คลังเก็บ

Apple เผยโฉม Apple Watch Series 8 และ Apple Watch SE ใหม่ เริ่มต้นที่ 15,900 บาท และ 9,900 บาท

Apple เผยโฉม Apple Watch Series 8 และ Apple Watch SE ใหม่ที่นำเทคโนโลยีและประสิทธิภาพสุดล้ำ พร้อมด้วยนวัตกรรมด้านความปลอดภัยที่สำคัญมาสู่สมาร์ทวอทช์สองรุ่นที่ขายดีที่สุดในโลก

Apple Watch Series 8 มาพร้อมดีไซน์อันเป็นที่รักของ Apple Watch รวมทั้งจอภาพ Retina ขนาดใหญ่แบบติดตลอด และด้านหน้าแบบคริสตัลที่ทนการแตกร้าวได้ดีเยี่ยม

Apple Watch Series 8 ใช้ประโยชน์จากแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ตลอดวันถึง 18 ชั่วโมง และพัฒนาต่อยอดจากคุณสมบัติด้านสุขภาพและความปลอดภัยที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรมอย่างแอป ECG และคุณสมบัติการตรวจจับการล้มด้วยการนำเสนอความสามารถใหม่ๆ ในการติดตามค่าอุณหภูมิ การคาดคะเนช่วงไข่ตกจากข้อมูลย้อนหลัง การตรวจจับการชน และการใช้งานโรมมิ่งในต่างประเทศ

ขณะที่ Apple Watch SE ใหม่ยังคงมาพร้อมประสบการณ์หลักของ Apple Watch ซึ่งรวมถึงการติดตามกิจกรรม การแจ้งเตือนอัตราการเต้นของหัวใจเร็วหรือช้า และ SOS ฉุกเฉิน ตลอดจนคุณสมบัติใหม่ๆ อย่างการตรวจจับการชนกันและฝาหลังตัวเรือนที่ออกแบบมาใหม่หมดให้เข้ากับตัวเรือนแบบคลาสสิกทั้งสามแบบได้อย่างลงตัว ทั้งหมดนี้มาในราคาที่เอื้อมถึงได้เพียง 9,900 บาท

Apple Watch ทั้งสองรุ่นขับเคลื่อนโดย watchOS 9 และมาพร้อมหน้าปัดนาฬิกาใหม่ๆ ที่ปรับแต่งได้มากขึ้น เช่น หน้าปัดจันทรคติและมหานคร แอปออกกำลังกายที่ดียิ่งขึ้น ระยะของการนอนหลับ คุณสมบัติประวัติภาวะ AFib ที่ไม่เคยมีมาก่อน และแอปติดตามการทานยาแบบใหม่หมด

Apple Watch Series 8
Apple Watch Series 8 และ Apple Watch SE ใหม่นำเทคโนโลยีใหม่สุดล้ำมาสู่สมาร์ทวอทช์สองรุ่นที่ขายดีที่สุดในโลก

“เราได้ยินเรื่องราวจากลูกค้าว่า Apple Watch ช่วยให้พวกเขาต่อติดกับคนที่รัก แอ็คทีฟมากขึ้น และใช้ชีวิตที่มีสุขภาพดีขึ้นอย่างไรบ้าง” Jeff Williams, Chief Operating Officer ของ Apple กล่าว

“Apple Watch Series 8 ช่วยตอกย้ำความมุ่งมั่นของเราในด้านเหล่านี้ด้วยการเพิ่มเทคโนโลยีที่ไม่เคยมีมาก่อน ในขณะที่ Apple Watch SE ก็มาพร้อมคุณสมบัติหลักที่ล้ำหน้าขึ้นในราคาเริ่มต้นใหม่ และเมื่อรวมกับขุมพลังของ watchOS 9 สมาร์ทวอทช์ที่ดีที่สุดจึงมากความสามารถยิ่งกว่าที่เคย”

Apple Watch SE ใหม่ที่ขับเคลื่อนโดย watchOS 9 มาพร้อมหน้าปัดที่ปรับแต่งได้มากขึ้น แอปออกกำลังกายที่ดียิ่งขึ้น และอีกมากมาย

