คลังเก็บ

เปิดตัว Infinix GT 30 Pro มาพร้อมชิป Dimensity 8350 Ultimate, จอ 144Hz และปุ่ม GT triggers

Infinix ประกาศเปิดตัว Infinix GT 30 Pro เกมมิ่งสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ตระกูล GT Series อย่างเป็นทางการ ซึ่งมุ่งเป้าไปที่เกมเมอร์และผู้ใช้ระดับพาวเวอร์ที่มองหาประสิทธิภาพระดับพรีเมียมในกลุ่มราคาที่สามารถแข่งขันได้

GT 30 Pro ได้รับการออกแบบโดยเน้นที่ความเป็นเลิศของหน้าจอ ส่วนประกอบภายในที่ทรงพลัง และการผสานรวม AI โดยมาพร้อมกับ GT 30 Pro Gaming Master Edition ซึ่งมาพร้อมกับอุปกรณ์เสริมสำหรับการเล่นเกมเพื่อประสบการณ์ระบบนิเวศที่สมบูรณ์

สเปก Infinix GT 30 Pro

ตัวเครื่องมาพร้อมกับดีไซน์ Cyber ​​Mecha Design 2.0 พร้อมเส้นสายที่ดูดุดันที่ด้านหลังพร้อมด้วยแสง RGB โดยมีขนาด 163.7 x 75.8 x 8 มม. และน้ำหนัก 189 กรัม

หน้าจอแสดงผล Punch Hole Display แบบ AMOLED 1 พันล้านสี ความละเอียด 1224 x 2720 พิกเซล ขนาด 6.78 นิ้ว อัตราส่วน 20:9, อัตราส่วนจอต่อเครื่อง 89.4%

โดยมีอัตรารีเฟรชเรท 144Hz และโหมดรีเฟรชแบบปรับได้หลายโหมด (60/90/120/144Hz), อัตราการสุ่มตัวอย่างแบบสัมผัสทันที 2160Hz, ความสว่างสูงสุด 4,500nits, รองรับการลดแสง PWM ความถี่สูง 2304Hz, ขอบเขตสี DCI-P3 WIDE COLOR GAMUT

รวมทั้งได้รับการรับรองจาก TÜV Rheinland ว่าไม่มีแสงสีฟ้าและใช้งานได้โดยไม่มีการกระพริบ ในด้านความทนทาน อุปกรณ์นี้มาพร้อมการป้องกันหน้าจอด้วยกระจกกันรอย Gorilla Glass 7i และการป้องกันฝุ่นและน้ำระดับ IP64

ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 3.35GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Mediatek Dimensity 8350 Ultimate (4 nm), หน่วยประมวลผลกราฟิก Mali G615-MC6 จับคู่กับ RAM 8GB/12GB แบบ LPDDR5X และหน่วยความจำภายใน 256GB/512GB แบบ UFS 4.0

และรันบนระบบปฎิบัติการ Android 15 ครอบทับด้วย XOS 15 โดยมาพร้อมกับชุด Infinix AI ที่ขับเคลื่อนโดย Folax และ DeepSeek R1 และจะได้รับการอัปเกรดระบบปฏิบัติการ Android 2 ปีและการอัปเดตแพตช์ความปลอดภัยเป็นเวลา 3 ปี

ติดตั้งกล้องหลังคู่ Dual Camera พร้อมไฟแฟลชคู่ Dual-LED ประกอบด้วย

  • กล้องหลักความละเอียด 108 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.9, (wide) และระบบ PDAF
  • กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2, ระบบ AF และถ่ายมุมกว้างได้ 111 องศา

ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่ ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2, (wide)

สมาร์ตโฟนรุ่นนี้ผสาน XBoost Gaming Engine ของ Infinix และระบบระบายความร้อนด้วยของเหลว VC พร้อมการตรวจจับความร้อนด้วย AI เพื่อควบคุมอุณหภูมิที่ดีขึ้นระหว่างเซสชันการเล่นเกมที่เข้มข้น

และเพื่อการเล่นเกมที่ดียิ่งขึ้น สมาร์ตโฟนรุ่นนี้ยังมาพร้อมกับปุ่ม GT Triggers สำหรับเล่นเกมและมอเตอร์เชิงเส้นแกน X โดยได้รับการรับรองว่ารองรับประสบการณ์การเล่นเกม 120fps บนเกมต่าง ๆ เช่น PUBG Mobile และ MLBB

รวมทั้งติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือฝังใต้หน้าจอแบบออปติคอล, ติดตั้งลำโพงสเตอริโอคู่ JBL, รองรับ 2 SIM, รองรับ 4G LTE/5G Dual Band (SA/NSA),

Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6, dual-band, Wi-Fi Direct, Bluetooth 5.4, พอร์ต USB Type-C, พอร์อินฟราเรท, NFC, วิทยุ FM และแบตเตอรี่ความจุ 5,500mAh พร้อมรองรับชาร์จไว 45W, รองรับการชาร์จแบบไร้สาย 30W และการชาร์จแบบย้อนกลับ 10W

นอกจากนี้ Infinix ได้เปิดตัว GT 30 Pro Gaming Master Edition ซึ่งประกอบด้วย MagCharge Cooler และ MagCase โดย MagCharge Cooler จะติดแม่เหล็กที่ด้านหลังเพื่อระบายความร้อนด้วยพัดลมพร้อมการควบคุมแรงดันไฟฟ้าอัจฉริยะ และยังเปิดใช้งานโหมด Draco ซึ่งรองรับการชาร์จและระบายความร้อนแบบไร้สายพร้อมกันได้ด้วย

MagCase สร้างขึ้นโดยใช้วัสดุที่ระบายความร้อนได้ และเข้ากันได้ดีกับอุปกรณ์เสริมสำหรับเล่นเกมแบบแม่เหล็ก เครื่องมือเหล่านี้ช่วยลดการระบายความร้อนและช่วยรักษาประสิทธิภาพสูงสุดระหว่างการเล่นเกมแบบมาราธอน

GT 30 Pro ยังเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ GT Verse ที่กว้างขึ้นของ Infinix ซึ่งเป็นระบบนิเวศที่ขยายตัวซึ่งรวมถึงแท็บเล็ตสำหรับเล่นเกม XPAD GT หูฟังไร้สาย GT buds 4 และอุปกรณ์เสริม GT Power (พาวเวอร์แบงค์) ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ได้รับการออกแบบมาให้ทำงานร่วมกับสมาร์ทโฟนซีรีส์ GT ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างการตั้งค่าการเล่นเกมบนมือถือแบบบูรณาการได้

ทั้งนี้ Infinix GT 30 Pro มีให้เลือก 3 สีคือ Blade White, Shadow Ash และ Dark Flare (มีเฉพาะรุ่น Gaming Master Edition) โดยจะวางจำหน่ายในรุ่น RAM 8GB+256GB, RAM 12GB+256GB และ RAM 12GB+512GB

โดย Infinix จะประกาศราคาและการวางจำหน่ายในแต่ละภูมิภาคตามกำหนดการเปิดตัวในแต่ละพื้นที่ อย่างไรก็ตาม ในมาเลเซีย รุ่น RAM 12GB+256GB และ RAM 12GB+512GB มีราคาอยู่ที่ 1,299 ริงกิตมาเลเซียหรือประมาณ บาท และ 1,499 ริงกิตมาเลเซียหรือประมาณ บาท

ที่มา : Gizmochina