คลังเก็บ

รีวิว Alldocube iPlay 70 mini Ultra แท็บเล็ตเกมมิ่งขุมพลัง Snapdragon 7+ Gen 3 พร้อมจอ 8.8 นิ้ว 144Hz และต่อจอยสติ๊กได้

Alldocube แบรนด์แท็บเล็ตที่กำลังมาแรง ได้สร้างความสั่นสะเทือนให้วงการอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัว Alldocube iPlay 70 mini Ultra สมาร์ทแท็บเล็ต Android ขนาดพกพาที่มาพร้อมสเปคระดับ “Ultra” เกินตัว กับสโลแกน “แรงเต็มสปีด เกมไหนก็โดน” ชูจุดเด่นจอลื่นภาพสวย ชิปเซ็ตแรงเหมาะกับสายเล่นเกมบนแท็บเล็ต

โดยหลังจากเปิดตัวในตลาดยุโรปและอเมริกาไปเมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา ล่าสุดแท็บเล็ตรุ่นนี้ก็ได้เดินทางมาถึงบ้านเรา พร้อมให้เกมเมอร์และผู้ที่ต้องการอุปกรณ์เพื่อความบันเทิงประสิทธิภาพสูงได้จับจองกันเป็นเจ้าของแล้ว ซึ่งใครที่กำลังตัดสินใจอยู่ว่าแท็บเล็ตรุ่นนี้จะตอบโจทย์การเล่นเกมได้ดีแค่ไหนไปติดตามรีวิวกันก่อนได้ครับ

สเปก Alldocube iPlay 70 mini Ultra

ขนาด (สูง x กว้าง x หนา) 208.2 x 129.6 x 7.9 มม.
น้ำหนักประมาณ 335 กรัม (รวมแบตเตอรี่)
สีSpace Grey
หน้าจอแสดงผลIPS LCD ความละเอียด 2560 x 1600 พิกเซล (343PPI) 24bit ขนาด 8.8 นิ้ว อัตราส่วนความคมชัด 1500:1 และความสว่าง 500nit
โปรเซสเซอร์ ซีพียู Octa Core ความเร็ว 2.8GHz, ชิปเซ็ท Qualcomm Snapdragon 7+ Gen 3 (SM7675-AB), หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 732@950MHz และหน่วยประมวลผลระบบประสาท Qualcomm® Hexagon™ NPU
ระบบปฏิบัติการAndroid 14
หน่วยความจำและความจุRAM: 12GB
หน่วยความจำภายใน: 256GB
เพิ่มได้ด้วย microSD Card สูงสุด 1 TB
แบตเตอรี่3.8V/7300mAh (Li-Polymer) รองรับการชาร์จเร็ว PD 20W
กล้องกล้องหน้า: 5 MP

กล้องหลัง: 13 MP พร้อมไฟแฟลช LED
ระบบเสียงลำโพง Full-Box 2 ตัว พร้อมระบบเสียง DTS
รองรับเครือข่ายไม่สามารถใส่ซิมได้
รองรับการเชื่อมต่อ802.11 a/b/g/n/ac/ax Dual band (2.4GHz / 5GHz)
รองรับ Bluetooth 5.4
พอร์ต USB Type-C 3.1
ระบบเซ็นเซอร์Gravity sensor, Light sensor, Gyroscope, Motor
ราคา12,990 บาท พร้อมเคสใส, อะแดปเตอร์ และ Alldocube GamePad JoyStick รวมมูลค่า 2,597 บาท

อุปกรณ์ภายในกล่อง

Alldocube iPlay 70 mini Ultra มาในกล่องบรรจุภัณฑ์สี่เหลี่ยมผืนผ้าสีเทาด้านหน้ากล่องมีรูปตัวเครื่อง พร้อมระบุชิปเซ็ทที่ใช้ Snapdragon 7+ Gen 3, รองรับระบบเสียง DTS, สโลแกน UNLEASH THE BEAST และมีโลโก้ Alldocube สีเงินขนาดใหญ่อยู่ด้านบน

