คลังเก็บ

รีวิว : OPPO F7 สมาร์ทโฟนดีไซน์ล้ำ พร้อมจอ Super Full Screen 2.0, กล้องเซลฟี่ 25 ล้านพิกเซล และ AI Beauty 2.0

OPPO ยังคงเดินหน้าเป้นผู้นำสมาร์ทโฟนตัวจริงเรื่องเซลฟี่ตามสโลแกน Selfie Expert อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้เปิดตัว OPPO F7 สมาร์ทโฟนระดับกลางรุ่นใหม่ในตระกูล F Series ในบ้านเราไปเมื่อช่วงปลานเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

โดยชูจุดเด่นที่กล้องหน้าเซลฟี่ 25 ล้านพิกเซล พร้อมเทคโนโลยี AI Beauty 2.0 ที่ฉลาดถ่ายได้สวยเป็นธรรมชาติมากขึ้น รวมทั้งมาพร้อมดีไซน์สวยล้ำสะดุดตา และอัดแน่นด้วยฟีเจอร์การใข้งานต่างๆ อย่างครบครัน เรามาดูรีวิวันเลยดีกว่า

OPPO F7

อุปกรณ์ในกล่อง

กล่องแพ็คเกจจิ้งของเครื่อง OPPO F7 เป็นกล่องกระดาษบางซ้อนกับกล่องกระดาษแข็งสีขาวด้านในขนาดใส่เครื่องพอดีไม่ใหญ่เกินไป โดยด้านหน้ากล่องมาพร้อมรูปเครื่อง ชื่อรุ่น และวงเล็บ 25MP ซึ่งชูจุดขายกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 25 ล้านพิกเซลนั่นเอง ส่วนด้านหลังมาพร้อมสเปกเด่นของเครื่องรุ่นนี้

เมื่อเปิดกล่องออกมาจะพบกับตัวเครื่อง และอุปกรณ์ต่างๆ ได้แก่ อแดปเตอร์ชาร์จแบตเตอรี่, สายดาต้าลิงคฺ์ microUSB, ชุดหูฟังแบบ in-ear ขนาดมาตรฐาน 3.5 มม., เคสซิลิโคนแบบใส, อุปกรณ์ถอด SIM Card, ใบรับประกัน และคู่มือการใช้งาน

รูปลักษณ์ดีไซน์

OPPO F7 มาพร้อมดีไซน์โค้งมนสวยหรู ด้านหลังและด้านข้างเครื่องใช้วัสดุที่ทำจากกระจกดูโดดเด่นและสะดุดตามาก ซึ่งสีตัวเครื่องที่ได้มารีวิวนั้นเป็นสีเงิน Mystic Silver ซึ่งเวลาสะท้อนแสงจะดูเป็นสีเทาๆ ฟ๋าๆ ไม่เหมือนใคร โดยตัวเครื่องมีขนาด 156 × 75.3 × 7.8 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 158 กรัม

ด้านหน้าเครื่อง เริ่มจากด้านบนตรงกลางมีรอยบากซึ่งเป็นตำแหน่งของกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 25 ล้านพิกเซล, ช่องลำโพงสนทนา และเซ็นเซอร์ต่างๆ ทั้งปิดหน้าจอ และปรับความสว่างอัตโนมัติ

ถัดลงมาเป็นหน้าจอแสดงผล Super Full Screen แบบ LPTS TFT 16 ล้านสี ความละเอียด FHD+ 2280 x 1080 พิกเซล ขนาด 6.23 นิ้ว ในอัตราส่วน 19:9

ครอบทับด้วยกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 5 พร้อมกระจกขอบโค้ง 2.5D และที่ด้านล่างไม่มีปุ่มใดๆ โดยย้ายปุ่มควบคุมการใช้งานต่างๆ ไปอยู่บนหน้าจอแทน

ด้านหลังเครื่องอย่างที่บอกไว้คือเป็นกระจกมันวาว มีความสะท้อนแสง ทำให้เกิดรอยนิ้วมือได้ง่าย โดยมุมซ้ายด้านบนมีเลนส์กล้องดิจิทัลความละเอียด 16 ล้านพิกเซล และไฟแฟลช LED ถัดลงมาตรงกลางมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ และโลโก้ OPPO

