรียวบาง ไม่เทอะทะ ให้พลังงานเพียงอย่างเดียว

โดยมีขอบด้านข้างที่หนา 1.48 มม./1.48 มม. ขอบด้านบน/ขอบด้านล่าง 1.64 มม./1.72 มม. ความโค้งของหน้าจอซ้ายและขวา 44.8° และอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง 94%
การออกแบบวัสดุที่หรูหรา

ฝาหลังได้รับแรงบันดาลใจจากชุดปาร์ตี้และดินเนอร์อันเป็นเอกลักษณ์ รวมถึงเนื้อผ้าระดับพรีเมียมจากสตูดิโอโอตกูตูร์แห่งปารีส ผสานศิลปะแห่งแฟชั่นอันลื่นไหลเข้ากับดีไซน์เทคโนโลยีได้อย่างลงตัว

ฝาหลังแต่ละชิ้นเปรียบเสมือนตัวอย่างผ้าโอตกูตูร์ ที่ซึ่งงานฝีมือทางเทคโนโลยีเลียนแบบความพลิ้วไหวของผ้าไหม ความลึกของกามะหยี่จากสตูดิโอหนัง และการเคลือบสีแบบไล่ระดับมุม ทำให้เกิดเฉดสีที่สดใส น้ำหนักเบา และสมบูรณ์แบบในแบบโอตกูตูร์ โดยมีให้เลือก 2 สีคือ Suit Titanium และ Silk Pink

ด้านหน้า realme 15 Pro 5G มาพร้อมหน้าจอแสดงผล 144Hz HyperGlow 4D Curve+ Display แบบ AMOLED ความละเอียด 1280 x 2800 พิกเซล ขนาด 6.8 นิ้ว (453PPPI) ในอัตราส่วน 19.8:9 และอัตราส่วนจอต่อเครื่อง 94%

โดยมีอัตรารีเฟรชเรทสูงสุด 144Hz, อัตราการสุ่มตัวอย่างแบบสัมผัสสูงสุด 240Hz /เปลี่ยนแบบฉับพลัน 2500 Hz, ช่วงสี: 1.07 พันล้านสี 10 บิต,
ความสว่างปกติ : 1000 nits (Typical) HBM: 1800 nits (Typical) สูงสุด 6500 nits, รองรับ HDR10+, คอนทราสต์: 5000000:1 และอัตราการหรี่แสง 4608 Hz PWM

ส่วนด้านหน้าของ realme 15 5G มาพร้อมหน้าจอแสดงผล 144Hz AMOLED Display แบบ AMOLEd ความละเอียด FHD+ 1080 x 2392 พิกเซล ขนาด 6.77 นิ้ว ในอัตราส่วน 19.5:9 สัดส่วนจอต่อเครื่อง 94%

โดยมีอัตรารีเฟรชเรทสูงสุด 144Hz, อัตราสุ่มตัวอย่างแบบสัมผัสสูงสุด 240Hz, อัตราการสุ่มตัวอย่างแบบสัมผัสทันที 2500Hz, ความสว่างสูงสุด 4500nits, ขอบเขตสี 1.07 พันล้านสี, 10bits, อัตราส่วนคอนทราสต์: 500000:1 และอัตราการหรี่แสง 3840Hz PWM
![]() | ![]() |
ตรงกลางด้านบนของ realme 15 Pro 5G และ realme 15 5G เจาะรูฝังกล้องเซลฟี่ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล

พลิกมาด้านหลังเครื่อง realme 15 Pro 5G ดีไซน์ขอบโค้งมน โดยมุมซ้ายด้านบนมีโมดูลสี่เหลี่ยม ภายในติดตั้งกล้องเลนส์คู่ AI Dual Camera พร้อมไฟแฟลชคู่ Dual LED และด้านซ้ายล่างมีโลโก้ realme

ส่วนด้านหลังเครื่อง realme 15 5G ด้านซ้ายบนมีโมดูลกล้องสี่เหลี่ยม ภายในติดตั้งกล้องเลนส์คู่ AI Dual Camera พร้อมไฟแฟลชคู่ Dual LED และด้านซ้ายล่างมีโลโก้ realme

โดยกล้องหลังคู่ Dual Camera ของ realme 15 Pro 5G ประกอบด้วย
- กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX896 รูรับแสง f/1.8, 24mm (wide), ขนาดเซ็นเซอร์ 1/1.56″, 1.0µm, ระบบ multi-directional PDAF และระบบกันสั่น 2 axis OIS
- กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Ultrawide เซ็นเซอร์ OV50D ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0, 16mm, ขนาดเซ็นเซอร์ 1/2.88″, 0.61µm, ถ่ายมุมกว้างได้ 115.6 องศา และรองรับ EIS

ขณะที่กล้องหลังคู่ AI Dual Camera ของ realme 15 5G ประกอบด้วย
- กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX882, เลนส์ 5P, รูรับแสง f/1.8, 24mm (wide), เซ็นเซอร์ขนาด 1/1.56″, ระบบ PDAF และระบบกันสั่น 2 axis OIS
- กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Ultrawide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ OV08D10, เลนส์ 5P, รูรับแสง f/2.2. 16mm, ถ่ายมุมกว้างได้ 112° และรองรับ EIS แบบสองแกน
![]() | ![]() |
ด้านซ้ายข้างเครื่อง realme 15 Pro 5G และ realme 15 5G ออกแบบเรียบ ๆ ไม่มีปุ่มกดใด ๆ หรือช่องใด ๆ
![]() | ![]() |
ด้านขวาข้างเครื่อง realme 15 Pro 5G และ realme 15 5G มีปุ่มปรับเพิ่มลดระดับเสียง กับปุ่ม Power สำหรับเปิด/ปิดเครื่อง

ด้านบนเครื่อง realme 15 Pro 5G มีช่องไมโครโฟนตัวที่ 2 สำหรับตัดเสียงรบกวน, ช่องลำโพงเสียง และพอร์ตอินฟราเรด