ด้านหลังกล่องระบุสเปกเด่นใช้ชิปเซ็ท Snapdragon 7+ Gen 3, หน้าจอขนาด 8.8 นิ้วความละเอียด 2.5K และมีอัตรารีเฟรช 144Hz, แบตเตอรี่ 7300mAh รองรับการชาร์จเร็วแบบ PD, ลำโพงคู่พร้อมระบบเสียง DTS, พอร์ต USB-C 3.1 และรองรับการต่อจอนอกแสดงผลระดับ 4K และด้านล่างมีข้อมูลผู้ผลิต พร้อม QR Code ช่องทางติดต่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ ของ ALLDOCUDE

เมื่อเปิดกล่องออกมาจะพบกับ Alldocube iPlay 70 mini Ultra สี Space Grey วางอยู่

โดยภายในกล่องจะมีสายชาร์จ USB-C, อุปกรณ์เปิดถาดใส่ microSD Card, คู่มือการใช้งาน และใบรับประกัน ส่วนเคสใส และตัวอะแดปเตอร์สำหรับชาร์จจะแยกมาอีกกล่อง

และ Alldocube iPlay 70 mini Ultra ยังมาพร้อมกับ Alldocube GamePad JoyStick ที่แถมมาให้ สำหรับต่อเป็นเครื่องเล่นเกมพกพา ทำให้เล่นเกมได้อย่างสนุกและเพลิดเพลิน

รูปลักษณ์ดีไซน์

Alldocube iPlay 70 mini Ultra ตัวเครื่องใช้วัสดุเป็นอลูมิเนียมแบบ Unibody ให้ความรู้สึกแข็งแรงทนทาน ดูพรีเมียมเกินราคา และระบายความร้อนได้ดี

โดยมีน้ำหนักเบาเพียง 335 กรัม และบาง 7.9 มิลลิเมตร ขนาดกะทัดรัด ทำให้การพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ทำได้อย่างสะดวกสบาย

การออกแบบโดยรวมมีความเรียบง่ายแต่แฝงไว้ด้วยความใส่ใจในรายละเอียด เช่น ปุ่ม Power สีแดงที่ตัดกับสีเทาเข้มของตัวเครื่องได้อย่างลงตัว อย่างไรก็ตาม จุดที่น่าสังเกตคือรุ่นนี้ ไม่มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. มาให้

ด้านหน้ามาพร้อมหน้าจอแสดงผลแบบ IPS LCD ความละเอียด 2.5K 2560 x 1600 พิกเซล (343PPI) ขนาด 8.8 นิ้ว โดยขอบหน้าจอมีความบาง ทำให้มีอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง (Screen-to-body ratio) สูงถึง 83% ซึ่งช่วยให้การแสดงผลดูเต็มตาและทันสมัย

และติดตั้งกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซลเอาไว้กึ่งกลางจอ (เมื่อถือเครื่องในแนวตั้ง) สำหรับถ่ายเซลฟี่ หรือใช้งานวิดีโอคอล

ด้านหลังของตัวเครื่องมีผิวสัมผัสแบบเรียบด้าน ช่วยลดการเกิดรอยนิ้วมือ ที่มุมซ้ายด้านบนมีโมดูลกล้องความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED ซึ่งนูนขึ้นมาจากตัวเครื่องเล็กน้อย ถัดลงมาตรงกลางด้านล่างมีโลโก้ Alldocube

ด้านซ้ายข้างตัวเครื่องมีช่องใ่ส่การ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD Card

ด้านขวาข้างตัวเครื่องมีปุ่ม Power สำหรับเปิดปิดเครื่อง กับปุ่มปรับเพิ่มลดระดับเสียง โดยปุ่ม Power จะมี สีแดง ตัดกับสีเทาของตัวเครื่องอย่างชัดเจน ซึ่งเป็นจุดเด่นเล็ก ๆ ที่ทำให้ดีไซน์ดูมีเอกลักษณ์และไม่เรียบจนเกินไป