ด้านซ้ายข้างเครื่องมีปุ่มปรับเพิ่มลดระดับเสียง

ด้านขวาข้างเครื่องมีช่อง Triple Slot SIM โดยรองรับซิมการ์ดแบบ Nano SIM ด้วยกันทั้ง 2 ช่อง และมีช่องสำหรับใส่ microSD Card แยกออกมาอีกต่างหาก ถัดลงมามีปุ่ม Power สำหรับเปิดและปิดเครื่อง

ด้านบนเครื่องมีช่องไมโครโฟนตัดเสียง

ด้านล่างเครื่อง ด้านซ้ายมีช่องลำโพงเสียง ตรงกลางมีช่องเสียบชาร์จไฟและสายดาต้าลิงค์แบบ microUSB ส่วนด้านขวามีช่องไมโครโฟน และช่องเสียบชุดหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มม.

สเปก OPPO F7

ขนาด 156 x 75.3 x 7.8 มิลลิเมตร
น้ำหนัก 158 กรัม
หน้าจอ LTPS IPS LCD 16 ล้านสี ความละเอียด FHD+ 1080 x 2280 พิกเซล ขนาด 6.23 นิ้ว ในอัตราส่วน 19:9
หน่วยประมวลผล Octa-Core ความเร็ว 2.0GHz, ชิปเซ็ท MediaTek Helio P60, หน่วยประมวลผลกราฟิก Mali-G72 MP3
RAM 4GB
หน่วยความจำภายในเครื่อง 64GB
microSD Card สูงสุด 256GB
กล้องถ่ายภาพ กล้องหลัง ความละเอียด 16 ล้าน รูรับแสง f/1.8 พร้อมไฟแฟลช LED และระบบ PDAF ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 25 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 และ AI Beauty 2.0
ระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo ครอบทับด้วย Color OS 5.0
เชื่อมต่อ รองรับ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, WiFi Direct, hotspot, Bluetooth 4.2, microUSB 2.0
รองรับระบบ 4G LTE Band 1/3/5/8/38/40/41 และ 3G 850/900/1900/2100 MHz ( 4G และ 3G ทุกเครือข่ายในไทย)
แบตเตอรี่ 3,400 mAh
ราคา 10,990 บาท

คุณสมบัติการใช้งาน

OPPO F7 รันบนระบบปฎิบัติการ Android 8.1 Oreo ครอบทับด้วย ColorOS 5.0 พร้อมสีสันสวยงามในแบบฉบับสมาร์ทโฟน OPPO ใช้งานง่าย และปรับแต่งได้ตามใจชอบไม่ว่าจะเป็น การเปลี่ยนธีม, การเปลี่ยนภาพพื้นหลัง, การนำวิดเจ็ตที่ต้องการใช้งานมาไว้ที่หน้าจอโฮมสกรีน และการเปลี่ยนเอฟเฟกต์ปลดล็อกหน้า

โดยในส่วนของหน้าจอหลักนั้น มีหน้าจอเริ่มต้นให้ใช้ทั้งหมด 2 หน้าหลักด้วยกัน โดยด้านซ้ายเป็นหน้า Smart Assistant หรือผู้ช่วยอัจฉริยะสำหรับใข้งานฟังก์ชั่นที่ใช้บ่อยโดยการแตะครั้งเดียว และดูข้อมูลสำคัญอย่างรวดเร็วในขั้นตอนเดียว

นอกจากนี้ถ้าแตะที่ด้านบนแล้วลากลงมาจะเป็นหน้าจอแจ้งเตือน Notifications และถ้าเลือนจากใต้หน้าจอขึ้นมาจะเป็นหน้าสำหรับเปิดปิดการเชื่อมต่อต่างๆ ทั้งอินเทอร์เน็ต, WiFi รวมทั้งปรับความสว่าง มีฟังก์ชันถนอมสายตา (Eye protection) เป็นต้น และตั้งค่าใช้งานต่างๆ

ดาวน์โหลด Theme และภาพวอลเปอร์สวยๆ ในร้านขายธีม มาเปลี่ยนบนหน้าจอได้

รองรับการใช้งาน 2 ซิม พร้อมรองรับเครือข่าย 4G LTE with VoLTE และรองรับ Full Net Com 3.0 ใช้ 4G/3G ทั้ง 2 ซิม

ติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังเครื่อง รองรับการตั้งค่าได้สูงสุด 5 ลายนิ้วมือ โดยก่อนใช้งานจะต้องทำการลงทะเบียนลายนิ้วมือพร้องตั้งรหัสแบบ PIN หรือแบบอื่นๆ ก่อน