ขณะที่ realme 15 5G มีช่องไมโครโฟนตัวที่ 2 สำหรับตัดเสียง และช่องลำโพงเสียง
![]() | ![]() |
ด้านท้ายเครื่อง realme 15 Pro 5G และ realme 15 5G มีช่องใส่ซิมการ์ด, ช่องไมโครโฟน, พอร์ต USB Type-C และช่องลำโพงเสียง
![]() | ![]() |
โดยช่องใส่ SIM Card ของ realme 15 Pro 5G และ realme 15 5G จะเป็นช่องใส่ SIM Card แบบ 2 SIM และรองรับซิมการ์ดแบบ NanoSIM
ด้านการถ่ายภาพ
realme 15 Pro 5G
50MP Sony IMX896 OIS Camera

realme 15 Pro 5G มาพร้อมกล้อง Ultra-Clear 3 ตัวความละเอียด 50 ล้านพิกเซล มอบภาพเซลฟี่ที่คมชัดและทรงพลัง ภาพถ่ายหมู่ และการถ่ายภาพในที่แสงน้อย ช่วยให้ผู้ใช้สามารถบันทึกช่วงเวลาต่าง ๆ ได้อย่างอิสระจากทุกมุมในทุกสถานการณ์

สำหรับกล้องหลังของ realme 15 Pro 5G มีด้วยกัน 2 เลนส์ AI Dual Camera พร้อมไฟแฟลช LED ประกอบด้วย
- กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX896 รูรับแสง f/1.8, ระยะโฟกัสเทียบเท่า 24 มม. (wide), ขนาดเซ็นเซอร์ 1/1.56″, 1.0µm, ระบบ multi-directional PDAF และระบบกันสั่น 2 axis OIS โดยจะทำให้ถ่ายภาพบุคคลและทิวทัศน์กลางคืนที่ถ่ายในที่มืดจะชัดเจนและสว่างขึ้นพร้อมสีสันที่แท้จริงยิ่งขึ้น
- กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Ultrawide เซ็นเซอร์ OV50D ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0, ระยะโฟกัสเทียบเท่า 16mm, ขนาดเซ็นเซอร์ 1/2.88″, 0.61µm, ถ่ายมุมกว้างได้ 115.6 องศา และรองรับ EI ถ่ายภาพหมู่ได้ชัดเจนยิ่งขึ้นด้วยมุมกว้างพิเศษ

ส่วนอินเทอร์เฟซกล้องด้านบนมีแถบเมนูเปิด/ปิดไฟแฟลชอัตโนมัติ พร้อมไฟลบเงา, ตั้งค่าการเปิดรับแสง, ตั้งค่าโหมดการถ่ายภาพที่ปรับแต่งสีให้มีชีวิตชีวา (Vibrant) หรือชัดเจน (Crisp), เปิดปิดโหมด Live Photo, Google Lens, เลือกอัตราส่วนภาพถ่าย, ตั้งเวลาถ่ายอัตโนมัติ, โหมด AI Snap, เปิด/ปิดโหมด HDR อัตโนมัติ, เลือกช่วงเวลาการถ่าย และตั้งค่าการใช้งานกล้องต่าง ๆ

สามารถเลือกถ่ายได้ทั้งโหมดปกติ, โหมด Portrait, โหมดวิดีโอ, โหมด AI Landscape, โหมดกลางคืน, โหมดความละเอียดสูง, โหมดถ่ายภาพ Pro, โหมด Panorama, โหมดท้องถนน, โหมดภาพยนตร์, โหมด Slo-motion, โหมด Time-Lapse, โหมดการเปิดความเร็วชัตเตอร์, โหมดวิดีโอมุมมองคู่, โหมดใต้น้ำ, โหมดระบบสแกนข้อความ, โหมด Breeno Scan, โหมด Starry และโหมด TILT-SHIFT
โดยภาพนิ่งถ่ายได้ที่ความละเอียดสูงสุด 50MP 8192 x 6144 พิกเซล ส่วนวิดีโอบันทึกได้ที่ความละเอียดสูงสุด 4k@60fps ด้วยการซูมที่ชัดขึ้น 4 เท่า ซูมได้นุ่มนวลขึ้น 2 เท่า และความสามารถ 4K 3 เท่า จึงมอบประสิทธิภาพการถ่ายวิดีโอระดับชั้นนำในกลุ่มราคานี้

ทดสอบกล้องหลังในโหมด Auto
ทดสอบกล้องหลังในโหมด Auto พร้อมปรับเลือกฟิลเตอร์ต่าง ๆ ที่มีให้เลือกมากถึง 19 แบบ

รวมโหมดฟิลม์ 6 แบบได้แก่ สนาม (Film-C200), ชายทะเล (Film-E100), เมือง (Film-Classic), สดใส (Film-CC), มรกต (Film-NC) และใส (Film-NH)

นอกจากนี้ยังสามารถเลือกฉากอัจฉริยะ (Smart Scenes) ได้ 4 แบบคือ Party, Stage, Silhouette และ Fireworks

และเลือก Soft Light หรือแสงที่นุ่มนวลที่ช่วยภาพถ่ายสวยละมุนในที่แสงน้อย หรือในอาคารยังคงความสวยงาม คมชัด และให้แสงที่นุ่มนวลเป็นธรรมชาติ โดยมีให้เลือก 5 แบบคือ Dejavu, Retro, Misty, Glowy และ Dreamy

โดย AI Party Mode สามารถถ่ายภาพบุคคลได้อย่างชัดเจนและสดใสในสภาพแสงน้อย จับภาพอารมณ์ที่รวดเร็วได้ในทันที ด้วยการใช้อัลกอริทึมสามประการ ช่วยให้ภาพบุคคลดูสมจริงด้วยโทนสีผิวที่เป็นธรรมชาติ รายละเอียดที่ชัดเจนในแสงสลัว และเงาสามมิติ
- อัลกอริทึม AI เพื่อฟื้นฟูโทนสีผิวให้ดูเป็นธรรมชาติและนุ่มนวล ลดรอยหมองคล้ำและซีด เพื่อผิวที่สมดุล
- อัลกอริทึมภาพทิวทัศน์กลางคืนที่คมชัดเป็นพิเศษ ช่วยให้เห็นรายละเอียดใบหน้าและเสื้อผ้าได้ชัดเจนแม้ในแสงสลัว
- อัลกอริทึม AI HyperRAW ด้วยไฟฉาย ภาพบุคคลจะแสดงเงาบนใบหน้าแบบสามมิติ ลักษณะใบหน้าที่ชัดเจน และโครงร่างที่มีมิติเป็นธรรมชาติ