ด้านบนของตัวเครื่องมีช่องลำโพงเสียง

ด้านล่างของตัวเครื่องมีช่องลำโพงเสียง และพอร์ต USB-C

ประสิทธิภาพ

ใช้งานไหลลื่น ด้วย Snapdragon® 7+ Gen 3 และ AI Chipset The “Mini 8 Gen 3”

Alldocube iPlay 70 mini Ultra ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 7+ Gen 3 ที่ผลิตบนสถาปัตยกรรม 4 นาโนเมตร ซึ่งให้ประสิทธิภาพที่ใกล้เคียงกับชิปเรือธงซีรีส์ 8 ในปีก่อน ๆ ทำให้ผลการทดสอบ Benchmark ออกมาน่าประทับใจมากสำหรับแท็บเล็ตในราคานี้

โดยเมื่อทดสอบประสิทธิภาพผ่านแอป AnTuTu ทำคะแนนรวมอยู่ที่ประมาณ 1.67 ล้านคะแนน ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงมากในกลุ่มแท็บเล็ตระดับกลาง และยืนยันถึงประสิทธิภาพที่พร้อมรับมือกับทุกการใช้งาน ตั้งแต่แอปพลิเคชันทั่วไปจนถึงเกมที่กินทรัพยากรสูงสุด

ในส่วนของซอฟต์แวร์ Alldocube iPlay 70 mini Ultra ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 14 ที่ครอบทับด้วย Alldocube OS 3.0L ซึ่งเป็น UI ที่ค่อนข้างใกล้เคียงกับ Android เดิม ๆ ไม่มีการติดตั้งแอปฯ ที่ไม่จำเป็น (Bloatware) มาให้รกเครื่อง

หน้าจอ IPS ความละเอียดสูง 2.5K ประสิทธิภาพสูงในทุกเฟรมระดับ Ultra

Alldocube iPlay 70 mini Ultra มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบ IPS LCD ความละเอียด 2.5K 2560 x 1600 พิกเซล ขนาด 8.8 นิ้ว ซึ่งให้ความหนาแน่นของพิกเซลที่ 343 PPI ภาพที่ได้จึงมีความคมชัดและรายละเอียดสูงมาก เหมาะสำหรับการเสพคอนเทนต์ความละเอียดสูง ขณะที่อัตราส่วนคอนทราสต์ 1500:1 ให้สีสันที่เข้มข้นและโทนสีดำเข้มเพื่อประสบการณ์การรับชมที่ดื่มด่ำอย่างแท้จริง

ยิ่งไปกว่านั้น ยังมาพร้อมกับอัตรารีเฟรชเรทที่สูงถึง 144Hz ทำให้การแสดงผลมีความลื่นไหลเนียนตาอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นการไถหน้าจอโซเชียลมีเดีย หรือการเล่นเกมที่รองรับเฟรมเรทสูง ความสว่างสูงสุด 500 nits เพียงพอสำหรับการใช้งานในที่ร่มและที่ที่มีแสงไม่จ้าจนเกินไป และยังรองรับ Widevine L1 ทำให้สามารถรับชมคอนเทนต์จาก Netflix และบริการสตรีมมิ่งอื่น ๆ ได้ที่ความละเอียด Full HD

Game Mode Features

Alldocube iPlay 70 mini Ultra มีฟีเจอร์ Game Mode เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเครื่อง
ในขณะเล่นเกมให้ลื่นไหล ไม่มีสะดุด

รวมถึงลดการแจ้งเตือนหรือปิดกั้นการรบกวนต่าง ๆ สามารถโฟกัสกับเกมได้เต็มที่ และปรับการจัดการทรัพยากรระบบให้เหมาะสมกับการเล่นเกม

