คลังเก็บ

รีวิว Geekom MiniAir 11 คอมตั้งโต๊ะไซส์มินิ ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน ทำงานดี โซเชียลได้ ดูหนัง 4K ก็สบาย

ยุคนี้คนทำงานหลายคนสนใจการจัดโต๊ะคอมให้สวยงามตามสไตล์ของตนเอง และหนึ่งในอุปกรณ์ที่เป็นที่นิยมสำหรับสายนี้คือ Mini PC นี่ล่ะครับ เพราะเป็นอุปกรณ์ที่มีขนาดเล็ก กะทัดรัด ทำให้โต๊ะคอมดูสวยสะอาดตา และเป็นระเบียบมากกว่าอุปกรณ์ที่ดูใหญ่เทอะทะ

ดังนั้นวันนี้เราลองมารีวิว Mini PC ที่น่าสนใจแถมยังมีราคาที่ประหยัดสบายกระเป๋า เหมาะกับทุกเพศทุกวัยอย่าง Geekom MiniAir 11 ที่มาพร้อมดีไซน์ที่เล็ก กะทัดรัด สวยทันสมัย และที่สำคัญ มีราคาที่จับต้องได้อีกด้วย 

Geekom MiniAir 11

อย่างไรก็ตาม Geekom MiniAir 11 เป็นอุปกรณ์ในระดับ Entry-Level ครับ ดังนั้นทางด้านสเปคจะเน้นสำหรับการทำงานทั่วไป เล่นเกมออนไลน์ระดับพื้นฐานได้ หรือจะใช้เป็นอุปกรณ์เชื่อมต่อกับทีวีเพื่อดูหนังฟังเพลงออนไลน์ได้ครับ แถมยังสามารถส่งสัญญาณภาพระดับ 4K ได้เลยครับ และด้วยการที่มีขนาดเล็กแบบนี้ ทำให้สามารถพกพาไปทำงานพรีเซ็นต์นอกสถานที่ด้วยการเชื่อมต่อกับมอนิเตอร์หรือโปรเจ็คเตอร์ได้สะดวกเพราะมีพอร์ตเชื่อมต่อที่หลากหลาย

และที่สำคัญ Geekom MiniAir 11 มีราคาเริ่มต้นเพียง 5,599 บาทเท่านั้น ฟังไม่ผิดครับราคานี้จริงๆ ใครที่หาอุปกรณ์ไว้ทำงาน หรือเพื่อความบันเทิงที่บ้าน ด้วยราคาเท่านี้เหมือนได้คอมพิวเตอร์ไว้ใช้งานเลยครับ แต่รุ่นนี้ใช้งานแล้วจะเป็นอย่างไรบ้างนั้น และรายละเอียดจะเป็นอย่างไร ผมจะมาเล่าให้ฟังครับ เริ่มกันที่ไปดูสเปคพื้นฐานและแกะกล่องกันก่อนครับ 

แกะกล่อง Geekom MiniAir 11 

  • Mini PC Geekom MiniAir 11
  • อแดปเตอร์ + ปลั๊กไฟ
  • VESA Mount และน็อตสำหรับติดตั้งกับมอนิเตอร์
  • สาย HDMI
  • คู่มือและใบรับประกัน 

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าสินค้าสำหรับวางจำหน่ายนั้นจะแถมถุงผ้า Storage Bag มาด้วยครับ แต่ชุดสำหรับรีวิวนั้นไม่ได้ให้มา ดังนั้นอาจต้องสอบถามทางตัวแทนจำหน่ายอีกทีครับ

