วันนี้ CMF แบรนด์ลูกของบริษัทเทคโนโลยีจากลอนดอน Nothing ได้ประกาศเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ 4 รายการ ได้แก่ CMF Phone 2 Pro, Buds 2, Buds 2 Plus และ Buds 2a
CMF Phone 2 Pro
CMF Phone 2 Pro สมาร์ตโฟนสําหรับการใช้งานประจําวัน ด้วยประสิทธิภาพชั้นนําคุ้มค่าเกินกว่าราคากลุ่มสินค้า พร้อมกล้องระดับโปรแบบ 4 ตัว หน้าจอสว่างสดใส และดีไซน์พรีเมียม โดดเด่นด้วยความเป็นเอกลักษณ์ ทรงพลัง และ สนุกสนาน พร้อมดีไซน์ที่พัฒนาอย่างประณีต
นี่เป็นตัวเครื่องที่บางและเบาที่สุดเท่าที่ Nothing เคยผลิตมา มีความบางเพียง 7.8 มม. นํ้าหนักเพียง 185 กรัม บางกว่า CMF Phone 1 ถึง 5% ดีไซน์หรูหราด้วยกรอบกล้องอะลูมิเนียม พัฒนาจากรุ่นแรก พร้อมน็อตสแตนเลสที่เผยให้เห็น ความใส่ใจในงานฝีมือ เพิ่มความทนทานต่อการใช้งานด้วยมาตรฐานกันนํ้า IP54 (เที่ยบกับรุ่นก่อนหน้า IP52)
CMF Phone 2 Pro มี 4 สี ได้แก่ ขาว, ดํา, ส้ม และเขียวอ่อน โดยสีดําและเขียวอ่อนใช้พื้นผิวกระจกแบบด้าน พร้อม กรอบโลหะ สีขาวมีผิวสัมผัสแบบหินทรายให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ ส่วนสีส้มมาพร้อมประกายโลหะสดใส สะท้อน เอกลักษณ์ใหม่ที่มีความพรีเมียมยิ่งขึ้นจากรุ่นแรก
ระบบกล้องสี่ตัวขั้นสูง ประกอบด้วยกล้องหลัก 50 MP พร้อมเซนเซอร์ขนาดใหญ่ที่สุดในกลุ่มสินค้า รับแสงได้มากกว่า รุ่นก่อนถึง 64% พร้อมเลนส์เทเลโฟโต้ที่สามารถซูมดิจิทัลได้สูงสุด 20x (โดยใช้เลนส์ 6 ชั้น) เป็นสมาร์ตโฟนเพียงรุ่น เดียวในกลุ่มราคานี้ที่มีเลนส์เทเลโฟโต้ อีกทั้งยังมีกล้องอัลตร้าไวด์ 8 MP และกล้องหน้า 16 MP สําหรับเซลฟี่คมชัด
ขับเคลื่อนด้วยชิป MediaTek Dimensity 7300 Pro 5G รุ่นใหม่ล่าสุด พร้อม CPU 8 คอร์ ความเร็วสูงสุด 2.5 GHz เร็ว กว่า CMF Phone 1 ถึง 10% และกราฟิกดีขึ้น 5% ใช้เทคโนโลยีการผลิตระดับ 4 นาโนเมตรจาก TSMC เพื่อ ประสิทธิภาพสูงและประหยัดพลังงาน
แบตเตอรี่ขนาด 5000 mAh ใช้งานได้ทั้งวันหลังการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง นานกว่ารุ่นก่อนถึง 1 ชั่วโมง
หน้าจอใหญ่ที่สุดในไลน์ CMF ขนาด 6.77 นิ้ว แบบ FHD+ Flexible AMOLED รองรับสีมากถึง 1.07 พันล้านสี (มาก กว่ารุ่นก่อนถึงเกือบ 1 พันล้านสี) ความสว่างสูงสุด 3000 nits (สูงกว่ารุ่นก่อน 50%) พร้อม Ultra HDR เพิ่มความสดใส ให้ภาพ
ประสบการณ์การใช้งานลื่นไหลด้วย Touch Sampling Rate สูงถึง 1000 Hz (เพิ่มขึ้น 316% จากรุ่นก่อน) และ Adaptive Refresh Rate 120 Hz