เพิ่มประสบการณ์การเล่นเกมให้สมจริงด้วย Gyroscope, Gravity และ Brightness Sensors

สำหรับเซ็นเซอร์ที่ติดตั้งมาใน Alldocube iPlay 70 mini Ultra นั้น จะเน้นไปที่เซ็นเซอร์ที่จำเป็นต่อการใช้งานทั่วไปและเสริมประสบการณ์การเล่นเกมเป็นหลัก ประกอบด้วย

  • Gyroscope (ไจโรสโคป) เป็นเซ็นเซอร์ที่สำคัญมากสำหรับการเล่นเกม ใช้ตรวจจับการเคลื่อนไหวและการหมุนของตัวเครื่องในหลายแกน (6-Axis) ทำให้สามารถควบคุมเกมแนวแข่งรถ, เกมยิงปืน (ช่วยเล็ง) หรือเกมที่ต้องใช้การเอียงเครื่องได้อย่างแม่นยำ
  • Gravity Sensor (เซ็นเซอร์ตรวจจับแรงโน้มถ่วง / ความเร่ง) เซ็นเซอร์พื้นฐานที่ใช้ตรวจจับการเคลื่อนไหวและทิศทางของอุปกรณ์ ฟังก์ชันหลักที่เห็นได้ชัดคือการหมุนหน้าจออัตโนมัติ (auto-rotate) เมื่อผู้ใช้พลิกเครื่องระหว่างแนวตั้งและแนวนอน และยังใช้ในเกมบางประเภทเพื่อควบคุมการเคลื่อนที่อีกด้วย
  • Brightness Sensors (เซ็นเซอร์วัดแสง) ตรวจจับระดับแสงสว่างในสภาพแวดล้อมรอบๆ ตัวเครื่อง เพื่อใช้ในการปรับความสว่างของหน้าจอโดยอัตโนมัติ ช่วยให้หน้าจอสว่างพอดีกับการใช้งานและช่วยประหยัดแบตเตอรี่

รองรับความละเอียดวิดีโอระดับ 4K

นี่คือหนึ่งในฟีเจอร์เด่นที่ทำให้แท็บเล็ตรุ่นนี้มีความสามารถหลากหลายเกินราคา พอร์ต USB-C 3.1 ของ iPlay 70 mini Ultra นั้นรองรับฟังก์ชัน DisplayPort Alternate Mode

  • ต่อออกทีวีหรือมอนิเตอร์ 4K สามารถใช้สายแปลง “USB-C to HDMI” หรือ “USB-C to DisplayPort” เพื่อต่อภาพจากแท็บเล็ตขึ้นไปยังจอทีวีหรือมอนิเตอร์ที่มีความละเอียด 4K ได้
  • แสดงผลเต็มความละเอียด 4K ตัวเครื่องสามารถส่งสัญญาณภาพความละเอียด 4K แท้ๆ (3840 x 2160) ออกไปที่จอภายนอกได้ ทำให้สามารถใช้แท็บเล็ตเครื่องนี้เป็นเครื่องเล่นมีเดีย (Media Player) สำหรับดูหนัง Netflix, YouTube หรือไฟล์วิดีโอส่วนตัวบนจอใหญ่ได้อย่างเต็มอรรถรส

ระบบเสียง DTS พร้อมลำโพงคู่ให้เสียงรอบทิศทาง

Alldocube iPlay 70 mini Ultra ติดตั้งลำโพงมาให้ 2 ตัว (เรียกว่า BOX Dual Speakers) โดยจัดวางไว้ที่ขอบด้านบนและด้านล่างของตัวเครื่อง (เมื่อถือในแนวตั้ง) การออกแบบนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้เกิดมิติเสียงแบบ สเตอริโอซ้าย-ขวา ที่ชัดเจนเมื่อใช้งานในแนวนอน ซึ่งเป็นท่าที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการดูหนังและเล่นเกม และเพิ่มความคมชัดและพลังเบสให้หนักแน่นยิ่งขึ้นด้วย Smart PA amplifier