การติดตามค่าอุณหภูมิบนข้อมือเพื่อสุขภาพของผู้หญิง

รอบเดือนของผู้หญิงเป็นเครื่องบ่งชี้ด้านสุขภาพที่สำคัญ และแพทย์หลายคนยังมองว่ารอบเดือนเป็นสัญญาณชีพอย่างหนึ่งด้วย Apple Watch Series 8 จึงมาพร้อมความสามารถในการติดตามค่าอุณหภูมิแบบใหม่ที่ช่วยให้ผู้หญิงมีข้อมูลที่ละเอียดยิ่งขึ้นเกี่ยวกับสุขภาพของตนเอง โดยคุณสมบัตินี้ยังคงได้รับการออกแบบมาให้มีความเป็นส่วนตัวเช่นเดียวกับข้อมูลด้านสุขภาพอื่นๆ ทั้งหมด1

Apple Watch Series 8 ใช้วิธีติดตามค่าอุณหภูมิที่มีความพิเศษด้วยดีไซน์เซ็นเซอร์แบบสองตัวเพื่อช่วยลดความเบี่ยงเบนจากสภาพแวดล้อมภายนอก โดยเซ็นเซอร์ตัวหนึ่งจะอยู่ที่ด้านหลังของนาฬิกาซึ่งใกล้กับผิวหนังที่สุด และเซ็นเซอร์อีกตัวจะอยู่ใต้จอภาพ

ดีไซน์ใหม่แบบพิเศษที่มาพร้อมเซ็นเซอร์แบบสองตัวช่วยให้ Apple Watch Series 8 สามารถบันทึกอุณหภูมิบนข้อมือได้ ขณะเดียวกันก็ยังช่วยลดความเบี่ยงเบนจากสภาพแวดล้อมภายนอกและจากร่างกายของผู้ใช้อีกด้วย

อุณหภูมิจากข้อมือในเวลากลางคืนสามารถเป็นตัวบ่งชี้อุณหภูมิโดยรวมของร่างกายได้เป็นอย่างดี โดยเซ็นเซอร์ใน Apple Watch Series 8 จะสุ่มตัวอย่างอุณหภูมิจากข้อมือทุกๆ 5 วินาทีและวัดการเปลี่ยนแปลงที่เล็กน้อยที่สุดได้ถึง 0.1°C และผู้ใช้สามารถดูความเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิร่างกายในตอนกลางคืนเมื่อเทียบกับช่วงที่ผ่านมาได้ในแอปสุขภาพ ซึ่งอาจเกิดจากการออกกำลังกาย อาการเจ็ตแล็ก หรือแม้แต่การเจ็บป่วย2

ผู้ใช้สามารถรับการคาดคะเนช่วงไข่ตกจากข้อมูลย้อนหลังด้วยความสามารถในการติดตามค่าอุณหภูมิแบบใหม่ใน Apple Watch ซึ่งการที่ผู้ใช้ทราบว่าช่วงไข่ตกจะเกิดขึ้นเมื่อใดนั้นอาจเป็นประโยชน์สำหรับการวางแผนครอบครัว และ Apple Watch Series 8 ก็ทำให้เรื่องนี้ง่ายดายและสะดวกยิ่งขึ้นด้วยการแสดงการคาดคะเนเหล่านี้ในแอปสุขภาพ และคุณสมบัติการติดตามค่าอุณหภูมิยังช่วยให้การคาดคะเนรอบเดือนดีขึ้นอีกด้วย 

นอกจากนี้ iOS 16 และ watchOS 9 ยังช่วยให้ผู้ที่ใช้คุณสมบัติการติดตามรอบเดือนทุกคนสามารถรับการแจ้งเตือนหากประวัติรอบเดือนที่บันทึกไว้แสดงถึงความคลาดเคลื่อนที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น ประจำเดือนมาไม่ปกติ มาไม่สม่ำเสมอ หรือมานานกว่าปกติ รวมถึงการมีเลือดออกกะปริบกะปรอย ซึ่งอาจเป็นอาการบ่งชี้ปัญหาด้านสุขภาพบางอย่าง