รองรับการปลดล็อคหน้าจอด้วยใบหน้า เพียงลงทะเบียนด้วยใบหน้า ซึ่งจะใช้ได้เพียงหน้าเดียวเท่านั้น จากนั้นเมื่อหน้าจอติดมองไปยังบนหน้าจอก็สามารถปลดล็อคได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ยังสามารถใช้ใบหน้าเพื่อเข้าสู้แอปที่ป้องกันไว้ หรือในพื้นที่ที่ต้องการความปลอดภัยได้

มีฟังก์ชั่น Hold off Distractions สำหรับคนที่ชอบเล่นเกม และดูหนังอย่างต่อเนื่องไม่ต้องกังวัลเมื่อมีสายเรียกเข้า เพราะฟังก์ชั่นนี้จะแสดงแถบแจ้งเตือนเล็กๆ ที่ด้านบน โดยไม่ตัดเข้าหน้าโทรศัพท์ หากต้องการรับสายจะเป็นการสนทนาผ่านลำโพงทันที ซึ่งผู้ใช้ก็ยังสามารถเล่นเกมต่อได้ และสนทนาไปพร้อมๆ กัน

บริการฝากภาพถ่าย หรือรายชื่อโทรศัพท์ และข้อมูลต่างๆ ผ่านทาง OPPO Clound ซึ่งทาง OPPO ให้ใช้งานพื้นที่ได้แบบฟรีๆ ถึง 5 GB

มีฟังก์ชัน Split-Screen สำหรับแบ่งหน้าจอ เพื่อให้ใช้งานได้พร้อมกัน 2 แอปพลิเคชัน รวมทั้งรองรับแอปโคลน ผู้ใช้สามารถโคลนนิ่งแอปพลิเคชันไลน์ หรือ WhatsApp นั้นหมายว่าความว่าผู้ใช้สามารถล็อกอินเข้าใช้งานแอปพลิเคชัน Line ได้ พร้อมๆ กัน ถึง 2 บัญชี

คุณสมบัติอื่นๆ ก็มีมาให้อย่างครบถ้วน

ด้านการถ่ายภาพ

OPPO F7 มาพร้อมกล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED, รูรับแสง f/1.8,ซูมดิจิทับล 4 เท่า และระบบออโต้โฟกัส นอกจากนี้ยังมีโหมด HDR, โหมดหน้าชัดหลังเบลอ, โหมดถ่ายภาพโปร, พาโนราม่า, หน้าสวย, โหมดย่นเวลา รวมไปถึงโหมดถ่ายรูปที่ต้องการสีจัดจ้านก็มีให้เลือกใช้งาน

นอกจากนี้ยังมีลูกเล่นอย่างด้วย AR Stickers และรองรับเทคโนโลยี AI Scene Recogntion สำหรับปรับแต่งค่าต่างๆ เพื่อให้เหมาะสมกับการถ่ายภาพสถานการณ์นั้นๆ แบบอัตโนมัติ และสามารถวิเคราะห์ซีนต่างๆได้ถึง 16 ซีน

โดยภาพนิ่งถ่ายได้ที่ความละเอียดสูงสุด 4608 x 3456 พิกเซล ส่วนวิดีโอบันทึกได้ที่ความละเอียดสูงสุด Full HD 1080p

ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 25 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด f/2.0 พร้อมโหมดถ่ายภาพหน้าสวยแบบอัตโนมัติ และปรับได้เอง 6 ระดับ โดยมาพร้อมเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ AI Beauty 2.0 ที่สามารถจับจุดบนใบหน้ากว่า 296 จุด

ทำให้แม้ว่าจะถ่ายภาพเซลฟี่เป็นกลุ่ม หรือถ่ายภาพเซลฟี่แบบไม่เต็มหน้า ระบบ AI Beauty 2.0 ก็ยังสามารถตรวจจับใบหน้า และนำไปปรับแต่งให้เหมาะสมกับตัวแบบได้ และสามารถเลือกปรับค่าผิวเนียนได้มากถึง 6 ระดับอีกด้วย

นอกจากนี้ ยังมีฟังก์ชั่นหน้าชัดหลังเบลอ (Bokeh Effect) ใช้งานง่ายเพียงเปิดที่รูปหยดน้ำให้เป็นสีเหลือง และกำหนดจุดที่ต้องการให้ชัด เท่านี้ก็ได้รูปหน้าชัด หลังเบลอสวยๆ พร้อมโหมดถ่ายสีจัดจ้าน, โหมด AR Sticker

และรองรับการถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD 1080 พิกเซล พร้อมสามารถปรับค่าผิวเนียนขณะบันทึกวิดีโอได้ และมีโหมดถ่ายวิดีโอ Time-Lapse ให้ใช้งาน

ตัวอย่างภาพจากกล้อง

ประสิทธิภาพ

OPPO F7 ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.0GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Mediatek Helio P60, หน่วยประมวลผลกราฟิก Mali-G72 MP3, RAM 4GB

และหน่วยความจำภายในเครื่องขนาด 64GB เพิ่มได้ด้วย microSD Card สูงสุด 256GB

เท่าที่ได้ลองทดสอบโดยใช้งานปกติทั่วไปปรากฏว่า ใช้งานได้อย่างไหลลื่นไม่มีสะดุด และตอบสนองการใช้งานได้เป็นอย่างดี ส่วนการเล่นเกมได้ลองกับเกม Marvel Future Flight และ ROV ที่มีภาพกราฟิกสูงแบบสามมิติ สามารถเล่นได้อย่างไหลลื่น ไม่มีอาการหน่วง หรือกระตุกให้เห็น และเล่นนานๆ เครื่องก็ไม่มีอาการร้อนอีกด้วย โดยรวมแล้วถือว่าสอบผ่าน

ผลการทดสอบประสิทธิภาพของ OPPO F7 ผ่านแอป Antutu

ผลการทดสอบประสิทธิภาพของ OPPO F7 ผ่านแอป GeekBench

แบตเตอรี่

แบตเตอรี่ที่ใช้กับเครื่องรุ่นนี้มีขนาดใหญ่ถึง 3,400 mAh และมาพร้อมโหมด Power Saving ที่ช่วยประหยัดแบตเตอรี่เมื่อเปิดใช้งานโหมดนี้ หลังจากที่ได้ทำการทดสอบโดยใช้งานต่อเนื่องใน 1 วันปรากฏว่าสามารถใช้งานได้ประมาณ 8-10 ชั่วโมง แต่ถ้าใช้งานอินเทอร์เน็ตในเครือข่าย 4G แบตก็อาจหมดเร็วขึ้น

โดยรวมแล้วสามารถใช้งานได้ใน 1 วันสบายๆ และถ้าแบตเหลือน้อยลง ก็สามารถชาร์จโดยใช้เวลาไม่นาน และใช้งานได้อย่างต่อเนื่องทันที แต่น่าเสียดายที่รองรับการชาร์จเร็ว

บทสรุป

OPPO F7 ถือเป็นสมาร์ทโฟนในตระกูล F Series ของ OPPO ที่มีการปรับโฉมดีไซน์ใหม่หมดดูสวยหรูและพรีเมี่ยมมากขึ้น นอกจากนี้ยังมากล้องหน้าเซลฟี่ที่มีความละเอียด 25 ล้านพิกเซล (สูงที่สุดในตอนนี้) พร้อมโหมดถ่ายหน้าสวยเวอร์ชั่นใหม่ AI Beauty 2.0 ที่ถ่ายได้สวย และดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น

รวมถึงกล้องหลังก็มาพร้อมเทคโนโลยี AI Scene Recognition ที่ปรับแต่งค่าต่างๆ เพื่อให้เหมาะสมกับการถ่ายภาพสถานการณ์นั้นๆ แบบอัตโนมัติ รวมทั้งใช้ชิปเซ็ทที่แรง เร็ว และมีประสิทธิภาพ และหน้าจอแสดงผลแบบ Super Full Screen ขนาด 6.23 นิ้วในอัตราส่วน 19:9  รองรับการรับชมคอนเทนท์ต่างๆ ได้อย่างเต็มตาอีกด้วย

ทั้งนี้ตัวเครื่อง OPPO F7 ที่นำเข้ามาจำหน่ายในบ้านเรามีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Solar Red, Moonlight Silver และ Diamond Black วางจำหน่ายแล้วในราคา 10,990 บาท

ส่วนใครที่ต้องการหน่วยความจำที่เยอะๆ ก็มีรุ่น OPPO F7 128GB (RAM 6GB,ROM 128GB) โยมีให้เลือก 2 สีคือ Solar Red และ Diamond Black วางจำหน่ายในราคา 14,990 บาท

คลิกช้อปสมาร์ทโฟน OPPO ที่นี่ >>> https://goo.gl/fpmx2g