เทคโนโลยี VR อาจไม่ใช่เรื่องใหม่ในปัจจุบันครับ โดยเฉพาะสำหรับคนที่ติดตามเทคโนโลยีใหม่ๆ อยู่เสมอ รวมถึงเทคโนโลยี MR หรือ Mixed Reality ซึ่งเป็นความจริงเสมือน ในปัจจุบันก็สามารถเข้าถึงได้ง่ายมากขึ้น ไม่ได้เป็นอุปกรณ์ที่มีราคาแพงจนเข้าถึงได้ยากเหมือนที่ผ่านมา
และล่าสุดวันนี้พวกเราทีมงาน MobileOcta มีโอกาสได้หยิบเจ้า PICO 4 Ultra ซึ่งเป็นแว่นตา VR และ MR รุ่นล่าสุดที่น่าสนใจมากในปัจจุบัน จนอาจเรียกได้ว่าแว่นตารุ่นนี้เปิดตัวออกมาท้าชิงตำแหน่งเจ้าตลาดแว่น VR ของ Meta เลยทีเดียว
PICO 4 Ultra รุ่นใหม่นี้มาพร้อมฟีเจอร์และปรับปรุงคุณสมบัติให้น่าสนใจมากขึ้นกว่า PICO 4 ในหลายส่วนครับ ไม่ว่าจะเป็นการปรับดีไซน์ให้ใส่สบายมากยิ่งขึ้น มาพร้อมจอที่สวยคมชัดกว่าเดิม ใช้ชิปประมวลผลประสิทธิภาพสูง Snapdragon XR2 Gen2 รวมถึงการเพิ่มอุปกรณ์เสริมอย่าง PICO Motion Tracker ที่เพิ่มลูกเล่นในการติดตามการเคลื่อนไหวของเราได้แม่นยำยิ่งขึ้น แต่ใช้งานจริงจะเป็นอย่างไรบ้างนั้น ไปติดตามกันได้ในรีวิวนี้เลยครับ
สเปก PICO 4 Ultra
- ชิปเซ็ต Snapdragon XR2 Gen 2
- RAM 12GB LPDDR5
- หน่วยความจำภายใน 256GB UFS 3.1
- รองรับการเชื่อมต่อ
- Wi-Fi 7 (802.11 a/b/g/n/ac/ax/be)
- Bluetooth 5.3
- เซ็นเซอร์
- กล้องมองทะลุสี 32 MP ×2
- กล้องตรวจวัดระยะลึก iToF ×1
- กล้องติดตามสภาพแวดล้อม ×4
- จอแสดงผลและเลนส์
- จอแสดงผล 2.56 นิ้ว ×2
- ความละเอียด: 2160 × 2160 (× 2), 1200 PPI (พิกเซลต่อนิ้ว)
- ความละเอียดการเรนเดอร์: 1920 × 1920 (× 2)
- อัตราการรีเฟรช: 90 Hz
- เลนส์แบบแพนเค้ก 105° FoV
- PPD เฉลี่ย 20.6 (พิกเซลต่อองศา), PPD พื้นที่กึ่งกลาง 22.5
- การปรับระยะห่างระหว่างรูม่านตาแบบไร้รอยต่อ 58 มม. – 72 มม.