รวมทั้งรองระบบเสียง DTS ทำให้เสียงที่ได้มีมิติและความโอบล้อมที่ดีขึ้น โดยในตัวเครื่องจะมีแอปฯ สำหรับปรับแต่งเสียงของ DTS มาให้โดยเฉพาะ ผู้ใช้สามารถเข้าไปตั้งค่าต่าง ๆ ได้อย่างละเอียด

  • โหมดเสียง (Sound Modes) เลือกโปรไฟล์เสียงสำเร็จรูปที่เหมาะกับคอนเทนต์ต่าง ๆ เช่น โหมดดนตรี (Music), โหมดภาพยนตร์ (Movies), และโหมดเกม (Games)
  • อีควอไลเซอร์ (Equalizer) สำหรับผู้ที่ต้องการปรับแต่งย่านเสียงต่าง ๆ ด้วยตนเอง เพื่อให้ได้แนวเสียงที่ถูกใจที่สุด
  • การปรับทิศทางเสียง สามารถเลือกรูปแบบของเวทีเสียงได้ เช่น แบบกว้าง (Wide) หรือแบบด้านหน้า (In-front)

แบตอึด ใช้งานได้ต่อเนื่องหลายชั่วโมง

แบตเตอรี่ให้มาที่ความจุ 7,300 mAh ซึ่งถือว่าให้มาอย่างเพียงพอต่อการใช้งานตลอดวัน ไม่ต้องกลัวหมดกลางเกม ไม่ต้องชาร์จบ่อย สามารถใช้ฟังเพลงได้นานต่อเนื่อง 40 ชั่วโมง ดูวิดีโอต่อเนื่องได้ราว 16 ชั่วโมง วิดีโอสตรีมมิ่งได้ต่อเนื่อง 14 ชั่วโมง และเล่นเกมต่อเนื่องได้ประมาณ 5-7 ชั่วโมง โดยรองรับการชาร์จผ่านพอร์ต USB-C สามารถใช้ที่ชาร์จ PD 20W ชาร์จได้ และปลอดภัย แต่ความเร็วจะถูกจำกัดไว้ที่ 18W

ระบบระบายความร้อนขั้นสูง

Alldocube iPlay 70 mini Ultra ติดตั้งระบบระบายความร้อน Vapor Chamber Cooling System (ระบบระบายความร้อนแบบห้องไอระเหย) ที่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่มักพบในอุปกรณ์เกมมิ่งระดับไฮเอนด์ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถปลดปล่อยพลังของชิปเซ็ท Snapdragon 7+ Gen 3 ได้อย่างเต็มที่และต่อเนื่อง เล่นเกมหัวไม่ร้อน และช่วยถนอมแบตเตอรี่ ให้ใช้งานได้ยาวนานอีกด้วย

AI ที่ดียิ่งขึ้น

นอกเหนือจากสเปคที่โดดเด่นในด้านฮาร์ดแวร์แล้ว Alldocube iPlay 70 mini Ultra ยังมาพร้อมกับความสามารถด้าน AI ที่ทันสมัย โดยสามารถจัดการงานต่างๆ อย่างเช่น ใช้งาน Gemini Assistant ได้เร็วกว่า Snapdragon 6 Gen 1 เกือบ 2 เท่า ด้วยความสามารถของ NPU, CPU, GPU และหน่วยความจำที่ล้ำสมัย

บันทึกช่วงเวลาสำคัญได้อย่างคมชัด

Alldocube iPlay 70 mini Ultra ติดตั้งกล้องหน้า 5MP สำหรับการถ่ายเซลฟี่ที่คมชัด

ส่วนกล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED ถ่ายภาพและวิดีโอที่คมชัด

สนุกทุกแมตช์กับ Gaming set

Alldocube iPlay 70 mini Ultra ถูกออกแบบมาให้เป็นแท็บเล็ตสำหรับเล่นเกมที่ทรงพลัง จึงมาพร้อมกับ Alldocube GamePad JoyStick ที่แถมมาให้ สำหรับต่อเป็นเครื่องเล่นเกมพกพา เพิ่มอรรถรส ทำให้เล่นเกมได้อย่างสนุกและเพลิดเพลินมากยิ่งขึ้น โดยเชื่อมต่อผ่านพอร์ต USB-C