ยังคงจุดเด่นด้านโมดูลาร์ ด้วยอุปกรณ์เสริมใหม่ 3 ชิ้น ได้แก่ Universal Cover, เลนส์เสริม (Fisheye และ Macro)
และ กระเป๋าสตางค์/ขาตั้ง พร้อมรองรับการชําระเงินแบบไร้สัมผัสผ่าน NFC แล้วในรุ่นนี้
CMF Audio
สําหรับสายเสียง CMF เปิดตัวไลน์ผลิตภัณฑ์หูฟังใหม่ ที่ตอบโจทย์ทุกงบประมาณและทุกสไตล์การฟัง โดยเน้นสมดุล ระหว่างประสิทธิภาพ ดีไซน์ และการปรับแต่งเสียงได้ตามใจ
CMF Buds 2
Buds 2 เป็นเพื่อนคู่ใจสําหรับการใช้งานประจําวัน ที่ผสานคุณภาพเสียง ความสบาย และฟีเจอร์อัจฉริยะเข้าไว้ด้วยกัน มาพร้อมการปรับแต่งเสียงด้วย Dirac Opteo™ ระบบตัดเสียงรบกวนแบบไฮบริด 48dB และเอฟเฟกต์เสียงรอบทิศทาง (Spatial Audio Effect) เพื่อยกระดับประสบการณ์การฟังให้ใส คมชัด และเต็มไปด้วยมิติที่สมจริง
CMF Buds 2 Plus (เข้าเฉพาะบางตลาด)
Buds 2 Plus เหมาะสําหรับผู้ที่ต้องการประสบการณ์เสียงขั้นสุดยอด มาพร้อมการรองรับ Hi-Res LDAC, ระบบชดเชย การได้ยิน (Hearing Compensation) และฟังก์ชันปรับแต่ง EQ แบบเต็มรูปแบบ เพื่อมอบเสียงที่มีความสมดุลและ สามารถปรับให้เหมาะกับโปรไฟล์การได้ยินเฉพาะบุคคล
CMF Buds 2a
Buds 2a คือหูฟังเริ่มต้นที่ให้เสียงใสชัดในราคาที่เข้าถึงได้ ตัวเครื่องออกแบบมาให้มีนํ้าหนักเบา พร้อมระบบตัดเสียง รบกวน 42dB ไดรเวอร์ไบโอไฟเบอร์ขนาด 12.4 มม. และเสียงเบสแน่นลึก รองรับการฟังเพลงได้ตลอดทั้งวันอย่างเต็ม อิ่ม
ราคาและการวางจําหน่าย
- CMF Phone 2 Pro มี 2 รุ่นให้เลือกใน 3 สี ดํา / ขาว / ส้ม:
- 8 + 128GB ในราคา 8,999 บาท
- 8 + 256GB ในราคา 9,999 บาท
- CMF Buds 2 วางขายในสี เทาเข้ม / เทาอ่อน / ส้ม ที่ราคา 1,899 บาท
- CMF Buds 2a วางขายในสี เทาเข้ม / เทาอ่อน / ส้ม ที่ราคา 1,499 บาท
โดยจะพร้อมวางจําหน่ายในประเทศไทยช่วงปลายเดือนพฤษภาคมนี้ รอติดตามได้ที่
- ช่องทางออนไลน์
- ร้านค้าที่วางจําหน่าย
- Nothing Store ที่ TECHHOUSE by Dotlife ชั้น 2 ศูนย์การค้า One Bangkok
- JayMart
- AIS
- Dotlife
- BaNANA (เฉพาะหูฟัง)
- Powermall (เฉพาะหูฟัง)
- Munkong Gadget (เฉพาะหูฟัง)
ติดตามข่าวสารล่าสุดของ CMF by Nothing ได้ที่ Instagram และ X.
เกี่ยวกับ CMF by Nothing
CMF เป็นแบรนด์ลูกของ Nothing บริษัทเทคโนโลยีจากลอนดอน ก่อตั้งขึ้นในเดือนกันยายน 2023 มีเป้าหมายเพื่อ ทําให้ดีไซน์ยอดเยี่ยมเข้าถึงได้มากขึ้น เน้นผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีที่สวยงาม ใช้งานง่าย และไม่ลดทอนฟังก์ชันหลัก สําหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดเยี่ยมชมที่ nothing.tech