พร้อมเลือกเอฟเฟกต์แสงคู่ทั้งเอฟเฟกต์แสงดาวและเอฟเฟกต์หัวใจ

และเพิ่มบรรยากาศด้วยกรอบรูปลายน้ำสีสันสดใสในสไตล์ต่าง ๆ ช่วยเพิ่มบรรยากาศงานปาร์ตี้ได้ทันทีทั้งลายน้ำรูปภาพ, ลายน้ำแบบพื้นผิว และไอคอนลายน้ำ

ทดสอบกล้องหลังในโหมด Portrait
ทดสอบกล้องหลังในโหมด Portrait พร้อมปรับเลือกฟิลเตอร์ต่าง ๆ ที่มีให้เลือกมากถึง 18 แบบ
ทดสอบกล้องหลังในโหมดความละเอียดสูง 50MP Wide Camera


AI Edit Genie
realme 15 Pro 5G และ realme 15 5G ยังมาพร้อมฟีเจอร์เด่นอย่าง AI Edit Genie ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานแต่งรูปได้อย่างง่ายดายเพียงใช้คำสั่งเสียงครั้งแรกในโลก ทำให้ทุกช็อตของคุณสวยปั๊บแบบมือโปร
ผู้ใช้สามารถสั่งให้ AI แต่งภาพด้วยคำสั่งเสียงง่าย ๆ โดยไม่ต้องกดปุ่มอะไรให้ยุ่งยาก แค่พูดสั่งงาน เช่น “ปรับผิวให้เรียบเนียน” “ใส่ฟิลเตอร์สไตล์ภาพยนตร์” หรือ “ลบคนอื่นที่โผล่มาในรูป” เพียงแค่นี้ AI จะทำการปรับแต่งภาพอย่างชาญฉลาดตามที่คุณต้องการให้ในทันที

รวมถึงสามารถแก้ไขอัลบั้มได้โดยตรง AI Eraser, Ultra Clarity, Glare Remover, Motion Deblur, Reflection Remover, De fogging และเครื่องมือพื้นฐาน ด้วยคำสั่งเสียงง่าย ๆ เช่น “ลบภาพพื้นหลัง” เพื่อใช้งาน AI ได้ทันที

ความสามารถใหม่ของ AIGC ด้านการแก้ไขภาพ เช่น การแทนที่องค์ประกอบ (เปลี่ยนสี เปลี่ยนวัตถุ) หรือการเพิ่มองค์ประกอบใหม่ (เช่น เพิ่มสร้อยคอ) เป็นต้น


และรองรับคำสั่งเสียงหลายขั้นตอน เช่น “เปลี่ยนรถของฉันเป็นสีดำและเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นสีขาว”
โดยรองรับมากกว่า 20 ภาษาได้แก่ English, Hindi, Marathi, Bengali, Indonesian, Thai , Filipino, Vietnamese, Malay, Spanish, Portuguese, Polish, Italian, French, German, Russian, Kazakh, Persian, Uzbek, Traditional Chinese (Taiwan)
AI MagicGlow 2.0

ใบหน้าดูคมชัด สีผิวดูเปล่งประกายอย่างเป็นธรรมชาติ และรูปทรงใบหน้าดูมีมิติและนุ่มนวล ทำให้คุณดูเปล่งประกายที่สุดแม้จะอยู่ภายใต้แสงไฟที่สลัวในตอนกลางคืน
AI Landscape การถ่ายภาพแนวนอนด้วยการคลิกเพียงครั้งเดียวช่วยให้สามารถจับภาพทิวทัศน์ที่สวยงามได้อย่างชัดเจน

ด้วยข้อจำกัดด้านมุมมักนำไปสู่องค์ประกอบภาพที่เอียงหรือมุมมองภาพที่บิดเบี้ยว รวมถึงสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยหรือสภาพแสงที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้ภาพดูเป็นสีเทา มัว และขาดความคมชัด

โดย AI Landscape จะปรับแต่งภาพถ่ายจากมุมมองแนวนอนและมุมมองภาพได้ในคลิกเดียว นอกจากนี้ยังช่วยลบโทนสีเทาและหมอกในภาพถ่าย เพื่อเพิ่มความโปร่งใสของภาพถ่ายได้อย่างมาก
ช่วยให้ผู้ใช้ realme 15 Pro 5G และ realme 15 5G แม้ไม่มีทักษะการถ่ายภาพก็สามารถถ่ายภาพทิวทัศน์ระดับปรมาจารย์ได้อย่างสม่ำเสมอและบริสุทธิ์ยิ่งขึ้น
AI Glare Removal กำจัดแสงสะท้อนด้วย AI


การภาพถ่ายทิวทัศน์กลางคืนเต็มไปด้วยแสงรบกวน ไม่คมชัด เนื่องจากแสงสะท้อนจากเสาไฟถนนหรือแหล่งก่าเนิดแสงจุดอื่น ๆ ด้วยคุณสมบัติ AI Glare Removal จะช่วยกำจัดแสงสะท้อนจากแหล่งกำเนิดแสง ช่วยให้ผู้ใช้ถ่ายภาพทิวทัศน์กลางคืนได้ชัดเจนยิ่งขึ้นโดยมีการรบกวนจากแสงสะท้อนน้อยลง
AI Snap Mode จับทุกการเคลื่อนไหวให้คมชัดในช็อตเดียว