คุณสมบัติการติดตามรอบเดือนซึ่งเป็นคุณสมบัติใหม่ใน iOS 16 และ watchOS 9 สามารถส่งการแจ้งเตือนหากประวัติรอบเดือนที่บันทึกไว้แสดงถึงความคลาดเคลื่อนที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น ประจำเดือนมาไม่ปกติ มาไม่สม่ำเสมอ หรือมานานกว่าปกติ

คุณสมบัติการตรวจจับการชนกัน 

คุณสมบัติการตรวจจับการชนกันเกิดจากการที่ Apple ได้พัฒนาอัลกอริทึมแบบรวมเซ็นเซอร์ขั้นสูงที่ใช้ประโยชน์จากไจโรสโคปและอุปกรณ์ตรวจจับการเคลื่อนไหวใหม่ที่ทรงพลังยิ่งขึ้นบน Apple Watch ซึ่งวันนี้มาพร้อมอุปกรณ์ตรวจจับการเคลื่อนไหวที่มีช่วงไดนามิกสูงที่สุดในบรรดาสมาร์ทวอทช์ อัลกอริทึมนี้สร้างขึ้นจากข้อมูลที่เก็บรวบรวมจากเซ็นเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหวใหม่เหล่านี้ในห้องปฏิบัติการทดสอบการชนกันของรถยนต์โดยสารทั่วไปโดยบุคลากรผู้เชี่ยวชาญซึ่งมีการจำลองอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจริงๆ อย่างเช่นการชนด้านหน้า การชนท้าย การชนด้านข้าง และการพลิกคว่ำ นอกจากข้อมูลการเคลื่อนไหวแล้ว คุณสมบัติการตรวจจับการชนกันยังใช้บารอมิเตอร์, GPS และไมโครโฟนบน iPhone มีส่วนในการตรวจจับรูปแบบเฉพาะที่ช่วยให้ระบุได้ว่าเกิดเหตุชนกันอย่างรุนแรงหรือไม่

เมื่อ Apple Watch ตรวจจับได้ว่าเกิดเหตุรถชนอย่างรุนแรง อุปกรณ์จะตรวจสอบกับผู้ใช้และโทรหาบริการฉุกเฉินหากพวกเขาไม่ตอบสนองหลังจากนับถอยหลังเป็นเวลา 10 วินาที ผู้ปฏิบัติการฉุกเฉินจะได้รับตำแหน่งอุปกรณ์ของผู้ใช้ ซึ่งจะแชร์กับรายชื่อติดต่อฉุกเฉินของผู้ใช้ด้วย ทั้งหมดนี้ช่วยให้คุณสมบัติการตรวจจับการชนกันบน Apple Watch และ iPhone ทำงานร่วมกันอย่างราบรื่นเพื่อมอบความช่วยเหลือได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อตรวจจับได้ว่าเกิดเหตุรถชนอย่างรุนแรง อินเทอร์เฟซการโทรของบริการฉุกเฉินจะปรากฏบน Apple Watch เนื่องจากเป็นอุปกรณ์ที่มักจะอยู่ใกล้ตัวผู้ใช้มากที่สุด และการโทรจะเกิดขึ้นบน iPhone หากอยู่ในระยะการเชื่อมต่อที่ดีที่สุดที่เป็นไปได้

โหมดประหยัดพลังงาน

โหมดประหยัดพลังงานใหม่สามารถยืดอายุแบตเตอรี่ให้ใช้งานได้นานสูงสุด 36 ชั่วโมงสำหรับ Apple Watch Series 8 เพื่อให้ผู้ใช้ต่อติดกับทุกเรื่องได้นานขึ้น โดยต้องมี iPhone อยู่ด้วย3 โหมดใหม่นี้จะปิดใช้งานหรือจำกัดการทำงานของเซ็นเซอร์และคุณสมบัติบางตัวชั่วคราว รวมถึงจอภาพ Retina แบบติดตลอด การเริ่มออกกำลังกายอัตโนมัติ การแจ้งเตือนสุขภาพหัวใจ และอื่นๆ

watchOS 9

ซอฟต์แวร์ใหม่ล่าสุดนำคุณสมบัติใหม่ๆ และประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นมาสู่ระบบปฏิบัติการบนอุปกรณ์สวมใส่ที่ล้ำหน้าที่สุดในโลก ดังนี้