- ระบบเสียง
- ลำโพงสเตอริโอคู่
- ไมโครโฟน 4 ตัว และรองรับการบันทึกเสียงเชิงพื้นที่
- แบตเตอรี่ 5700 mAh ชาร์จเร็ว 45W (รองรับ QC 4.0 / PD 3.0)
- คอนโทรลเลอร์ พร้อมแบตเตอรี่ AA ×2
- อุปกรณ์ในกล่อง
- อุปกรณ์สวมศีรษะ PICO 4 Ultra MR
- คอนโทรลเลอร์ ×2
- สายรัดข้อมือ ×2
- อุปกรณ์คั่นระยะแว่นตา
- โฟมครอบใบหน้า
- ถ่านอัลคาไลน์ AA 1.5V ×4
- สาย USB-C to USB-C
- คู่มือและใบรับประกัน
ดีไซน์การออกแบบ
ด้านการออกแบบของ PICO 4 Ultra จะมาพร้อมการออกแบบตามสไตล์เดิมของค่ายเลยครับ คือใช้สีโทนขาวตัดสีดำ มีเซ็นเซอร์ต่างๆ ที่จำเป็นอยู่รอบแว่นตา และที่พิเศษของค่ายนี้ คือ ความสมดุลของน้ำหนักครับ เพราะการออกแบบจะให้น้ำหนักด้านหน้าและด้านหลังใกล้เคียงกัน คืออยู่ที่ 304 และ 276 กรัม เพื่อให้เกิดความสมดุล เวลาสวมใส่จะไม่รู้สึกหน่วงครับ โดยแบตเตอรี่จะถูกติดตั้งไว้ด้านหลัง ช่วยถ่วงน้ำหนัก ลดความอึดอัดขณะสวมใส่ได้เป็นอย่างดี ตรงนี้ถือเป็นข้อดีของการออกแบบของ PICO เสมอมาครับ (น้ำหนักรวมประมาณ 580 กรัม เบากว่ารุ่นเดิมเล็กน้อยครับ)
บริเวณด้านหน้าของแว่นตาจะมีกล้องและเซ็นเซอร์ต่างๆ วางอยู่รอบด้าน ปุ่มเปิดปิดจะอยู่บริเวณด้านขวาอยู่ในตำแหน่งที่กดเปิดปิดได้สะดวกด้วยมือขวา ในขณะที่ด้านซ้ายจะมีพอร์ต USB-C สำหรับชาร์จ
วัสดุส่วนใหญ่จะเป็นโพลีเมอร์น้ำหนักเบาครับ แต่มีความทนทานใช้ได้ ส่วนสัมผัสกับร่างกายของเรา เช่น กรอบแว่นด้านหน้าหรือที่ครอบศีรษะด้านหลังจะมีความนุ่ม ทำให้สวมใส่ได้นานโดยไม่เจ็บหรือรำคาญ นอกจากนี้ส่วนของเลนส์จะมีเว้นระยะพอสมควร ทำให้ผู้ที่ใส่แว่นก็สามารถใส่แว่นร่วมกับแว่น MR ตัวนี้ได้ด้วย
การปรับขนาดหลักๆ จะทำได้สองแบบครับ คือ แถบกาวด้านบนสำหรับปรับความยาวให้เหมาะสมกับความสูงของหัวผู้ใช้ และความกว้างของหัวจะใช้การหมุนตัวปรับด้านหลัง ซึ่งหัวของผู้รีวิวก็ถือว่าใหญ่พอสมควร ดังนั้นเชื่อว่าคนส่วนใหญ่น่าจะใช้ได้สบายครับ
ในส่วนของคอนโทรลเลอร์ของ PICO 4 Ultra จะปรับปรุงดีไซน์ใหม่ โดยตัดในส่วนของวงแหวนออกไป ช่วยลดความสูงของอุปกรณ์ลง 50% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า คืออยู่ที่ประมาณ 60 มม. ในขณะที่คอนโทรลเลอร์ของ PICO 4 รุ่นก่อนจะอยู่ที่ 134.7 มม. ช่วยให้จับได้กระชับ สะดวกขึ้น เข้ามือยิ่งกว่าเดิม นอกจากนี้ตัวคอนโทรลเลอร์ยังมาพร้อมอัลกอริทึมมัลติโมดัลของ Centaur และมอเตอร์เชิงเส้นบรอดแบนด์ HyperSense เพิ่มการตอบสนองการเล่นเกมหรือทำกิจกรรมอื่นๆ ได้ดียิ่งขึ้น
การควบคุมขณะใส่แว่นตาด้วย เมื่อมองผ่านแว่นเราจะเห็นเส้นสีขาวชี้ไปยังเมนูที่เราต้องการกดครับ เมื่อชี้ตรงจุดแล้ว ให้เราคลิกเลือกจากคอนโทรลเลอร์ โดยปุ่มบนคอนโทรลเลอร์จะคล้ายของเกมคอนโซลอย่าง Xbox ครับ โดยจะมีอนาล็อคสำหรับควบคุมทิศทาง และมีปุ่มฟังค์ชั่นต่างๆ
