หลังจากหยุดผลิตไป 3 ปี OnePlus ก็กลับมาผลิตสมาร์ตโฟนตระกูล T Series อีกครั้งกับ OnePlus 13T ซึ่งรุ่นใหม่นี้ไม่ใช่แค่การเพิ่มสเปกเท่านั้น แต่ยังเป็นการนำ OnePlus 13 มาปรับโฉมใหม่โดยสิ้นเชิง โดยเน้นที่หลักสรีรศาสตร์
สมาร์ตโฟนพรีเมียมขนาดกะทัดรัดรุ่นนี้เปิดตัวในประเทศจีนและคาดว่าจะเปิดตัวทั่วโลกในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
สเปก OnePlus 13T

ตัวเครื่องมีขนาด 150.8 x 71.7 x 8.2 มม. และน้ำหนัก 185 กรัม หน้าจอแสดงผล Punch Hole Display แบบ LTPO AMOLED 1 พันล้านสี ความละเอียด 1216 x 2649 พิกเซล ขนาด 6.32 นิ้ว ในอัตราส่วน 19.5:9
โดยมีอัตรารีเฟรชเรทแบบปรับได้ 1-120Hz, รองรับ Dolby Vision, รองรับ HDR10+, ความสว่างสูงสุด 1,600nits และครอบทับด้วยกระจกกันรอยซุปเปอร์เซรามิก Crystal Shield Glass

ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 4.32GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Qualcomm SM8750-AB Snapdragon 8 Elite (3 nm), หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 830, RAM 12GB/16GB แบบ LPDDR5, หน่วยความจำภายใน 256GB/512GB/1TB แบบ UFS 4.0 และรันบนระบบปฎิบัติการ Android 15 ครอบทับด้วย ColorOS 15 (จีน), OxygenOS 15 (ตลาดโลก)

ติดตั้งกล้องหลังคู่ Dual Camera พร้อมไฟแฟลช LED ประกอบด้วย
- กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX906 รูรับแสง f/1.8, 24mm (wide), 1/1.56″, 1.0µm, ระบบ multi-directional PDAF และระบบกันสั่น OIS
- กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Telephoto ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0, 1/2.76″, 0.64µm, ระบบ PDAF และซูมออปติคอล 2x
ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่ ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4, 24mm (wide)

นอกจากนี้ปุ่ม Alert Slider ที่เป็นเอกลักษณ์ถูกแทนที่ด้วย “ปุ่มลัด” ซึ่งสามารถสลับระหว่างโปรไฟล์เสียงได้ และยังสามารถตั้งโปรแกรมได้ ดังนั้นผู้ใช้จึงสามารถเปิดปุ่มลัดและแอปอื่น ๆ ได้

รวมทั้งรองรับการกันน้ำกันฝุ่น IP65, ติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือฝังใต้หน้าจอแบบออปติคัล, ระบบระบายความร้อน VC 4,400mm², ลำโพงคู่สเตอริโอ, รองรับ 2 SIM, รองรับ 4G/5G แบบ Dual Mode (SA และ NSA),
Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6/7, dual or tri-band, Wi-Fi Direct, ฺBluetooth 5.4, NFC, พอร์ตอินฟราเรด, พอร์ต USB Type-C และใช้แบตเตอรี่ความจุ 6,260mAh ที่ใช้ชิปซิลิคอนคาร์บอน รองรับชาร์จไว 80W และชาร์จแบบย้อนกลับ 5W

ทั้งนี้ OnePlus 13T มีให้เลือก 3 สีคือ สีเทา สีชมพู และสีดำ เปิดให้สั่งจองที่ประเทศจีนแล้ววันนี้ และจะเริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 30 เมษายน 2568 โดยรุ่นพื้นฐาน RAM 12+256GB ราคา 3,399 หยวนหรือประมาณ บาท ส่วนรุ่นท็อป RAM 16GB+1TB ราคา 4,499 หยวนหรือประมาณ บาท
ที่มา : Gsmarena