  • การใช้งานโรมมิ่งในต่างประเทศซึ่งจะพร้อมใช้งานภายในปีนี้ช่วยให้ผู้ใช้เชื่อมต่อกับเครือข่ายเซลลูลาร์ได้เสมอ ขณะเดินทางในต่างประเทศ โดยผู้ใช้สามารถขยายแผนบริการของ iPhone ไปยัง Apple Watch ได้โดยมีค่าธรรมเนียมเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลย และจะใช้ได้กับผู้ให้บริการกว่า 30 รายทั่วโลก4
  • ผู้ใช้ที่ได้รับการวินิจฉัยว่ามีภาวะ AFib สามารถเปิดใช้งานคุณสมบัติประวัติภาวะ AFib5ที่ผ่านการรับรองโดย US FDA และเข้าถึงข้อมูลสำคัญๆ รวมถึงค่าโดยประมาณว่าจังหวะการเต้นของหัวใจแสดงสัญญาณของภาวะ AFib บ่อยแค่ไหน พร้อมดูข้อมูลที่ละเอียดยิ่งขึ้นเกี่ยวกับอาการของพวกเขา ผู้ใช้จะได้รับการแจ้งเตือนโดยประมาณจากสัปดาห์ก่อน และยังดูประวัติโดยละเอียดได้ในแอปสุขภาพบน iPhone รวมถึงปัจจัยในการใช้ชีวิตที่อาจส่งผลต่อภาวะ AFib เช่น การนอนหลับ การดื่มแอลกอฮอล์ และการออกกำลังกาย นอกจากนั้น ผู้ใช้ยังสามารถดาวน์โหลดไฟล์ PDF จากแอปสุขภาพบน iPhone พร้อมประวัติโดยละเอียดของภาวะ AFib และปัจจัยในการใช้ชีวิต ซึ่งสามารถแชร์กับแพทย์และผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพได้อย่างง่ายดายเพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการพูดคุยได้ละเอียดยิ่งขึ้น คุณสมบัติประวัติภาวะ AFib สุดล้ำใน watchOS 9 ผ่านการรับรองจากหน่วยงานด้านสุขภาพทั่วโลกและสามารถใช้งานได้ในหลายพื้นที่ โดยจะพร้อมใช้งานในกว่า 100 ประเทศและภูมิภาค รวมถึงสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย6 แคนาดา ยุโรป ฮ่องกง เม็กซิโก แอฟริกาใต้ สหราชอาณาจักร และอีกมากมาย
  • และยังมีแอปเข็มทิศที่ออกแบบมาใหม่หมดใน watchOS 9 ที่จะดึงข้อมูลเชิงลึกขึ้นมาแสดงมากขึ้นใน 3 มุมมองที่แตกต่างกัน แอปสามารถแสดงมุมมองแบบผสมที่แสดงทั้งหน้าปัดเข็มทิศแบบอนาล็อกพร้อมๆ กับมุมมองแบบดิจิทัลได้ เมื่อหมุน Digital Crown ผู้ใช้จะเห็นมุมมองอื่นๆ เพิ่มเติมที่แสดงละติจูด ลองจิจูด ระดับความสูง และความชัน รวมทั้งมุมมองสำหรับการใช้เข็มทิศนำทางที่แสดงจุดอ้างอิงเข็มทิศและการติดตามการเดิน คุณสมบัติการติดตามการเดินจะใช้ข้อมูล GPS เพื่อสร้างเส้นทางที่ผู้ใช้เดินผ่านมา ซึ่งมีประโยชน์ในกรณีที่หลงทิศหรือหลงทาง และต้องการความช่วยเหลือในการเดินย้อนกลับเส้นทางเดิม