สามารถเปิดใช้งานได้อย่างรวดเร็วด้วย Snap Shot 0.8 วินาที
โดยถ่ายภาพ 27 ภาพในหนึ่งวินาที ซึ่งการถ่ายภาพต่อเนื่องจ่านวนมากขึ้นช่วยให้ถ่ายภาพวัตถุที่เคลื่อนไหวเร็ว เช่น จับภาพสุนัขสะบัดน้ำออกจากตัวได้ชัดเจนและน่าพอใจมากขึ้น
และรองรับภาพถ่ายคุณภาพสูงสูงสุด 200 ภาพในช็อตต่อเนื่อง เหมาะสำหรับการถ่ายภาพแบบแคนดิดโดยตั้งรอไว้ล่วงหน้า เริ่มถ่ายภาพทันทีเมื่อใกล้ถึงช่วงเวลาอันแสนวิเศษ เช่น ลูกโทษฟุตบอล ท่าชู้ตงานแต่งงาน หรือภาพเด็กเล่นบาสเก็ตบอล
2K Live Photo

ผลิตภัณฑ์ทั่วไปรองรับความละเอียดเพียง 1080p ดังนั้นความคมชัดจึงยังไม่สูงพอ และ Live Photo สามารถดูได้เฉพาะในอัลบั้มเท่านั้น ไม่สามารถแชร์ไปยังแอปโซเชียลได้
Live Photo ของ realme 15 Pro 5G รองรับความคมชัดระดับ 2K และแชร์ไปยัง IG Stories ได้ รองรับ Live Photo 2K หลังจากเลือกโหมดเต็มหน้าจอ โดยความคมชัดของ Live Photo สูงขึ้น และสามารถแชร์ไปยังแอปโซเชียลต่าง ๆ ได้
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง realme 15 Pro 5G















กล้องหน้า 50MP Selfie Camera

realme 15 Pro 5G ติดตั้งกล้องหน้าเซลฟี่แบบฝังใต้หน้าจอ In-Display Selfie ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ OV50D มาพร้อมรูรับแสง f/2.4, เซ็นเซอร์ 1/2.88นิ้ว, FOV 86.7° และเลนส์ 5P ถ่ายภาพหมู่ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

โดยมีหน้าตา User Interface ที่สามารถใช้งานได้ง่าย พร้อมทั้งแสดงไอคอนใช้งานได้ทันที ได้แก่ เปิด/ปิดไฟแฟลช, การตั้งค่าการเปิดรับแสง, เปิด/ปิด Live Photo, เลือกอัตราส่วนภาพถ่าย, การตั้งเวลาถ่ายภาพอัตโนมัติ, ตั้งค่าเปิด/ปิดโหมด HDR, เลือกช่วงเวลาการถ่าย และการตั้งค่าอื่นๆ รองรับการถ่ายถาพปกติ, Portrait, วิดีโอ, กลางคืน, ความละเอียดสูง และพาโนรามา

โดยภาพนิ่งถ่ายได้ที่ความละเอียด 6144×8192 พิกเซล ส่วนวิดีโอรองรับการถ่ายที่ความละเอียดสูงสุด FHD 4K@60fps

ทดสอบกล้องหน้าในโหมด Auto
ทดสอบกล้องหน้าในโหมด Auto พร้อมปรับฟิลเตอร์ที่มีให้เลือก 19 แบบ รวมโหมดฟิลม์ 6 แบบเหมือนกล้องหลัง

ทดสอบกล้องหน้าในโหมด Portrait
ทดสอบกล้องหน้าในโหมด Portrait พร้อมปรับฟิลเตอร์ที่มีให้เลือก 18 แบบ รวมโหมดฟิลม์ 6 แบบเหมือนกล้องหลัง
realme 15 5G
กล้อง 50MP Sony IMX882 AI Camera

realme 15 5G มาพร้อมกล้องหลังคู่ AI Dual Camera พร้อมไฟแฟลช LED

ประกอบด้วย
- กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX882, เลนส์ 5P, รูรับแสง f/1.8, ระยะโฟกัสเทียบเท่า 24mm (wide), เซ็นเซอร์ขนาด 1/1.95″, ระบบ PDAF และระบบกันสั่น 2 axis OIS ถ่ายภาพบุคคลและทิวทัศน์กลางคืนที่ถ่ายในที่มืดจะชัดเจนและสว่างขึ้นพร้อมสีสันที่แท้จริงยิ่งขึ้น
- กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Ultrawide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ OV08D10, เลนส์ 5P, รูรับแสง f/2.2. 16mm, ถ่ายมุมกว้างได้ 112° และรองรับ EIS แบบสองแกน

อินเทอร์เฟซโหมดถ่ายภาพของ realme 15 5G ด้านบนมีแถบเมนูเปิด/ปิดไฟแฟลชอัตโนมัติ พร้อมไฟลบเงา, ตั้งค่าการเปิดรับแสง, ตั้งค่าโหมดการถ่ายภาพที่ปรับแต่งสีให้มีชีวิตชีวา (Vibrant) หรือชัดเจน (Crisp), เปิดปิดโหมด Live Photo, Google Lens, เลือกอัตราส่วนภาพถ่าย, ตั้งเวลาถ่ายอัตโนมัติ, โหมด AI Snap, เปิด/ปิดโหมด HDR อัตโนมัติ, เลือกช่วงเวลาการถ่าย และตั้งค่าการใช้งานกล้องต่าง ๆ

สามารถเลือกถ่ายได้ทั้งโหมดปกติ, โหมด Portrait, โหมดวิดีโอ, โหมด AI Landscape, โหมดกลางคืน, โหมดถ่ายภาพ Pro, โหมดความละเอียดสูง, โหมด Panorama, โหมดท้องถนน, โหมดภาพยนตร์, โหมด Slo-motion, โหมด Time-Lapse, โหมดการเปิดความเร็วชัตเตอร์, โหมดวิดีโอมุมมองคู่, โหมดใต้น้ำ, โหมดระบบสแกนข้อความ, โหมด Breeno Scan, โหมด Starry และโหมด TILT-SHIFT
โดยภาพนิ่งถ่ายได้ที่ความละเอียดสูงสุด 50MP 8192 x 6144 พิกเซล ส่วนวิดีโอบันทึกได้ที่ความละเอียดสูงสุด 4k@60fps เมื่อเทียบกับ 1080p แล้ว realme 15 5G มีความคมชัดกว่า 4 เท่า