สเปค Geekom MiniAir 11

  • ระบบปฏิบัติการ : Windows 11 Pro
  • ชิปประมวลผล : Intel Celeron N5095 (4M Cache, ความเร็วสูงสุด 2.90GHz)
  • กราฟฟิก : Intel UHD Graphics 605
  • RAM : DDR4 SO-DIMM 8GB รองรับสูงสุด 32GB
  • หน่วยความจำ SSD M.2 256GB รองรับสูงสุด 1TB
  • พอร์ตเชื่อมต่อ :
    • USB 3.2 Gen1 x2
    • USB 3.2 Gen2 x1
    • USB-C (data only) x2
    • SD Card Reader (USB 2.0) x1
    • พอร์ตหูฟัง 3.5 มม. X1
    • RJ45 Gigabit Ethernet Port x1
    • HDMI 1.4 x1
    • Mini DisplayPort x1
    • DC jack x1
  • รองรับการเชื่อมต่อไร้สาย : Bluetooth 4.2, Wi-Fi 5
  • ขนาดบอดี้ : 117 x 112 x 34.2 มม. 

ดีไซน์การออกแบบกะทัดรัด พกพาสะดวก

Geekom MiniAir 11 มีดีไซน์การออกแบบยอดนิยมตามสไตล์ของ Mini PC ครับ คือมีการออกแบบเป็นกล่องสี่เหลี่ยมขนาดเล็ก มีขนาด 117 x 112 x 34.2 มม. ซึ่งมีขนาดที่ใกล้เคียงกับกล่องทีวี Android ประมาณนั้นก็ว่าได้ครับ ทำให้ไม่มีปัญหาหากต้องการพกพาติดตัวไปทำงานนอกสถานที่ หรือไปเที่ยวห้องพักต่างจังหวัด ก็สามารถพกติดกระเป๋าไปเชื่อมต่อกับทีวีในห้องพักผ่าน HDMI เพื่อทำงานหรือดูหนังฟังเพลงได้เลย

กลับมาที่เรื่องการออกแบบต่อครับ Geekom MiniAir 11 ใช้วัสดุเป็นพลาสติกโดยด้านบนจะเป็นสีดำมันเงา ในขณะที่ด้านอื่นๆ จะเป็นแบบด้าน โดยด้านบนจะมีโลโก้ Geekom และตัวอักษร Intel Inside 

ด้านหน้ามีพอร์ต USB-C, USB-A, พอร์ตหูฟัง 3.5 มม. และปุ่ม Power จัดวางอย่างเป็นระเบียบ และใช้งานได้ง่าย

ด้านซ้ายมีส่วนระบายอากาศ และช่องการ์ดรีดเดอร์ รองรับการ์ดขนาด SD Card 

ด้านขวามีส่วนระบายอากาศอีกเล่นกัน และ Kensington Lock

ด้านหลังมีช่องระบายอากาศขนาดใหญ่ (ด้านในมีพัดลมระบายอากาศด้วยครับ) พร้อมพอร์ต DC, mini DisplayPort, RJ45 พอร์ตหรือสาย LAN, USB-A x2, USB-C และ HDMI ขนาดใหญ่มาตราฐาน

ส่วนด้านล่างจะมีข้อมูลพื้นฐานของอุปกรณ์ และฐานยางทั้ง 4 มุมซึ่งมีช่องขันน็อตที่สามารถถอดได้ง่ายดาย ซึ่งเราจะกล่าวถึงด้านการอัพเกรดอุปกรณ์ในส่วนถัดไป 

ด้านการออกแบบของ Geekom MiniAir 11 โดยรวมถือว่าทำออกมาได้สวยงาม น่าใช้ครับ มีขนาดที่เล็กกะทัดรัด สามารถวางเข้ากันได้อย่างสวยงามบนทุกโต๊ะทำงาน หรือสามารถติดตั้งเข้ากับมอนิเตอร์ที่รองรับ VESA Mount ด้านหลังได้ด้วย ทำให้โต๊ะทำงานดูสะอาดตาไม่รกครับ 

พอร์ตเชื่อมต่อครบเครื่อง และอัพเกรดได้

Geekom MiniAir 11 แม้ว่าจะเป็น Mini PC ระดับเริ่มต้น แต่ก็เป็นคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่มีพอร์ตเชื่อมต่อให้มาเยอะมากจริงๆ ครับ ไม่ว่าจะเป็นทั้งพอร์ต USB-C ถึง 2 พอร์ต USB-A 3.2 ก็ให้มาเพียบ แถมพอร์ตสำหรับการเชื่อมต่อหน้าจอก็ให้มาทั้ง HDMI ขนาดมาตราฐาน และ DisplayPort ทำให้สามารถต่อออกสองหน้าจอได้พร้อมกัน และยังมี gigabit Ethernet สำหรับเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูงด้วย 