โดยผู้ใช้สามารถตั้งค่าให้คุณสมบัตินี้ทำงานโดยอัตโนมัติเมื่ออยู่ในพื้นที่อับสัญญาณได้ด้วย คุณสมบัติจุดอ้างอิงเข็มทิศเป็นวิธีที่สะดวกรวดเร็วในการปักตำแหน่งหรือจุดสนใจลงในแอปโดยตรง แตะไอคอนจุดอ้างอิงเข็มทิศเพื่อวางจุดอ้างอิง เมื่อเลือกจุดอ้างอิง ก็จะเห็นมุมมองแบบเจาะจงที่แสดงทิศทางของจุดอ้างอิงนั้น รวมถึงระยะทางโดยประมาณว่าจุดอ้างอิงนั้นอยู่ห่างออกไปเท่าไหร่
  • แอปออกกำลังกายใน watchOS 9 มาพร้อมมุมมองใหม่ๆ ในระหว่างเซสชั่น เช่น เซ็กเมนต์ สปลิทส์ และระดับความสูง ซึ่งช่วยมอบข้อมูลการออกกำลังกายที่แม่นยำยิ่งขึ้น ผู้ใช้ยังสามารถยกระดับการฝึกซ้อมไปอีกขั้นด้วยประสบการณ์การออกกำลังกายขั้นสูงที่มีทั้งโซนอัตราการเต้นของหัวใจ การออกกำลังกายแบบกำหนดเอง ตัววัดเวลาเฉลี่ย และภายในปีนี้ก็จะได้พบกับเส้นทางแข่งขันด้วย ส่วนผู้ที่เป็นนักไตรกีฬา หรือทำกิจกรรมที่ต้องว่ายน้ำ ขี่จักรยาน หรือวิ่งต่อเนื่องกันไม่ว่าจะทำอะไรก่อนหลัง ก็มีการออกกำลังกายแบบมัลติสปอร์ตที่จะตรวจจับโดยอัตโนมัติแล้วสลับระหว่างการออกกำลังกายแต่ละประเภทได้ง่ายๆ และwatchOS 9 ก็มาพร้อมข้อมูลและคุณสมบัติเพิ่มเติมที่จะช่วยติดตามว่าผู้ใช้วิ่งอย่างมีประสิทธิภาพแค่ไหน โดยค่าฟอร์มการวิ่งใหม่ๆ ที่สามารถเพิ่มลงในมุมมองขณะออกกำลังกายได้มีทั้งความยาวก้าว ระยะเวลาสัมผัสพื้น และการกระเด้งตัวในแนวดิ่ง
  • และในวันนี้ การติดตามการนอนหลับบน watchOS 9 จะแสดงข้อมูลที่ละเอียดยิ่งขึ้นด้วยคุณสมบัติระยะของการนอนหลับใหม่ Apple Watch สามารถประเมินได้ว่าผู้ใช้อยู่ในระยะหลับฝัน หลับจริง หรือหลับลึกด้วยการใช้สัญญาณจากอุปกรณ์ตรวจจับการเคลื่อนไหวและเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ ผู้ใช้สามารถดูข้อมูลระยะของการนอนหลับได้โดยตรงบน Apple Watch ในแอปการนอนหลับและยังดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในแอปสุขภาพบน iPhone ซึ่งรวมถึงแผนภูมิระยะการนอนหลับแบบอินเทอร์แอคทีฟ ตลอดจนเวลานอนหลับควบคู่ไปกับอัตราการเต้นของหัวใจและอัตราการหายใจในแผนภูมิเปรียบเทียบการนอนหลับ
  • ประสบการณ์แอปติดตามการทานยาใหม่บน Apple Watch และ iPhone ช่วยให้ผู้ใช้จัดการและติดตามการทานยา วิตามิน และอาหารเสริม ทั้งยังให้พวกเขาสร้างรายการยา กำหนดเวลาและรายการเตือนความจำ พร้อมทั้งดูข้อมูลเกี่ยวกับยาของพวกเขาได้ในแอปสุขภาพ7