และในส่วนของแบตเตอรี่ของคอนโทรลเลอร์จะใช้แบตแบบ AA 1.5V ทั่วไปครับ โดยในแพ็คเกจจะมีแถมมาให้แล้ว ซึ่งเราสามารถใช้แบตธรรมดาหรือแบตแบบชาร์จก็ได้ และแต่ละข้างจะใช้แบต 2 ก้อน
ส่วนใครที่กลัวว่าจอยคอนโทรลจะหลุดมือขณะเล่น บริเวณด้านล่างจะมีช่องสำหรับใส่สายคล้องให้ด้วย เพิ่มความมั่นใจว่าจอยจะไม่หลุดมือไปโดนข้าวของแตกแน่นอน
ประสิทธิภาพและการใช้งาน
เริ่มกันที่ในส่วนของซอฟท์แวร์กันก่อนครับ ระบบภายในจากที่ทดสอบถือว่าทำมาได้ค่อนข้างดีครับ การควบคุมมีความง่าย และยังมีคำแนะนำในการใช้งานแสดงอยู่เสมอ ช่วยให้แม้จะเป็นผู้ที่ยังใหม่สำหรับแว่นตา VR ก็สามารถเล่นได้อย่างสนุกสนานได้ไม่ยาก
การตอบสนองของซอฟท์แวร์ถือทำได้ค่อนข้างเร็วครับ แน่นอนว่าเป็นเพราะชิปเซ็ตตัวแรงอย่าง Snapdragon XR2 Gen 2 ที่ประมวลผลได้อย่างรวดเร็วทันใจ ทำให้การใช้งานไม่เจออาการหน่วง ค้าง หรือช้าให้เห็นเลย นอกจากนี้อุปกรณ์ยังมาพร้อม RAM เยอะถึง 12GB แบบ LPDDR5 และหน่วยความจำ 256GB UFS 3.1 ที่ทำงานได้อย่างรวดเร็ว จึงถือว่าแว่นตัวนี้มาพร้อมประสิทธิภาพระดับต้นๆ ของตลาดนี้เลย
อย่างไรก็ตาม เพื่อนๆ อาจบอกว่าให้สเปกมาระดับนี้ถือว่าเกินจากซอฟท์แวร์ที่มีในปัจจุบันหรือไม่ พูดตรงๆ ก็ถือว่าจริงอยู่ครับ แต่ถ้าคิดว่าซื้ออนาคตเผื่อว่าเกมหรือคอนเท้นต์อะไรที่กำลังจะออกมา ต้องการอุปกรณ์ที่มีสเปกระดับสูง เชื่อว่ามีไว้ก่อนก็ถือว่าดีกว่าไม่มีจริงมั้ยครับ อย่างเช่นเกมที่จะออกมาอย่าง Just Dance VR หรือ Alien: Rogue Incursion เหล่านี้เชื่อว่าสเปกจะเพียงพออย่างแน่นอน
และหากคลังเกมของ PICO ใหญ่ไม่พอ ระบบยังรองรับการเชื่อมต่อกับ PC เพื่อเข้าถึงคลังเกมของ SteamVR ให้เลือกเล่นเพิ่มเติมได้อีก
ในส่วนของระบบ mixed-reality ก็ถือว่าพัฒนาขึ้นครับ เพราะกล้องบนรอุปกรณ์ถูกอัปเกรดโดยให้กล้องเพิ่มจาก 16MP ตัวเดียว เป็นกล้อง 32MP สองตัวและมีเซ็นเซอร์วัดระยะ depth iToF ที่ช่วยให้ภาพมีความคมชัด สดใสยิ่งขึ้น รวมถึงมีมิติมากขึ้นอีกด้วย
นอกจากนี้ ประสิทธิภาพของ Motion Tracker ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่สุดของ Pico 4 Ultra ซึ่งอุปกรณ์ช่วยให้การตรวจจับการเคลื่อนไหวของผู้ใช้ได้แม่นยำยิ่งขึ้น รวมถึงเพิ่มลูกเล่นในท่าทางต่างๆ ร่วมกับแอปพลิเคชันได้เป็นอย่างดี ช่วยยกระดับประสบการณ์การใช้งานได้ดียิ่งขึ้น
โดยการออกแบบจะมีน้ำหนักเบาเพียง 27 กรัมครับ มีความหน่วงต่ำเพียง 20ms และมีความถี่ในการติดตาม 200Hz ทำให้สามารถติดตามการเคลื่อนไหวได้เป็นอย่างดี ส่วนแบตเตอรี่ก็สามารถใช้งานต่อเนื่องได้ประมาณ 25 ชม. แต่ใช้งานจริงคงไม่มีใครเล่นทั้งวันทั้งคืนแบบนั้นใช่มั้ยครับ ตีซะว่าเล่นทุกวัน วันละ 1-2 ชม. ก็ได้นานเป็นสัปดาห์อยู่นะ