แต่ที่ผู้รีวิวชอบที่สุดคือ SD Card Reader นี่ล่ะครับ เพราะเหมาะสำหรับการโอนถ่ายข้อมูลไฟล์รูปภาพจากกล้องถ่ายภาพเป็นอย่างมาก เหมาะสำหรับการทำงานนอกสถานที่ หรือสามารถพรีเซ็นต์ภาพถ่ายออกหน้าจอขนาดใหญ่ได้สะดวกเลย 

ส่วนการอัพเกรดหน่วยความจำก็สามารถทำได้ง่ายมากครับ เพียงแค่ขันน็อต 4 ตัวด้านล่างอย่างที่บอกไปในส่วนก่อนหน้านี้ จากนั้นเปิดฝาด้านล่างออก ก็จะเจอกับแผงด้านในอย่างง่ายๆ ครับ โดยสิ่งที่เราสามารถอัพเกรดได้จะเป็นในส่วนของ RAM ที่ใช้เป็นแบบ SODIMM หรือเรียกง่ายๆ ว่า RAM โน้ตบุ๊คนั่นล่ะครับ

โดยบนแผงจะสามารถใส่ RAM ได้สองตัว และได้สูงสุด 32GB เรียกได้ว่าเกินพอสำหรับการทำงานทั่วไปเลยครับ และอีกอย่างที่อัพเกรดได้คือหน่วยความจำภายในที่ใช้เป็นแบบ M.2 SSD ที่รวดเร็ว และใส่ได้ความจุสูงสุด 1TB เก็บไฟล์ภาพหรือหนังได้จุใจกันเลย

ประสิทธิภาพการใช้งานระดับเริ่มต้น

มาถึงในส่วนของการใช้งานและประสิทธิภาพครับ Geekom MiniAir 11 เป็นอุปกรณ์ระดับเริ่มต้น ดังนั้นอาจไม่สามารถคาดหวังประสิทธิภาพที่เร็วแรงระดับเรือธงครับ แต่สำหรับในงบครึ่งหมื่น ได้มาเท่านี้ก็ถือว่าอยู่ในระดับที่ OK เลยครับ ด้วยชิปเซ็ต Intel Celeron N5095 ถือว่าดีมากสำหรับงานทั่วไป รวมถึงการเล่นเกม หรือดูสตรีมมิ่งมัลติมีเดียต่างๆ ได้อย่างลื่นไหลระดับ 4K 

ซึ่งชิปเซ็ต Intel Gen 11th Celeron N5095 จะเป็นชิปแบบ Quad-Core 4 Thread ความเร็วสูงสุดที่ 2.90GHz มี 4M Cache และกินไฟต่ำมากๆ เพียง 15W TDP โดยประมาณเท่านั้น เรียกได้ว่าใครที่รักษ์โลก อยากประหยัดพลังงาน ชิปรุ่นนี้ตอบโจทย์สบายเลยครับ และยังทำงานเงียบมาก ใครกังวลว่าการใช้งานในห้องนอนแล้วจะรบกวนเพื่อนร่วมห้อง ก็ไม่ต้องกังวลเลยครับ

และนอกจากจะมีพอร์ตการเชื่อมต่อที่มากมายหลากหลายเกินตัวแล้ว ด้านการเชื่อมต่อไร้สายก็ถือว่าให้มาดีมากครับ เพราะรองรับทั้ง Bluetooth 4.2 ที่สามารถโอนถ่ายข้อมูลได้ง่าย หรือจะเชื่อมต่อกับหูฟังบลูทูธไร้สายเพื่อดูหนังฟังเพลงก็ทำได้ง่ายโดยไม่ต้องซื้ออุปกรณ์ต่อเชื่อมเหมือน PC ปกติ รวมถึงยังรองรับ Wi-Fi 5 ทำให้พก Geekom MiniAir 11 ไปที่ไหน ก็พกไปต่อ Wi-Fi เพื่อทำงานได้อย่างสะดวกเลยครับ 