ทดสอบกล้องหลังในโหมด Auto
ทดสอบกล้องหลังในโหมด Auto พร้อมปรับเลือกฟิลเตอร์ต่าง ๆ ที่มีให้เลือกมากถึง 19 แบบ รวมโหมดฟิลม์ 6 แบบเหมือน realme 15 Pro 5G

ทดสอบกล้องหลังในโหมด Portrait
ทดสอบกล้องหลังในโหมด Portrait พร้อมปรับเลือกฟิลเตอร์ต่าง ๆ ที่มีให้เลือกมากถึง 18 แบบ รวมโหมดฟิลม์ 6 แบบเหมือน realme 15 Pro 5G

ทดสอบกล้องหลังในโหมดความละเอียดสูง 50MP
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง realme 15 5G















กล้องหน้า 50MP Selfie AI Camera

realme 15 5G ติดตั้งกล้องหน้าเซลฟี่แบบฝังใต้หน้าจอ In-Display Selfie ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ OV50D, รูรับแสง f/2.4, เลนส์ 5P, 23mm, เซ็นเซอร์ 1/2.88นิ้ว และรองรับ EIS แบบสองแกน ถ่ายภาพหมู่ได้ชัดเจนยิ่งขึ้นด้วยกล้องหน้า

โดยมีหน้าตา User Interface ที่ใช้งานได้ง่าย พร้อมแสดงไอคอนใช้งานได้ทันที ได้แก่ เปิด/ปิดไฟแฟลช, การตั้งค่าการเปิดรับแสง, เปิด/ปิด Live Photo, เลือกอัตราส่วนภาพถ่าย, การตั้งเวลาถ่ายภาพอัตโนมัติ, ตั้งค่าเปิด/ปิดโหมด HDR, เลือกช่วงเวลาการถ่าย และการตั้งค่าอื่นๆ รองรับการถ่ายถาพปกติ, Portrait, วิดีโอ, กลางคืน, ความละเอียดสูง และพาโนรามา

โดยภาพนิ่งถ่ายได้ที่ความละเอียด 6144×8192 พิกเซล ส่วนวิดีโอรองรับการถ่ายที่ความละเอียดสูงสุด FHD 4K@60fps

ทดสอบกล้องหน้าในโหมด Auto
ทดสอบกล้องหน้าในโหมด Auto พร้อมปรับฟิลเตอร์ที่มีให้เลือก 19 แบบ รวมโหมดฟิลม์ 6 แบบเหมือนกล้องหลัง

ทดสอบกล้องหน้าในโหมด Portrait
ทดสอบกล้องหน้าในโหมด Portrait พร้อมปรับฟิลเตอร์ที่มีให้เลือก 18 แบบ รวมโหมดฟิลม์ 6 แบบเหมือนกล้องหลัง
ประสิทธิภาพ

realme 15 Pro 5G ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ท Snapdragon 7 Gen 4 ชิปเซ็ตที่ดีที่สุดรองจากSnapdragon 8 Series โดยเป็นชิประดับกลางรุ่นใหม่ที่ได้รับการอัปเกรดประสิทธิภาพขึ้นมาอย่างก้าวกระโดด ตอบโจทย์การใช้งานรอบด้านตั้งแต่การใช้งานทั่วไป ไปจนถึงการเล่นเกมที่ต้องการกราฟิกสูง และการประมวลผล AI ที่ซับซ้อน
นอกจากนี้ยังทำงานร่วมกับคุณสมบัติกล้อง AI ที่ดีที่สุดในกลุ่ม คะแนนเกณฑ์มาตรฐานสูงสุด การทำงานมัลติทาสก์ที่ปราศจากอาการหน่วง และการเล่นเกมที่ยอดเยี่ยม รวมทั้งยังทำหน้าที่เป็นทั้งอุปกรณ์ทำงานหลักในตอนกลางวันและตัวช่วยในการเล่นเกมในตอนกลางคืน ทั้งหมดนี้ ขับเคลื่อนโดยชิปเซ็ตระดับพรีเมียมที่ช่วยยกระดับประสิทธิภาพของกล้อง

โดยทำคะแนน AnTuTu ได้มากกว่า 750,000 คะแนนอย่างน่าทึ่ง แซงคู่แข่งในกลุ่มเดียวกันด้วยคะแนนทดสอบประสิทธิภาพ และเป็นชิปเซ็ต AI ที่ดีที่สุดของกลุ่ม

RAM Dynamic สูงสุด 26GB เทคโนโลยี DRE (Dynamic RAM Expansion) ที่ล้ำสมัยที่สุดในอุตสาหกรรม รองรับการขยายสูงสุด 12GB + 14GB ช่วยให้เปิดแอปพลิเคชันได้อย่างรวดเร็วและสามารถเก็บแอปพลิเคชันที่ทำงานอยู่ในพื้นหลังได้สูงสุดถึง 32 แอปพลิเคชัน


มาพร้อม GT Mode ประกอบด้วย GT Boost การทำนายการใช้พลังงานแบบเฟรมต่อเฟรมช่วยให้เฟรมเรตของเกมมีเสถียรภาพและราบรื่น ให้ทุกช่วงเวลาของการเล่นเกมราบรื่นไม่มีสะดุด เพิ่มประสิทธิภาพการท่างานและการใช้พลังงาน เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานแบบเฟรมต่อเฟรม เพิ่มประสิทธิภาพการเรนเดอร์คุณภาพของภาพ และเฟรมที่เสถียรต่ออุณหภูมิ

AI Gaming Coach ยกระดับการเล่นเกมของคุณด้วย AI คู่หูตัวใหม่ ซึ่งเป็นสุดยอดเพื่อนเล่นเกมที่คอยอยู่เคียงข้างคุณ ทั้งทักษะต่อเนื่อง, การควบคุมด้วย AI Ultra Touch, การควบคุมการเคลื่อนไหวด้วย AI, การปรับแต่ง Geek Power, AI Gaming Coach และ Performance