กลุ่มผลิตภัณฑ์ Apple Watch Series 8

Apple Watch Series 8 จะวางจำหน่ายในตัวเรือน สี และสายแบบต่างๆ เพื่อให้เข้ากับสไตล์ที่หลากหลาย Apple Watch Series 8 มาในตัวเรือนอะลูมิเนียมและสแตนเลสสตีลในสองขนาด ได้แก่ ขนาด 41 มม. และ 45 มม. และสามารถใช้ได้กับสายทั้งหมด ตัวเรือนอะลูมิเนียมสำหรับ Apple Watch Series 8 มาในสีสตาร์ไลท์ สีมิดไนท์ สีเงิน และรุ่น (PRODUCT)RED ในขณะที่ตัวเรือนสแตนเลสสตีลมาในสีเงิน สีกราไฟต์ และสีทอง คุณสามารถจับคู่ Apple Watch Series 8 กับสายใดก็ได้ในคอลเลกชั่นเดียวกันด้วย Apple Watch Studio 

Apple Watch Nike และ Apple Watch Hermès ก็จะเปิดตัวสายนาฬิกาและหน้าปัดใหม่ภายในปีนี้เช่นกัน Nike มาพร้อมสายแบบ Sport Band ใหม่ในสีสันสดใสและสายแบบ Sport Loop ใหม่พร้อมโลโก้ “Just Do It” ที่ถักทอลงบนสาย ภายในปีนี้ ผู้ใช้ Apple Watch ที่ใช้ watchOS 9 แม้แต่ผู้ที่ไม่มีรุ่น Nike จะสามารถเข้าถึงหน้าปัดนาฬิกา Nike ได้ทั้งหมดรวมไปถึงสีสันสดใหม่ที่จะเพิ่มเข้ามาในหน้าปัด Bounce

Nike มาพร้อมสายแบบ Sport Band ใหม่ในสีสันสดใสและสายแบบ Sport Loop ใหม่พร้อมโลโก้ “Just Do It” ที่ถักทอลงบนสาย

Apple Watch Hermès พร้อมเปิดตัวสายใหม่ 2 สาย ได้แก่ สายแบบ H Diagonal ที่เกิดจากการฉลุหนังให้เป็นรูเล็กๆ หลายร้อยรูเพื่อรังสรรค์สัญลักษณ์ตัว H ของ Hermès ในลวดลายแบบสปอร์ต และสายแบบ Gourmette Metal ที่โดดเด่นด้วยห่วงโซ่สแตนเลสขัดเงาและหนังสี Noir ที่พันรอบข้อมือสองครั้ง หน้าปัดนาฬิกา Hermès แบบใหม่ที่ดูโดดเด่นแปลกตาในชื่อว่า Lucky Horse ช่วยเติมเต็มสายนาฬิกาใหม่ๆ ได้อย่างสวยงามลงตัวพร้อมทั้งยกย่องการขี่ม้าซึ่งเป็นต้นกำเนิดของแบรนด์ด้วยม้าที่เคลื่อนไหวได้ซึ่งจะหลับใหลเมื่อผู้ใช้ลดข้อมือลงและมีชีวิตชีวาเมื่อยกข้อมือขึ้น

Apple Watch SE 

Apple Watch SE ใหม่มาพร้อมคุณสมบัติขั้นสูงในราคาใหม่ที่ถูกลงกว่าเดิม และยังเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมให้ผู้ใช้ได้เริ่มต้นเส้นทางของ Apple Watch, ใช้งานคุณสมบัติการตั้งค่าครอบครัว หรือมอบเป็นของขวัญให้คนที่รัก การอัปเกรดที่ทรงพลังรวมถึงโปรเซสเซอร์แบบ Dual-core ของ SiP รุ่น S8 ซึ่งเป็นรุ่นเดียวกับ Apple Watch Series 8 และ Apple Watch Ultra ทำให้ Apple Watch SE เร็วกว่ารุ่นก่อนหน้าสูงสุด 20% ทั้งยังมาพร้อมคุณสมบัติการตรวจจับการชนกันและการใช้งานโรมมิ่งในต่างประเทศอีกด้วย