ประสิทธิภาพการเล่นเกมที่เหนือกว่า


เพลิดเพลินกับการเล่นเกมที่เหนือระดับด้วยประสิทธิภาพที่ปรับแต่งมาอย่างดี รับประกันการเล่นเกมที่ราบรื่นและอัตราเฟรมที่เสถียร เพื่อประสบการณ์ที่ดื่มด่ำ โดยรองรับเกม PUBG, FREE FIRE, ROV, FC Mobile, Genshin Impact, ASPHALT 9, Call Of Duty เป็นต้น โดยมีค่าเฉลี่ย 60-90FPS

บทสรุป

Alldocube iPlay 70 mini Ultra ถือเป็นแท็บเล็ตที่ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ตทรงพลังอย่าง Snapdragon 7+ Gen 3 ซึ่งให้ประสิทธิภาพในระดับไฮเอนด์ เล่นเกมกราฟิกหนักก็ลื่นไม่มีสะดุด พร้อมหน้าจอขนาด 8.8 นิ้ว ความละเอียดสูง 2.5K และอัตรารีเฟรช 144Hz แตะยังไงก็ทัน จอลื่น ยิงไวไม่มีดีเลย์ และลำโพงคู่พร้อมระบบ DTS ที่ให้เสียงคมชัด สมจริง เล่นเกมมันส์ยิ่งกว่าเดิม

นอกจากนี้หน้าจอยังมีความละเอียด 2.5K คมชัด สีสด ขนาด 8.8 นิ้ว กำลังพอดี เล่นเกม ดูหนัง หรืออ่านก็เต็มตา มาพร้อมแบตเตอรี่ 7,300mAh ใช้ได้ทั้งวันไม่ต้องกลัวหมดกลางเกม ไม่ต้องชาร์จบ่อย รวมถึงดีไซน์พรีเมียม เบาเพียง 335 กรัม พกง่าย บอดี้โลหะ ทนทานงานประกอบแน่น และมีระบบระบายความร้อน ช่วยถนอมแบตเตอรี่ให้ใช้งานได้ยาวนาน

Alldocube iPlay 70 mini Ultra จึงเหมาะสำหรับผู้ที่กำลังมองหาแท็บเล็ต Android ขนาดกะทัดรัดที่ให้ความสำคัญสูงสุดกับ “ประสิทธิภาพ” และ “คุณภาพหน้าจอ” โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคอเกม หรือผู้ที่ต้องการอุปกรณ์เพื่อความบันเทิงแบบพกพาที่ทรงพลัง ในราคาที่ไม่สูงจนเกินไป นี่คือตัวเลือกที่โดดเด่นและยากที่จะหาคู่แข่งในระดับราคาเดียวกันได้ในขณะนี้

ทั้งนี้ Alldocube iPlay 70 mini Ultra ราคา 12,990 บาท แถมฟรีเคสใสมูลค่า 299 บาท, หัวชาร์จมูลค่า 299 บาท และ Alldocube GamePad JoyStick มูลค่า 1,999 บาท พร้อมรับประกัน 12 เดือน

เสียส่งซ่อมโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ทั้งออนไลน์ หรือ realme Service 17 สาขาทั่วประเทศ จัดจำหน่ายที่ True , BaNANA และร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศใกล้บ้านคุณ หรือสั่งซื้อออนไลน์ได้ง่าย ๆ ผ่านทาง

SHOPEE
Alldocube_Official Store :
https://th.shp.ee/YP89bXU

LAZADA
Alldocube Thailand :
https://s.lazada.co.th/s.AkLwq

TIKTOK
Alldocube Thailand : https://vt.tiktok.com/ZSHnVXPeWSLko-ADlaT/


#Alldocube

#iPlay70miniUltra

#แรงเต็มสปีดเกมไหนก็โดน