เท่าที่ได้ลองทดสอบโดยใช้งานปกติทั่วไปปรากฏว่าใช้งานได้อย่างไหลลื่นไม่มีสะดุด และตอบสนองการใช้งานได้เป็นอย่างดี
ส่วนการเล่นเกมได้ลองกับเกม ROV เกมแนว MOBA สุดฮิต ตั้งค่า FPS ระดับสูงมากที่ 120FPS ปกติถ้าเป็นรุ่นอื่นจะได้แค่ 60FPS เท่านั้น สามารถเล่นได้อย่างลื่นไหลเลยทีเดียว ไม่มีอาการหน่วง หรือกระตุก และเล่นได้นานไม่ต้องกลัวว่าเครื่องร้อนด้สวย
ต่อด้วยเกม PUBG Mobile เกมแบทเทิลรอยัล โดยปรับตั้งค่ากราฟิกที่ระดับ “HD” ส่วนเฟรมเรทตั้งไว้ที่ดีขึ้นระดับสูง เล่นได้ลื่น ไม่มีกระตุก ได้กินไก่สบาย ๆ และไม่พบอาการแลคให้หงุดหงิดใจเลย
AI Multi-Tasker ตัวแรกในอุตสาหกรรม

แอปที่ใช้บ่อยจะเปิดเครื่องได้เร็วขึ้นถึง 3 วินาที ในขณะที่สถานการณ์มัลติทาสกิ้งความถี่สูงสองสถานการณ์ยังคงทำงานอยู่เบื้องหลัง โดยเริ่มต้นโดยไม่มีความล่าช้าที่รับรู้ได้ เพื่อขจัดความกังวลเกี่ยวกับความล่าช้าอย่างถาวร
โดยหลังจากใช้งานไปหนึ่งสัปดาห์ อัลกอริทึมของระบบจะระบุแอปที่ผู้ใช้ชอบใช้มากที่สุดสามแอป และตั้งค่าให้แอปเหล่านั้นท่างานอยู่เบื้องหลัง แม้แอปเหล่านั้นจะถูกปิดไป แต่แอปเหล่านั้นก็จะกลับคืนสู่ระบบโดยอัตโนมัติเมื่อหน่วยความจ่าว่าง ดังนั้นแอปโปรดของคุณจึงสามารถเปิดขึ้นมาได้อย่างรวดเร็วในครั้งต่อไปที่คุณต้องการใช้งาน

ส่วน realme 15 5G ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ท Dimensity 7300+ 5G Chipset ซึ่งเป็นชิปที่ถูกออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ลื่นไหล ทรงพลัง และประหยัดพลังงาน เหมาะสำหรับสมาร์ทโฟนระดับกลางรุ่นใหม่

อัดแน่นด้วยชิปเซ็ต 4 นาโนเมตรระดับท็อปของกลุ่ม การทำงานมัลติทาสก์ลื่นไหล การเล่นเกมก็ทำคะแนนได้อย่างยอดเยี่ยม และยังท้าหน้าที่เป็นทั้งอุปกรณ์คู่ใจในชีวิตประจ้าวันและคู่หูสำหรับการเล่นเกมยามดึก และยังเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของกล้องอีกด้วย

ขณะที่ realme 15 5G มาพร้อมกับ RAM แบบไดนามิกสูงสุด 26GB (12GB RAM จริง + 14GB RAM เสมือน) และหน่วยความจำขนาดใหญ่ถึง 256GB พร้อมกับเทคโนโลยี Dedicated Gaming Memory ที่พบในซีรีส์เรือธง
โดย realme 15 5G มอบประสบการณ์ที่ราบรื่นเป็น 2 เท่า ปรับแต่งประสิทธิภาพให้เหมาะสมทั้งสำหรับการใช้งานประจำวันและเกมที่ต้องการสูง ซึ่งหมายความว่าการเปิดเกมจะรวดเร็วขึ้น การอัปเดตพื้นหลังจะราบรื่นยิ่งขึ้น และการเล่นเกมจะราบรื่นกว่าคู่แข่ง
รองรับสูงสุด 120FPS สำหรับเกมกระแสหลักอย่าง HOK และรองรับ 90FPS สำหรับเกม FreeFire/CODM

เท่าที่ได้ลองทดสอบโดยใช้งานปกติทั่วไปปรากฏว่าใช้งานได้อย่างไหลลื่นไม่มีสะดุด และตอบสนองการใช้งานได้เป็นอย่างดี
ส่วนการเล่นเกมได้ลองกับเกม ROV เกมแนว MOBA ที่ฮิตต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน ตั้งค่า FPS ระดับสูง สามารถเล่นได้อย่างลื่นไหล ไม่มีอาการหน่วง หรือกระตุก และเล่นได้นานไม่ต้องกลัวเครื่องร้อน
ต่อด้วยเกม PUBG Mobile เกมแบทเทิลรอยัล โดยปรับตั้งค่ากราฟิกที่ระดับ “HD” ส่วนเฟรมเรทตั้งไว้ที่ระดับสูง เล่นได้ลื่น ไม่มีกระตุก ได้กินไก่สบาย ๆ และไม่พบอาการแลคให้หงุดหงิดใจเลย



รวมถึงรองรับ GT Boost นวัตกรรมเทคโนโลยีขั้นสูงที่พัฒนาขึ้นเอง อัตราเฟรมอัจฉริยะและเสถียร การควบคุมอุณหภูมิ และการเพิ่มประสิทธิภาพอายุการใช้งานแบตเตอรี่ และมีโค้ชการเล่นเกม AI เป็นผู้ช่วยแนะนำเทคนิคได้เหมือนมีโค้ชส่วนตัว ทำให้ชนะเกมได้ง่ายขึ้น
AI อัจฉริยะที่ทำได้หลายอย่างพร้อมกัน ครั้งแรกในวงการสมาร์ตโฟน

แอปที่ใช้บ่อยจะเปิดได้รวดเร็วขึ้นถึง 3 วินาที ขณะเดียวกัน สถานการณ์ที่ต้องทำงานหลายอย่างพร้อมกันบ่อย ๆ จะยังคงท้างานอยู่เบื้องหลัง สามารถเริ่มใช้งานได้ทันทีโดยไม่มีความหน่วงใด ๆ เพื่อกำจัดความกังวลเรื่องความล่าช้าไปอย่างสิ้นเชิง
โดยหลังจากใช้งานไปหนึ่งสัปดาห์ อัลกอริทึมของระบบจะระบุแอปที่ผู้ใช้ชอบใช้มากที่สุดสามแอป และตั้งค่าให้แอปเหล่านั้นท่างานอยู่เบื้องหลัง แม้แอปเหล่านั้นจะถูกปิดไป แต่แอปเหล่านั้นก็จะกลับคืนสู่ระบบโดยอัตโนมัติเมื่อหน่วยความจ่าว่าง ดังนั้นแอปโปรดของคุณจึงสามารถเปิดขึ้นมาได้อย่างรวดเร็วในครั้งต่อไปที่คุณต้องการใช้งาน
แบตเตอรี่ Titan 7000mAh

realme 15 Pro 5G มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ความจุ 7000mAh บางที่สุดในกลุ่ม โดยเป็นแบตเตอรี่แบบสองเซลล์ซิลิคอนแอโนด ความหนาแน่นพลังงานโดยทั่วไป 798 วัตต์ชั่วโมง/ลิตร
ที่มีความสมดุลระหว่างอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานเป็นพิเศษและสัมผัสที่สบายมือ ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องทนกับดีไซน์ตัวเครื่องที่เทอะทะส่าหรับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ใช้งานได้ยาวนานตลอดวันแม้แบตเตอรี่เหลือเพียง 50%
พร้อมระบบชาร์จเร็ว 80W Ultra Charge ชาร์จ 5 นาทีแบตเพิ่ม 50%, ชาร์จ 61 นาทีแบตเต็ม 100% รวมถึงชาร์จ 5 นาที สแตนด์บาย 122 ชม., เล่นเกม BGMI 0.96 ชม., เล่นเกม MLBB 0.82 ชม., เล่นเกมHOK 1.15 ชม., ดู YouTube 3.3 ชม. และฟัง Spotify 17 ชม.

นอกจากนี้ยังรองรับเทคโนโลยีการชาร์จแบบ Bypass เมื่อเปิดใช้งานระหว่างการเล่นเกม แหล่งจ่ายไฟจะข้ามแบตเตอรี่และจ่ายไฟไปที่เมนบอร์ดโดยตรง ดังนั้นโทรศัพท์จึงไม่ร้อนเมื่อเล่นเกมขนาดใหญ่ โดยอัตราเฟรมการเล่นเกมมีเสถียรภาพมากขึ้น อายุการใช้งานแบตเตอรี่ยาวนานขึ้นและทนทานยิ่งขึ้น
และใช้ชิปแบตเตอรี่ AI ที่อายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานและมีความทนทานยิ่งขึ้นเพื่อรับประกันการใช้งานยาวนานหลายปี

นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ VC มีขนาดใหญ่ที่สุดในช่วงราคาเดียวกัน Giant VC แบบชั้นเดียวมีประสิทธิภาพเหนือกว่าระบบสองชั้น พิสูจน์ให้เห็นว่าชั้นเดียวที่ทรงพลังสามารถทำงานแทนสองชั้นได้
โดยแผ่นระบายความร้อน VC ชั้นเดียวขนาดใหญ่พิเศษ 7,000 ตร.มม. ครอบคลุมพื้นที่ 57% ของพื้นที่ทั้งหมดของอุปกรณ์ ไม่ร้อนขณะเล่นเกมที่มีภาระงานสูง พร้อมมอบประสบการณ์ที่ราบรื่นยิ่งขึ้นในการจัดการงานหลายอย่างในแต่ละวัน
ช่วยทำให้อุณหภูมิ CPU ลดลงสูงสุด 20°C และอุณหภูมิเกมลดลงสูงสุด 3.2°C พื้นที่ VC เป็นพื้นที่ที่ใหญ่ที่สุดในช่วงราคาเดียวกัน

ส่วน realme 15 5G ก็มาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ความจุ 7000mAh โดยเป็นแบตเตอรี่เซลล์เดียวกราไฟต์ ความหนาแน่นพลังงานโดยทั่วไป 813 วัตต์ชั่วโมง/ลิตร เพิ่มขึ้น 2.6% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า
เพลิดเพลินกับการใช้งานต่อเนื่องตลอดทั้งวันแม้ว่าแบตเตอรี่จะเหลือ 50% และการชาร์จเร็วสุดขีดช่วยลดความกังวลเกี่ยวกับแบตเตอรี่ เป็นเพื่อนคู่ใจที่สมบูรณ์แบบสำหรับการนอนดึก
และมอบความสมดุลระหว่างอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานเป็นพิเศษและสัมผัสที่สบายมือ ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องทนกับดีไซน์ตัวเครื่องที่เทอะทะสาหรับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ และเป็นสมาร์ตโฟนแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 7000mAh ที่บางที่สุดในอุตสาหกรรม

รองรับการชาร์จเร็ว 80W Ultra Charge ชาร์จ 25นาทีแบตเพิ่มขึ้น 50%, ชาร์จ 61นาทีแบตเต็ม 100%
และชาร์จ 5 นาที เล่นเกมได้ 1.4 ชั่วโมง
รวมทั้งรองรับเทคโนโลยีการชาร์จแบบ Bypass เมื่อเปิดใช้งานระหว่างการเล่นเกม แหล่งจ่ายไฟจะข้ามแบตเตอรี่และจ่ายไฟให้เมนบอร์ดโดยตรง ดังนั้นโทรศัพท์จึงไม่ร้อนเมื่อเล่นเกมขนาดใหญ่
รวมถึงอุณหภูมิในการเล่นเกมของอุปกรณ์ต่ำกว่าการชาร์จแบบไม่บายพาส 1 องศาเซลเซียส อัตราเฟรมการเล่นเกมมีเสถียรภาพมากขึ้น อายุการใช้งานแบตเตอรี่ยาวนานขึ้นและทนทานยิ่งขึ้น โดยมีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานและทนทานที่สุดในราคาเดียวกัน

นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ VC มีขนาดใหญ่ที่สุดในช่วงราคาเดียวกัน Giant VC แบบชั้นเดียวมีประสิทธิภาพเหนือกว่าระบบสองชั้น พิสูจน์ให้เห็นว่าชั้นเดียวที่ทรงพลังสามารถทำงานแทนสองชั้นได้
โดยแผ่นระบายความร้อน VC ชั้นเดียวขนาดใหญ่พิเศษ 7,000 ตร.มม. ครอบคลุมพื้นที่ 57% ของพื้นที่ทั้งหมดของอุปกรณ์ ไม่ร้อนขณะเล่นเกมที่มีภาระงานสูง พร้อมมอบประสบการณ์ที่ราบรื่นยิ่งขึ้นในการจัดการงานหลายอย่างในแต่ละวัน
ช่วยทำให้อุณหภูมิ CPU ลดลงสูงสุด 20°C และอุณหภูมิเกมลดลงสูงสุด 3.2°C พื้นที่ VC เป็นพื้นที่ที่ใหญ่ที่สุดในช่วงราคาเดียวกัน
บทสรุป

realme 15 Series 5G ถือเป็นสมาร์ตโฟนระดับกลางบนรุ่นใหม่ตระกูล Number Series ซึ่งชูจุดเด่นที่แตกต่างอย่างชัดเจนภายใต้คอนเซ็ปต์ “AI Party Phone” พร้อมสโลแกน “ใช้ชีวิตให้เรียลทุกช็อต” เน้นการปฏิวัติวงการด้วยแบตเตอรี่ขนาดมหึมาและนวัตกรรมกล้อง AI สุดล้ำ
โดยทั้ง realme 15 Pro 5G และ realme 15 5G มีจุดเด่นที่เหมือนกันคือ แบตเตอรี่ Titan ขนาดใหญ่ 7,000mAh ตอบโจทย์การใช้งานหนักได้ยาวนานข้ามวันโดยไม่ต้องชาร์จ แต่ยังคงดีไซน์ตัวเครื่องให้บางและเบาได้อย่างน่าทึ่ง และรองรับการชาร์จไว 80W Ultra Charge ทั้ง 2 รุ่นด้วย
นอกจากนี้ยังจัดเต็ม AI ที่เข้ามาช่วยยกระดับการถ่ายภาพในทุกสถานการณ์ โดยเฉพาะในที่แสงน้อยหรืองานปาร์ตี้ (AI Party Mode) ให้ภาพคมชัด สีสันสดใส รวมถึงมีฟีเจอร์ AI อีกมากมายช่วยแต่งภาพให้สนุกยิ่งขึ้น และตัวเครื่องมีความทนทานระดับสูงมาตรฐาน IP68/IP69

ส่วนความแตกต่างของทั้ง 2 รุ่นนั้น เริ่มที่ realme 15 Pro 5G มาพร้อมจอขอบโค้ง 4D Curve+ AMOLED และมีอัตรารีเฟรชเรท 144Hz ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ท Snapdragon 7 Gen 4 ที่มีประสิทธิภาพสูง และติดตั้งกล้องหลังคู่ 50MP + 50MP (Wide + Ultra-Wide) และกล้องหน้า 50MP รองรับวิดีโอ 4K จากทุกเลนส์ ให้ความยืดหยุ่นในการถ่ายภาพสูงสุด
ขณะที่ realme 15 5G มาพร้อมจอ AMOLED คุณภาพสูงที่สเปกอาจรองลงมาจากรุ่น Pro แต่ยังคงให้ประสบการณ์การรับชมที่ดีเยี่ยม ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ท Dimensity 7300+ เน้นการใช้งานทั่วไปที่ลื่นไหลและประหยัดพลังงาน และติดตั้งกล้องหลัก 50MP เซ็นเซอร์ Sony IMX882 พร้อมระบบกันสั่น OIS ซึ่งเพียงพอสำหรับการถ่ายภาพคุณภาพสูงในชีวิตประจำวัน

realme 15 Series 5G คือคำตอบสำหรับผู้ใช้งานที่เบื่อกับการต้องชาร์จแบตเตอรี่บ่อย ๆ โดย รุ่น Pro จัดเต็มสเปกมาเพื่อท้าชนกับรุ่นท็อปของแบรนด์อื่นโดยตรง ในขณะที่ รุ่นมาตรฐาน ก็เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานยาวนานและกล้องที่ดีในราคาที่เหมาะสม
ทั้งนี้ realme 15 Pro 5G มีให้เลือก 2 สีคือ Flowing Silver และ Velvet Green โดยมีราคาดังนี้
- RAM 12GB+512GB ราคา 16,999 บาท
- RAM 12GB+256GB ราคา 14,999 บาท
ส่วน realme 15 5G มีให้เลือก 2 สีคือ Suit Titanium และ Silk Pink โดยมีราคา 12,999 บาท (RAM 12GB+256GB)
ช่องทางจำหน่าย
- ช่องทางออนไลน์ realme 15 Pro 5G (12+512GB) Exclusive เฉพาะที่ Shopee เท่านั้น
- AIS 5G: พิเศษ! เป็นเจ้าของ realme 15 Series 5G ที่ AIS ราคาเครื่องพร้อมแพคเกจสุดคุ้ม
• realme 15 Pro 5G (12+256GB) เริ่มต้นเพียง 10,399.-
• realme 15 Pro 5G (12+512GB) เริ่มต้นเพียง 10,399.-
• realme 15 5G (12+256GB) เริ่มต้นเพียง 8,499.-
วางจำหน่ายที่ realme Brand shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ
📅 Pre-Order วันนี้ – 26 ก.ย. 68
รับฟรีของพิเศษ 🎁
🎒 realme Special Backpack
🥤 realme Premium Fruit Mix
✅ ประกันจอแตก 1 ครั้งใน 180 วัน
✅ ขยายประกันตัวเครื่องเป็น 2 ปี
วางจำหน่าย 27 ก.ย. 68 ทั่วประเทศ