การใช้งาน Motion Trackers ถือว่าใช้งานได้ง่ายครับ เริ่มแรกอาจต้องมีการตั้งค่าและปรับเทียบเพียงเล็กน้อยก็สามารถใช้งานได้แล้ว แต่อย่างไรก็ตาม Motion Trackers จะจำหน่ายแยกนะครับ ไม่ได้แถมมาให้ในชุดขายแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม ซอฟท์แวร์ที่รองรับ Motion Tracker ก็ยังถือว่ามีไม่เยอะครับ ซึ่งจะเป็นเกมและ SteamVR ที่รองรับ ดังนั้นอาจต้องรอการอัปเดตเกมใหม่ๆ ในอนาคต แต่ที่มีให้มาก็พอเล่นได้ดีอยู่ครับ เช่น เกมเตะบอลเสมือนจริง หรือเกมกีฬาต่างๆ ก็ถือว่าเล่นเพลินอยู่ครับ
บทสรุป
PICO 4 Ultra เหมาะสำหรับคนที่ต้องการหาอุปกรณ์ VR/MR หรือความจริงแบบผสมในรูปแบบใหม่ โดยในรุ่นใหม่นี้มาพร้อมกับการออกแบบที่ปรับให้เหมาะสมยิ่งขึ้น สามารถใส่สบายได้ตลอดวัน มีคอนโทรลเลอร์ดีไซน์ใหม่ที่ใช้งานได้เหมาะมือมากขึ้น และที่สำคัญยังรองรับ Motion Tracker ใหม่ที่ช่วยตรวจจับการเคลื่อนไหวของผู้ใช้ได้แม่นยำยิ่งขึ้น ทำให้รองรับการขยับร่างกายเพื่อเล่นเกมหรือจะใช้เป็นอุปกรณ์ออกกำลังกายในครอบครัวก็สนุกได้ทั้งบ้านครับ
อีกหนึ่งจุดเด่นของ PICO 4 Ultra คือมาพร้อสเปกที่ค่อนข้างดี ด้วยชิปเซ็ต Snapdragon XR2 Gen 2 พร้อมหน่วยความจำค่อนข้างสูง ทำให้รองรับการใช้งานระดับสูง หรือซอฟท์แวร์ใหม่ๆ ที่จะออกมาในอนาคตได้เป็นอย่างดี ใครที่อยากซื้อมาแล้วใช้ยาวน่าจะเหมาะ
เทคโนโลยี VR อาจไม่ใช่เรื่องใหม่ในปัจจุบันครับ โดยเฉพาะสำหรับคนที่ติดตามเทคโนโลยีใหม่ๆ อยู่เสมอ รวมถึงเทคโนโลยี MR หรือ Mixed Reality ซึ่งเป็นความจริงเสมือน ในปัจจุบันก็สามารถเข้าถึงได้ง่ายมากขึ้น ไม่ได้เป็นอุปกรณ์ที่มีราคาแพงจนเข้าถึงได้ยากเหมือนที่ผ่านมา และล่าสุดวันนี้พวกเราทีมงาน MobileOcta มีโอกาสได้หยิบเจ้า PICO 4 Ultra ซึ่งเป็นแว่นตา VR และ MR รุ่นล่าสุดที่น่าสนใจมากในปัจจุบัน จนอาจเรียกได้ว่าแว่นตารุ่นนี้เปิดตัวออกมาท้าชิงตำแหน่งเจ้าตลาดแว่น VR ของ Meta เลยทีเดียว
ราคาและการวางจำหน่าย PICO 4 Ultra และ PICO Motion Trackers ในประเทศไทยประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว โดย PICO 4 Ultra เปิดตัวในราคา 19,990 บาท และ PICO Motion Trackers ราคา 2,990 บาท วางจำหน่ายแล้วที่ PICO Zone เซ็นทรัลเวิลด์, เซ็นทรัลเวสต์เกต, เซ็นทรัลปิ่นเกล้า, เมกา บางนา, Com7, Dot.life, Speed Gaming และร้านค้าที่ร่วมรายการ
ดูข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ PICO 4 Ultra และ PICO Motion Trackers ได้ที่ https://www.facebook.com/PICOXRThailand/
#PICOUnveil #PICOMixedReality #PICOXRThailand