ส่วนการเล่นเกมก็สามารถเล่นได้นะครับ แต่จะเป็นเกมในระดับสเปคพื้นฐานที่ไม่ได้เน้นความแรงมาก หรือเกมออนไลน์ยุคเก่าหน่อย อย่างเช่น Burnout Paradise, Left 4 Dead 2, Fall Guys, หรืออย่างเกม Genshin Impact ก็อาจต้องปรับกราฟฟิกแบบต่ำๆ หน่อยก็พอเล่นได้ครับ หรืออยากอัพ RAM ก็สามารถเพิ่มได้อย่างที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ครับ

ให้ Windows 11 Pro มาพร้อมใช้

Geekom MiniAir 11 ยังมาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 11 Pro มาพร้อมใช้เลยครับ ซึ่งในงบนี้ถือว่าดีมากเลยครับ แต่อย่างไรก็ตามทาง Geekom ยังบอกว่าอุปกรณ์ยังเปิดกว้างสำหรับ OS อื่นๆ เช่น Ubuntu หรือ Chrome OS สำหรับผู้ที่ต้องการทำงานกับ OS อื่นได้อีกด้วย เหมาะสำหรับคนที่ต้องการอุปกรณ์เอาไว้ทำงาน Office หรืองานเอกสารต่างๆ ก็สามารถทำได้สบายเลยครับ หรือจะเพิ่ม RAM เพื่อให้สามารถเปิด Chrome ได้หลายๆ แท็บก็สามารถทำได้ครับ 

บทสรุป

หากเพื่อนๆ กำลังมองหาคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลสำหรับการทำงานทั่วไป ไม่เน้นการเล่นเกมสเปคสูงมาก หรือใช้เพื่อความบันเทิงทั่วไปในครอบครัว Geekom MiniAir 11 เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจมากทีเดียวครับ หรืออาจใช้เพื่อแทนกล่องแอนดรอยด์ที่บ้านก็ถือว่าสเปคของ MiniAir 11 รุ่นนี้ดูดีกว่าเยอะครับ ไม่หน่วงหรือแฮงค์บ่อยด้วย สามารถเปิดดู Netflix 4K หรือ Disney Plus ผ่านเบราเซอร์ได้เลย

ส่วนด้านการทำงานก็สามารถรันโปรแกรมสำหรับทำงานหรือพิมพ์งานได้เลยครับ ตัวเครื่องยังมาพร้อม Windows 11 Pro ที่เราคุ้นเคย หรือจะเอาไปลง Chrome OS ก็ยังไหว เน้นการทำงานผ่านคราวด์ได้เลย เพราะสามารถพกพาไปไหนได้ง่าย รองรับพอร์ตการเชื่อมต่อที่หลากหลาย และมี WiFi หรือ Bluetooth ในตัว เรียกได้ว่าให้มาครบเครื่องน่าใช้ทีเดียวครับ 

ทางด้านราคา Geekom MiniAir 11 เปิดราคาเริ่มต้นที่ 5,599 บาท สำหรับรุ่นไม่มี RAM และ SSD แต่ถ้าเป็นรุ่นที่เรารีวิว หรือที่ให้ RAM 8GB และ SSD 256GB พร้อมใช้จะอยู่ที่ 7,199 บาท พร้อมประกันไทย 2 ปี เรียกได้ว่าเปิดราคามาน่ารักแบบนี้ ดูแล้วยิ่งน่าใช้ครับ ใครที่หา Mini PC เล็กๆ สวยๆ เอาไว้ทำงานทั่วไปที่บ้าน รุ่นนี้ถือเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่น่าใช้อย่างมากครับ สำหรับการรีวิวก็ต้องขอจบเพียงเท่านี้ จนกว่าจะพบกันใหม่ สวัสดีครับ 😀