Apple Watch SE ยังคงดีไซน์ตัวเรือนแบบเดิมเอาไว้ แต่ครั้งนี้มาพร้อมฝาหลังตัวเรือนที่ได้รับการออกแบบใหม่ในสีที่เข้ากันโดยใช้วัสดุผสมไนลอน ซึ่งทำให้มีน้ำหนักเบากว่าที่เคย นอกเหนือจากคุณสมบัติด้านฟิตเนสและสุขภาพที่ดียิ่งขึ้นใน watchOS 9 แล้ว ผู้ใช้ Apple Watch SE ยังจะได้รับประโยชน์จากแอปเข็มทิศใหม่อีกด้วย Apple Watch SE มาในตัวเรือนอะลูมิเนียมขนาด 40 มม. และ 44 มม. ในสีมิดไนท์ สีสตาร์ไลท์ และสีเงิน และสามารถใช้ได้กับสายทั้งหมด 

คุณสมบัติการตั้งค่าครอบครัวช่วยให้สมาชิกครอบครัวที่ไม่มี iPhone เป็นของตัวเองสามารถรับประโยชน์และเพลิดเพลินกับคุณสมบัติของ Apple Watch ได้

Apple Watch กับสิ่งแวดล้อม 

Apple Watch Series 8 และ Apple Watch SE ได้รับการออกแบบมาเพื่อลดผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อม โดยทั้งสองรุ่นผลิตด้วยอะลูมิเนียมรีไซเคิล 100% ในตัวเรือน, ทังสเตนรีไซเคิล 100% ใน Taptic Engine รวมถึงการใช้แร่โลหะหายากที่ผ่านการรีไซเคิล 100% ในแม่เหล็กทุกชิ้น ซึ่งเป็นครั้งแรกของ Apple Watch ที่ทั้งสองรุ่นใช้ทองคำรีไซเคิล 100% ในการเคลือบแผงวงจรพิมพ์หลายชิ้นบน Apple Watch Series 8 และการเคลือบ SiP บน Apple Watch SE ใหม่

ทั้งสองรุ่นยังปราศจากสารปรอท, BFR, PVC และเบริลเลียมอีกด้วย บรรจุภัณฑ์ของ Apple Watch ไม่มีพลาสติกหุ้มชั้นนอกและใช้เยื่อไม้เป็นหลักอย่างน้อย 90% จึงทำให้ Apple เข้าใกล้เป้าหมายของบริษัทมากยิ่งขึ้น นั่นคือการเลิกใช้พลาสติกในบรรจุภัณฑ์ทั้งหมดภายในปี 2025

วันนี้การดำเนินงานของบริษัท Apple ทั่วโลกมีความเป็นกลางทางคาร์บอน และภายในปี 2030 เราวางแผนที่จะมีความเป็นกลางทางคาร์บอน 100% ในทุกภาคส่วนของธุรกิจ ซึ่งรวมถึงซัพพลายเชนการผลิตและวงจรชีวิตของสินค้าทั้งหมด นั่นหมายความว่าอุปกรณ์ Apple ทุกเครื่องที่จำหน่ายจะไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อสภาพภูมิอากาศ ตั้งแต่การผลิตชิ้นส่วน การประกอบ การขนส่ง การใช้งานของลูกค้า การชาร์จ ตลอดจนการรีไซเคิลและการคัดแยกวัสดุ

ความเป็นส่วนตัว

ความเป็นส่วนตัวเป็นพื้นฐานในการออกแบบและพัฒนาคุณสมบัติสุขภาพทั้งหมดของ Apple และเมื่อ iPhone ของผู้ใช้ถูกล็อคด้วยรหัสผ่าน, Touch ID หรือ Face ID ข้อมูลสุขภาพและฟิตเนสทั้งหมดที่อยู่ในแอปสุขภาพก็จะถูกเข้ารหัส โดยไม่รวมข้อมูล ID ทางแพทย์ไปด้วย นอกจากนี้ข้อมูลสุขภาพใดๆ ก็ตามที่สำรองไว้ใน iCloud ก็จะได้รับการเข้ารหัสทั้งในระหว่างรับส่งและเมื่ออยู่บนเซิร์ฟเวอร์ของ Apple เมื่อใช้ iOS และ watchOS ด้วยการตรวจสอบสิทธิ์สองปัจจัยและรหัสผ่านตามค่าเริ่มต้น ข้อมูลแอปสุขภาพที่ซิงค์กับ iCloud จะได้รับการเข้ารหัสตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง นั่นหมายความว่า Apple จะไม่มีคีย์ในการถอดรหัสข้อมูลและไม่สามารถอ่านข้อมูลใดๆ ได้

