คลังเก็บ

เปิดตัว realme 13 5G และ realme 13+ 5G มาพร้อมจอ 120Hz, กล้อง 50MP OIS และแบตเตอรี่ 5,000mAh

ก่อนหน้านี้ realme ได้เปิดตัว realme 13 Pro Series 5G ซึ่งประกอบด้วย realme 13 Pro 5G และ realme 13 Pro+ 5G รวมถึง realme 13 4G ที่อินเดียเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา

ล่าสุดได้เปิดตัว realme 13 Series 5G ซึ่งประกอบด้วย realme 13 5G และ realme 13+ 5G รุ่นใหม่เข้าสู่ครอบครัวตระกูล Number 13 Series อย่างเป็นทางการแล้ว

สเปก realme 13 5G

realme 13 5G

ตัวเครื่องมีขนาด 165.6 x 76.1 x 7.8 มม. และน้ำหนัก 190 กรัม หน้าจอแสดงผลจอแบนแบบ IPS LCD ความละเอียด FHD+ 1080 x 2400 พิกเซล ขนาด 6.72 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9 โดยมีอัตรารีเฟรชเรท 120Hz และความสว่าง 580nits

ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.4GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Mediatek Dimensity 6300 (6 nm), หน่วยประมวลผลกราฟิก Mali-G57 MC2 จับคู่กับ RAM 8GB แบบ LPDDR4X, หน่วยความจำภายใน 128GB/256GB แบบ UFS 3.1 และรันบนระบบปฎิบัติการ Android 14 ครอบทับด้วย realme UI 5.0

ติดตั้งกล้องหลังคู่ AI Dual Camera พร้อมไฟแฟลช LED ประกอบด้วย

  • กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony LYT-600 รูรับแสง f/1.9, 26mm (wide), 1/1.95″, ระบบ PDAF และระบบกันสั่น OIS
  • กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4

ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.5, 24mm (wide), 1/3.0″

รวมทั้งติดตั้งลำโพงคู่สเตอริโอ, ติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านข้างเครื่อง, รองรับการกันน้ำกันฝุ่น IP64, ระบบระบายความร้อน 7 ชั้นที่รวมถึงห้องระเหย (ขนาด 4,392 มม.²), รองรับ 2 SIM, รองรับ 4G LTE/5G dual band (SA/NSA),

Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, Bluetooth 5.3, ช่องหูฟัง 3.5 มม., พอร์ต USB Type-C และใช้แบตเตอรี่ความจุ 5,000mAh รองรับชาร์จไว 45W ชาร์จ 1-50% ภายใน 30 นาที

ทั้งนี้ realme 13 5G มีให้เลือกทั้งหมด 2 สี ได้แก่ Speed Green และ Dark Purplen โดยวางจำหน่ายที่ประเทศอินเดียในวันที่ 6 กันยายนผ่านทาง realme.com และ Flipkart

ในราคาเริ่มต้น 17,999 รูปีหรือประมาณ 7,290 บาทสำหรับรุ่น RAM 8GB+128GB และ 19,999 รูปีหรือประมาณ 8,100 บาทสำหรับรุ่น RAM 8GB+256GB

สเปก realme 13+ 5G

ตัวเครื่องมีขนาด 161.7 x 74.7 x 7.6 มม. และน้ำหนัก 185 กรัม หน้าจอแสดงผลจอแบนแบบ AMOLED ความละเอียด FHD+ 1080 x 2400 พิกเซล ขนาด 6.67 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9 โดยมีอัตรารีเฟรชเรท 120Hz, รองรับ HDR10+ และความสว่างสูงสุด 2,000nits

ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.5GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Mediatek Dimensity 7300 Energy (4 nm) รุ่นแรกของโลก, หน่วยประมวลผลกราฟิก Mali-G615 MC2 พร้อมการจัดการพลังงานที่ได้รับการปรับปรุงและหน่วยประมวลผลประสาทเฉพาะ MediaTek NPU 655

จับคู่กับ RAM 8GB/12GB แบบ LPDDR4X, หน่วยความจำภายใน 128GB/256GB แบบ UFS 3.1 และรันบนระบบปฎิบัติการ Android 14 ครอบทับด้วย realme UI 5.0

ติดตั้งกล้องหลัง 3 ตัว AI Triple Camera พร้อมไฟแฟลช LED ประกอบด้วย

  • กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony LYT-600 รูรับแสง f/1.9, 26mm (wide), 1/1.95″, ระบบ PDAF และระบบกันสั่น OIS
  • กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
  • กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4

ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.5, 24mm (wide), 1/3.0″

รวมทั้งติดตั้งลำโพงคู่สเตอริโอ, ติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือฝังใต้หน้าจอ, รองรับการกันน้ำกันฝุ่น IP65, ระบบระบายความร้อน 7 ชั้นที่รวมถึงห้องระเหย (ขนาด 4,392 มม.²), รองรับ 2 SIM, รองรับ 4G LTE/5G dual band (SA/NSA),

Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6, dual-band, Bluetooth 5.4, NFC, ช่องหูฟัง 3.5 มม., พอร์ต USB Type-C และใช้แบตเตอรี่ความจุ 5,000mAh รองรับชาร์จไว 80W ชาร์จ 1-50% ภายใน 19 นาที

ทั้งนี้ realme 13+ 5G มีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ Victory Gold, Speed Green และ Dark Purple โดยวางจำหน่ายที่ประเทศอินเดียในวันที่ 6 กันยายนผ่านทาง realme.com และ Flipkart

ในราคาเริ่มต้น 22,999 รูปีหรือประมาณ 9,310 บาทสำหรับรุ่น RAM 8GB+128GB, ราคา 24,999 รูปีหรือประมาณ 10,120 บาทสำหรับรุ่น RAM 8GB+256GB และราคา 26,999 รูปีหรือประมาณ 10,930 บาทสำหรับรุ่น RAM 12GB+256GB

ที่มา : Gsmarena