ราคาและความพร้อมในการวางจำหน่าย

  • Apple Watch Series 8 และ Apple Watch SE จะพร้อมให้สั่งซื้อในเร็วๆ นี้ในราคาเริ่มต้นที่ 15,900 บาท และ 9,900 บาท
  • watchOS 9 จะพร้อมใช้งานสำหรับ Apple Watch Series 4 และใหม่กว่า ในวันจันทร์ที่ 12 กันยายน และต้องใช้กับ iPhone 8 หรือใหม่กว่า และ iPhone SE (รุ่นที่ 2) หรือใหม่กว่า ที่ใช้ iOS 16 คุณสมบัติบางประเภทอาจใช้ไม่ได้ในอุปกรณ์บางเครื่องและในบางภูมิภาค

เกี่ยวกับ Apple Apple ได้ปฏิวัติเทคโนโลยีส่วนบุคคลด้วยการเปิดตัว Macintosh สู่ท้องตลาดตั้งแต่ปี 1984 ในวันนี้ Apple คือผู้นำระดับโลกด้านนวัตกรรมด้วย iPhone, iPad, Mac, Apple Watch และ Apple TV แพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ทั้ง 5 แพลตฟอร์มของ Apple ได้แก่ iOS, iPadOS, macOS, watchOS และ tvOS มอบประสบการณ์การใช้งานอย่างต่อเนื่องบนอุปกรณ์ต่างๆ ของ Apple ทั้งหมด พร้อมเพิ่มศักยภาพให้แก่ผู้คนด้วยบริการที่ก้าวล้ำอย่าง App Store, Apple Music, Apple Pay และ iCloud พนักงานของ Apple กว่า 100,000 คนทุ่มเทแรงกายแรงใจในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดระดับโลก และทำให้โลกใบนี้ดีขึ้นกว่าเดิม

  1. แอปการติดตามรอบเดือนไม่ได้ออกแบบมาเพื่อใช้ในการวินิจฉัยทางการแพทย์ การรักษา หรือเพื่อจุดประสงค์ทางการแพทย์อื่นๆ รวมถึงการคุมกำเนิด และการสนับสนุนการตั้งครรภ์
  2. คุณสมบัติการติดตามค่าอุณหภูมิไม่ใช่อุปกรณ์ทางการแพทย์และไม่ได้ออกแบบมาเพื่อใช้ในการวินิจฉัยทางการแพทย์ การรักษา หรือเพื่อจุดประสงค์ทางการแพทย์อื่นๆ
  3. แบตเตอรี่ของ Apple Watch Series 8 สามารถใช้งานได้สุงสุด 36 ชั่วโมงเมื่อใช้งานตามปกติโดยที่มี iPhone อยู่ด้วย 
  4. การใช้งานโรมมิ่งในต่างประเทศมีให้บริการบน Apple Watch SE, Apple Watch Series 8 และ Apple Watch Ultra และรุ่นเซลลูลาร์ทั้งหมดตั้งแต่ Apple Watch Series 5 เป็นต้นไปที่ใช้ watchOS 9 ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ apple.com/th/watch/cellular
  5. ประวัติภาวะ AFib ออกแบบมาสำหรับผู้ใช้ที่มีอายุ 22 ปีขึ้นไปที่ได้รับการวินิจฉัยว่ามีภาวะหัวใจห้องบนสั่นพลิ้ว
  6. พร้อมให้ใช้งานในออสเตรเลียภายในปีนี้
  7. อย่างไรก็ดีไม่ควรใช้คุณสมบัติการติดตามการทานยาแทนการตัดสินใจทางการแพทย์โดยผู้เชี่ยวชาญ ข้อมูลเพิ่มเติมมีอยู่บนฉลากยา แต่โปรดปรึกษาผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพก่อนตัดสินใจในเรื่องใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพของคุณ